พช.ดึง"เนาวรัตน์-บัวขาว"โปรโมทท่องเที่ยวเมืองรองสู่ “แอ่งเล็ก เช็คอิน”

28 ก.ย. 2561 | 12:54 น.
พช.ดึงศิลปินแห่งชาติ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ร่วมเขียนบทกวีเสน่ห์ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” มรดกล้ำค่าวัฒนธรรมประเพณีไทย พร้อมดึง “บัวขาว บัญชาเมฆ” ร่วมโปรโมทท่องเที่ยวเมืองรองสู่ “แอ่งเล็ก เช็คอิน” กว่า 3,273 แห่งทั่วประเทศ มุ่งสู่เป้าหมายเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและประชาชนพึ่งตนเองได้

นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีว่า ได้ชวนเชิญ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ศิลปินแห่งชาติ มาร่วมเขียนบทกวีบอกเล่าความโดดเด่นของ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ในภาพรวมของแต่ละจังหวัดรวม 76 จังหวัด เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์โครงการนี้ และจัดพิมพ์เป็นไกด์บุ๊คเผยแพร่ทั่วประเทศ รวมถึงได้ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ให้แก่โครงการนี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีนักร้อง นักแสดง และนักเขียนอีกหลายคนที่ตอบรับจะร่วมกันเผยแพร่เสน่ห์ของ “แอ่งเล็ก...เช็คอิน” เพื่อให้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์แก่ชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศให้ได้มากที่สุด

nawat1

หากจะเปรียบไปแล้วการพัฒนา OTOP ก็เหมือนเหรียญสองด้านคือหัวกับก้อย แต่เดิมนั้นการพัฒนา OTOP เน้นที่ด้านหัว คือคัดเลือกสินค้าเพื่อไปจำหน่ายตามงานอีเว้นท์ต่างๆ ที่ปีหนึ่งก็ทำได้ในจำนวนจำกัด และชาวบ้านต้องขนสินค้าออกมาขายนอกชุมชน จำนวนสินค้าที่ได้รับคัดเลือกให้ไปขายตามงานต่างๆ ก็กระจุกตัวอยู่ที่ระดับสามดาวขึ้นไปที่มีอยู่ราวสองหมื่นรายการ ขณะที่สินค้า OTOP ที่ขึ้นทะเบียนมีกว่าแปดหมื่นรายการ และจนถึงขณะนี้มีราวหนึ่งแสนสองหมื่นรายการ

โครงการ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” จึงเป็นเหรียญอีกด้าน ที่พัฒนา OTOP โดยการนำศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศมาช่วยขับเคลื่อน นำผู้ซื้อคือนักท่องเที่ยว ลงสู่ชุมชน ไปพบผู้ขายคือชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้สินค้า OTOP กลุ่มใหญ่ที่รอการพัฒนาและเข้าถึงได้รับโอกาสในการสร้างรายได้แก่ผู้ผลิตโดยตรงนั่นเอง

090861-1927-9-335x503-8-335x503

จากข้อมูลระบุว่าประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน/ปี และนักท่องเที่ยวไทย 60 ล้านคน/ครั้ง ต่อปี ตลอดทั้งปี ส่วนผู้ขาย OTOP และสินค้าบริการอื่นๆ ก็มีอยู่ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด โดยทุกชุมชนไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เพราะแต่ละแห่งมีทั้งวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต อาหารการกิน สัมมาชีพ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมทั้งสินค้า OTOP ที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นที่ชาวบ้านผลิตได้เองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมีการพัฒนาให้เกิดการรับรู้และเข้าถึง “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ก็จะทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้พบกัน จะทำให้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลกระจายไปสู่ชุมชนฐานรากของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

พร้อมกันนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ยังได้พัฒนาเพื่อเชื่อมต่อแพลทฟอร์มของ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ที่เรียกกันว่า “แอ่งเล็ก เช็คอิน” เข้ากับ “เมืองหลัก” และ “เมืองรอง” ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวเดิมของประเทศที่มีอยู่ก่อนแล้ว เป็น Application ที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางและหาข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ทั้ง 3,273 แห่งทั่วประเทศ

nawat2

 

“เป้าหมายการทำงานของกรมการพัฒนาชุมชนคือ เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง และประชาชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2564 โดยโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อยู่ภายใต้งบประมาณ “โครงการไทยนิยม ยั่งยืน” ที่รัฐบาลผลักดันอย่างเต็มที่นี้ นับเป็นการพลิกโฉม OTOP ครั้งสำคัญในยุค 4.0”

นายอภิชาติกล่าว ย้ำอีกว่าเราทุกคนต่างสามารถเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของโครงการนี้ได้ ทั้งในฐานะเจ้าบ้านที่ดีที่พร้อมจะเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยเสน่ห์อันเป็นอัตลักษณ์แต่ละชุมชน และในฐานะนักท่องเที่ยวที่พร้อมจะออกเดินทางไปค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ และอุดหนุนสินค้า OTOP จาก “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ทั้ง 3,273 ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ในลักษณะ “ประชารัฐ” โดยชุมชนเป็นตัวตั้ง เอกชนร่วมขับเคลื่อน และรัฐสนับสนุน ภายใต้แนวคิด “ร่วมสุข ร่วมวิถี ร่วมสมัย” ร่วมสร้างรอยยิ้มและความสุขอย่างยั่งยืนให้แก่ชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศไปด้วยกัน

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว