'โอสถานุเคราะห์' ผงาด! 'โอสถสภา' ระดม 1.5 หมื่นล้าน ดัน 'ทายาท' เบอร์ 3 เศรษฐีหุ้น

23 ก.ย. 2561 | 10:46 น.
230961-1715

อานิสงส์ 'โอสถสภา' เข้าตลาดหุ้น ระดมทุน 1.5 หมื่นล้าน ขยายการลงทุน ดัน "นิติ โอสถานุเคราะห์" ผงาดติดอันดับ 3 เศรษฐีหุ้นไทย หลังมูลค่าถือครองหุ้นไทยแตะ 4.3 หมื่นล้าน แซงหน้า "สมโภชน์ อาหุนัย" เจ้าของ EA - "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (OSP) อาณาจักรธุรกิจที่มีสินทรัพย์รวมกว่า 15,122.7 หมื่นล้านบาท ของตระกูล 'โอสถานุเคราะห์' ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเกือบ 130 ปี กำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการเข้าจดทะเบียนเพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และอาจจะทำให้ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น ก้าวขึ้นติดอันดับ 1 ใน 3 เศรษฐีหุ้นไทย ปี 2561

 

[caption id="attachment_322184" align="aligncenter" width="200"] นิติ โอสถานุเคราะห์ นิติ โอสถานุเคราะห์[/caption]

ผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยในวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2560 พบว่า 5 อันดับแรก คือ 1) น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 63,527.30 ล้านบาท , 2) นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอดิศัย โพธารามิก บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ถือหุ้นมูลค่ารวม 44,082.93 ล้านบาท

3) นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ถือหุ้นมูลค่ารวม 33,269.30 ล้านบาท , 4) นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PSH) ถือหุ้นมูลค่ารวม 31,037.39 ล้านบาท และ 5) นายนิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ถือหุ้นมูลค่ารวม 28,897.84 ล้านบาท

"ฐานเศรษฐกิจ" ตรวจสอบข้อมูลล่าสุด เดือนกันยายน 2561 พอร์ตหุ้นของนายนิติอยู่ที่ 10 บริษัท จำนวน 1,092.04 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 31,431.11 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) , บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) , บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) , บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) , บมจ.อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) (IRC) , บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) , บมจ.โอเชียนกลาส (OGC) , บมจ.ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED) , บมจ.เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (SNP) และบมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ (TFMAMA)


P1-INFO-3403

มูลค่าหุ้นเพิ่มเป็น 4.3 หมื่นล้าน
หากบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (OSP) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อคำนวณสัดส่วนที่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้นจำนวน 489.08 ล้านหุ้น หรือ 16.28% ในช่วงราคาเสนอขายที่หุ้นละ 22-25 บาท ส่งผลให้มีมูลค่า 10,759-12,227 ล้านบาท เมื่อนำมารวมกับพอร์ตหุ้นของนิติอยู่ที่ 10 บริษัท ประมาณ 31,431.11 ล้านบาท ทำให้นายนิติมีมูลค่าถือครองในหุ้นไทยอยู่ที่ประมาณ 42,190-43,668 ล้านบาท อาจทำให้นายนิติติดอันดับ 1 ใน 3 เศรษฐีหุ้นไทย ปี 2561

ขณะที่ โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรกนี้ 5 อันดับแรก คือ 1) Orizon Limited ถือหุ้นจำนวน 537.14 ล้านหุ้น หรือ 17.88% , 2) นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้นจำนวน 489.08 ล้านหุ้น หรือ 16.28% , 3) นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้นจำนวน 149.73 ล้านหุ้น หรือ 4.98% , 4) นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้นจำนวน 30.03 ล้านหุ้น หรือ 1.00% และ 5) นายภูรี โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้นจำนวน 30.03 ล้านหุ้น หรือ 1.00%

 

[caption id="attachment_322181" align="aligncenter" width="306"] เพชร โอสถานุเคราะห์ เพชร โอสถานุเคราะห์[/caption]

บริษัท โอสถสภาฯ จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 603.75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท กำหนดช่วงราคาเสนอขายที่หุ้นละ 22-25 บาท หรือคิดเป็นมูลค่าเสนอขายที่ 13,282.5-15,093.75 ล้านบาท


ระดมทุนขยายกิจการ-ใช้หนี้
โอสถสภาตั้งเป้าหมายนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงการผลิต การจัดจำหน่ายสินค้า การปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้า และการดำเนินธุรกิจภายในของบริษัท ประมาณ 5,394 ล้านบาท ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินประมาณ 5,408.4-5,700 ล้านบาท ที่เหลือเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท โอสถสภาฯ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค มีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และธุรกิจให้บริการผลิตสินค้า บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายสินค้า โดยมูลค่าตลาดค้าปลีกของเครื่องดื่มบำรุงกำลังของบริษัท คิดเป็นสัดส่วน 54.4% ของมูลค่าตลาดค้าปลีกของเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศ สำหรับปี 2560


3e7d952d-a41f-4339-afa4-b3da0ee07b3b

เอ็ม-150 ครองตลาด 41%
จากข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2561 ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมีมูลค่าตลาดรวม 3.5 หมื่นล้านบาท โดยเอ็ม-150 ของโอสถสภา มีส่วนแบ่งตลาด 41% , คาราบาวแดง 25% , กระทิงแดง 18% และอื่น ๆ 16% โดยนายกฤษณ์พงษ์ นิลวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเมืองไทยภายใน 3 ปี โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวม 1.5 หมื่นล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาด 25% เป็นอันดับ 2 รองจาก M-150

ล่าสุด คาราบาวกรุ๊ปได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 2,200 ล้านบาท ในการร่วมทุนกับบริษัท SHOWA DENKO Group ประเทศญี่ปุ่น ในการก่อสร้างโรงงานผลิตกระป๋อง เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน คาราบาวกรุ๊ปมีโรงงานผลิตขวดแก้ว มีกำลังการผลิต 640 ตันต่อปี โรงงานบรรจุสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังแบบขวดกว่า 1,600 ล้านขวดต่อปี เน้นส่งออกไปจีนและเมียนมา และแบบกระป๋องเพื่อส่งออกอีกปีละกว่า 1,500 ล้านกระป๋อง


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,403 วันที่ 23-26 ก.ย. 2561 หน้า 01-02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
‘หมอเสริฐ’ แชมป์! เศรษฐีหุ้นไทย 5 สมัย
'ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ' แชมป์เศรษฐีหุ้น 2560


เพิ่มเพื่อน
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว