"แอร์พอร์ตลิ้งค์" แจงเรื่องความปลอดภัย หลัง 'ศรีสุวรรณ' เตรียมร้อง 'บิ๊กตู่'

27 ก.ย. 2561 | 01:14 น.
แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ชี้แจงกรณีสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเตรียมร้องเรียนนายกฯ ให้ตรวจสอบปัญหาด้านความปลอดภัยของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ด้าน 'ไพรินทร์' ยัน! หาก 9 ขบวน ซ่อมเสร็จและผู้โดยสารแน่นเต็มพิกัด ไฟเขียวซื้อ 7 ขบวนใหม่ทันที

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เตรียมเข้ายื่นเรื่องต่อ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบปัญหาด้านความปลอดภัยของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ นั้น บริษัทขอชี้แจงว่า รายละเอียดในข้อร้องเรียน บริษัทได้ทำการชี้แจงไปแล้ว แต่เพื่อความชัดเจนและความเข้าใจที่ถูกต้องจึงขอชี้แจงอีกครั้ง ดังนี้


S__1016088

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ทำหน้าที่รับจ้างเดินรถให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดย รฟท. ถือหุ้น 100% โดยบริษัทจะได้รับงบประมาณในการดำเนินงานจาก รฟท. ในแต่ละปี และรายได้จากการดำเนินงานจะต้องส่งมอบให้กับ รฟท. ทั้งหมด

กรณีระบบไฟฟ้าขัดข้อง ทำให้ขบวนรถไฟฟ้าไม่สามารถให้บริการและหยุดระหว่างทางนั้น เกิดจากทั้งปัจจัยภายในที่ระบบปฏิบัติการขัดข้อง รวมทั้งปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การที่ถูกนกบินชนอุปกรณ์รับกระแสไฟฟ้า และฟ้าผ่าใกล้อุปกรณ์ระบบไฟฟ้า แต่ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ บริษัทได้เร่งตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขเหตุการณ์ตามมาตรการ และได้ปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติงานเรื่องการจัดการฝึกซ้อม การจัดการเหตุการณ์บริหารเดินรถในสถานการณ์ปกติ (Normal Operation) การบริหารจัดการเดินรถในสภาวะไม่ปกติ (Degrade Operation) และการบริหารจัดการเดินรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Operation) ซึ่งได้รับคู่มือและการฝึกอบรมจากการรถไฟเยอรมัน หรือ ด็อยท์เชอบาน (Deutsche Bahn International) และผ่านการรับรองจาก ICE (Independent Consultant Engineer) รวมถึงได้จัดให้มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยงานภายนอกต่าง ๆ ภายใต้ข้อตกลงร่วมกัน ตามคู่มือบริหารความเสี่ยงและแผนเผชิญเหตุของระบบขนส่งสาธารณะทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ของกระทรวงคมนาคม ทำให้ระบบรถไฟฟ้าสามารถกลับมาให้บริการตามปกติได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีผู้โดยสารได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

กรณีที่ว่า มีการยุบเลิกระบบรถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ Express Line เหลือเพียงระบบ City Line นั้น บริษัทไม่ได้ยกเลิกระบบรถไฟฟ้าด่วน Express Line แต่ได้นำมาปรับเปลี่ยนภายในขบวนรถไฟฟ้าด่วนให้สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการในระบบ City Line มีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่บริษัทมีขบวนรถไฟฟ้า City Line 5 ขบวน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ทำให้บริษัทจำเป็นต้องนำขบวนรถ Express Line อีก 4 ขบวน มาให้บริการ เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการของผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ โดยสามารถเพิ่มจาก 45,000 คน/วัน เป็น 74,000 คน/วัน ปัจุบันเฉลี่ย 70,000 คน/วัน

กรณีสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานี เช่น ลิฟต์และบันไดเลื่อนนั้น บริษัทได้ดำเนินการว่าจ้าง บริษัท ทิสเซ่น ครุปป์ จำกัด เจ้าของระบบทำการตรวจสอบอุปกรณ์ให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอตามมาตรฐานสากล

ด้านความไม่เพียงพอของขบวนรถไฟฟ้านั้น บริษัทมีรถไฟฟ้าให้บริการทั้งหมด 9 ขบวน ในปัจจุบัน สามารถให้บริการได้ 8 ขบวน เนื่องจากอยู่ในระหว่างซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) คาดว่าจะดำเนินการซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) แล้วเสร็จ และมีรถไฟฟ้าให้บริการครบ 9 ขบวน ในช่วงเดือน ธ.ค. 2561

ด้านการปรับปรุงบำรุงรักษาระบบรางนั้น โดยปกติแล้วบริษัทจะมีการซ่อมบำรุงรักษา หรือที่เรียกว่า ซ่อมบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) อย่างสม่ำเสมอ โดยได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการซ่อมบำรุงราง ร่วมดำเนินการตรวจสอบ หากพบอุปกรณ์ที่มีความชำรุดเสียหายจะเร่งดำเนินการแก้ไขปรับเปลี่ยนทันที

ด้านวิศวกรรมซ่อมบำรุง รฟฟท. ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ บริษัท ซีเมนส์ ผู้ผลิตรถไฟฟ้า ในการสำรองอะไหล่ในระบบรถไฟฟ้าและระบบอาณัติสัญญาณ มีการจัดทำแผนเพื่อว่าจ้างบริษัทชั้นนำที่มีประสบการณ์ เพื่อเข้ามาดูแลงานซ่อมบำรุงและงานจัดหาอะไหล่สำรองต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการในการใช้งาน และมีการให้บริการการจัดหาอะไหล่สำคัญ (Spare Part Service) ที่ส่งผลต่อการให้บริการ โดยบริษัทได้มีการประเมินสภาพของขบวนรถ และความต้องการอะไหล่ และการซ่อมบำรุงอย่างน้อยในช่วง 2 ปีข้างหน้า ก่อนที่จะรวมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมทั้งได้มีการทำแผนรายละเอียดเสนอคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติแล้ว

ด้านการจัดหาประตูกั้นชานชาลา (Platform Screen Door) นั้น ขณะนี้บริษัทเตรียมติดตั้งราวกั้นชานชาลา หรือราวกั้นแบบราวสแตนเลสใน 7 สถานี รวม 14 ชานชาลา ซึ่งคล้ายกับรถไฟชินคันเซ็นของประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะใช้เวลาในการติดตั้งประมาณ 3-4 เดือน แล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 2562 รวมทั้งเตรียมดำเนินการติดตั้งยางปิดช่องว่างระหว่างชานชาลาและประตู (Gap Filler) เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2562 นอกจากนั้น บริษัทมีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารบนชั้นชานชาลา ได้แก่ การทำ Group Release เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารบนชั้นชานลาชาหนาแน่นเกินไป และมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนชั้นชานชาลา

ด้านการประกันภัยแก่ผู้โดยสาร บริษัทมีการจัดทำประกันภัยกรณีเกิดอุบัติเหตุและอุบัติภัยแก่ผู้โดยสาร และมีมาตรการเยียวยา และช่วยเหลือผู้โดยสารหากเกิดกรณีอุบัติเหตุขึ้นกับผู้โดยสารในการใช้บริการ โดยได้กำหนดขั้นตอนปฏิบัติงาน ( Procedure ) และดำเนินการฝึกซ้อมขั้นตอนปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีการฝึกซ้อมแผนอพยพผู้โดยสาร ฝึกซ้อมเผชิญเหตุการณ์อัคคีภัย และแผนเผชิญเหตุร่วมกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม สำหรับการแต่งตั้งผู้บริหารด้านซ่อมบำรุงนั้น ได้ดำเนินการพิจารณาตามระเบียบด้วยความถูกต้องและเหมาะสม โดยพิจารณาผลการปฏิบัติงานเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ บริษัทกำลังดำเนินการนำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 : 2015 มาใช้ในงานวิศวกรรมซ่อมบำรุงและงานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้าและให้บริการ เพื่อสร้างมาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นในด้านการบริการแก่ผู้โดยสารนั้น ล่าสุด บริษัทได้เร่งดำเนินการตามแผนงานดังกล่าว เพื่อขอรับรองมาตรฐานในงานวิศวกรรมซ่อมบำรุง และงานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้าและให้บริการ โดยในส่วนของงานวิศวกรรมซ่อมบำรุง คาดว่าจะได้รับการรับรองระบบบริหารคุณภาพ (Certification Body : CB) ในเดือน ม.ค. 2562 ส่วนงานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้าและให้บริการนั้น คาดว่าจะได้รับการรับรองจากหน่วยรับรอง (Certification Body : CB) ในเดือน ก.พ. 2562


S__1016089

นอกจากนั้น บริษัทยังได้รับฟังความต้องการของผู้โดยสาร และได้นำมาพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการใช้บริการของผู้โดยสาร ทั้งการให้บริการ Free WIFI ในทั้ง 8 สถานี , การให้บริการตู้ Mobile Charger บริเวณชั้นชานชาลา , การจัดโปรโมชั่นการตลาดและสิทธิพิเศษจากบัตรสมาร์ทพาส และการจัดกิจกรรมพิเศษให้แก่ผู้โดยสารในเทศกาลต่าง ๆ

ด้าน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในเร็ว ๆ นี้ การซ่อมแอร์พอร์ตลิ้งค์ทั้ง 9 ขบวน จะแล้วเสร็จ คาดว่าจะรองรับบริการได้อีก แต่หากพบว่า มีปริมาณผู้โดยสารยังหนาแน่นเต็มพิกัดเกินกว่าจะรับได้ ก็จะให้มีการจัดซื้อรถขบวนใหม่จำนวน 7 ขบวน ได้ทันที และคาดว่าความชัดเจนเรื่องรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน จะได้ข้อยุติเพื่อให้เอกชนเข้ามาดำเนินการในเรื่องจัดหาขบวนใหม่ต่อเนื่องกันไป


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว