"เอเชียทีค" โดดร่วมแคมเปญ Thailand MICE Venue Standard 2018 เดินหน้าโรดโชว์และเทรดโชว์ยุโรป ตะวันออกกลาง หวังขยายฐานลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวโต 10%
[caption id="attachment_319142" align="aligncenter" width="503"]
เปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์[/caption]
น.ส.เปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ ผู้จัดการทั่วไป โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด ในเครือทีซีซี กรุ๊ป เปิดเผยว่า โครงการได้วางแผนขยายตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวไปยังทุกกลุ่มประเทศทุกภูมิภาค โดยการร่วมกิจกรรมโรดโชว์และเทรดโชว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งดำเนินการร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรุงเทพมหานคร สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และบริษัททัวร์ชั้นนำของไทยกว่า 250 บริษัท อาทิ จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย กลุ่มประเทศยุโรป และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ถือเป็น 1 ในกลยุทธ์ในการสร้างการรับรู้ต่อกลุ่มพื้นที่เป้าหมาย และเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยให้มีความยั่งยืน
โดยปีนี้ยังได้วางแผนขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศยุโรป สอดคล้องกับการเติบโตตลาดท่องเที่ยวยุโรปที่มีการเติบโตสูงถึง 6.37% ในครึ่งปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มประเทศที่น่าสนใจและถือเป็นตลาดใหญ่และมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็น ประเทศในแถบตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่โครงการให้ความสนใจในการทำตลาดเช่นเดียวกัน
บริษัทได้เข้าร่วมแคมเปญ Thailand MICE Venue Standard 2018 กับสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่ต้องการสถานที่จัดงาน อาทิ การจัดงานเพื่อความบันเทิง การจัดการประชุม และนิทรรศการ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยคาดการณ์การเติบโตมากถึง 30 ล้านคน ทั้งนี้ โครงการยังได้รับรางวัล Recreative Attraction Standard Very Good Level 2017-2019 จากการโหวตของกลุ่มพันธมิตรด้านธุรกิจท่องเที่ยว ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นการแสดงถึงความเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก และถือเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดให้เอเจนซี่ท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจในตัวโครงการยิ่งขึ้นด้วย
"โครงการพัฒนาสร้างเรือใบสามเสาอิงประวัติศาสตร์สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีชื่อเรือใบสามเสานี้ ว่า สิริมหรรณพ โดยนำมาจอดเทียบ ณ ท่าเรือเอเชียทีค ซึ่งได้วางแผนพัฒนาให้เป็นพื้นที่จัดงานต่าง ๆ ระดับประเทศ เป็นการสร้างประสบการณ์ความประทับใจใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คาดว่าจะได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการเข้ามาใช้พื้นที่ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นไฮไลท์และซิกเนเจอร์แห่งใหม่ของโครงการฯ ตลอดจนการพัฒนาในส่วนของผู้ประกอบการ ที่เน้น International Brand ให้ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยว F.I.T. มากขึ้น พร้อมปรับภาพลักษณ์ให้มีความน่าสนใจ รวมถึงเพิ่มสีสันของการท่องเที่ยวที่หลากหลาก ด้วยการจัดอีเวนท์ต่าง ๆ อาทิ เทศกาลดนตรีต่าง ๆ งานลอยกระทง งานเคาท์ดาวน์ เพื่อให้สามารถแข่งขันในธุรกิจท่องเที่ยวริมน้ำที่เพิ่มมากขึ้น โดยกลยุทธ์ในทุก ๆ ส่วนจะส่งเสริมให้เอเชียทีคยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวอยู่อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน"
น.ส.เปรมินทร์ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่า ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทยยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้นกว่า 11% และคาดว่าจะเติบโตมากกว่าเท่าตัวในครึ่งปีหลัง เนื่องจากปัจจัยช่วงหยุดเทศกาลในหลาย ๆ ประเทศ อาทิ Golden Week ของประเทศจีน ในเดือน ต.ค. รวมไปถึงช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในโครงการฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ม.ค. ถึง ส.ค. ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 10.9 ล้านคน หรือเฉลี่ย 45,000 คน/วัน และคาดว่า เดือน ก.ย. ถึง ธ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10% โดยแบ่งเป็นชาวต่างชาติ 70% และชาวไทย 30% ซึ่งจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักตามลำพัง (Free Individual Traveler : F.I.T) 65% และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับทัวร์ 35% ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในโครงการฯ มากที่สุด 3 อันดับแรก ยังเป็นกลุ่มประเทศในโซนเอเชีย ได้แก่ จีน (จีน/ไต้หวัน/ฮ่องกง), เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย ตามลำดับ
"เอเชียทีคพร้อมวางแผนจัดพื้นที่สำหรับรองรับการจัดกิจกรรมอีเวนท์โปรโมชั่นต่าง ๆ โดยการเปิดตัวร้านค้าที่มีความหลากหลายและกิจกรรมที่น่าใจ จะสามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาโครงการได้อย่างแน่นอน และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อน"