LINE เปิดตัวบริการ "Wallet" กระตุ้นเติบโต Rabbit LINE Pay

LINE ผสานการชำระเงินแบบดิจิทัลเข้าสู่แพลตฟอร์มด้วยการพัฒนาเมนูแอพแชตรูปแบบใหม่ ตอบรับกระแสความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัลที่มีเพิ่มมากขึ้นและสนับสนุนประเทศไทยเข้าสู่ "สังคมไร้เงินสด" อย่างแท้จริง โดยแถบเมนู "อื่น ๆ" (แถบเมนูที่ 5) ในแอพแชต LINE จะเปลี่ยนเป็นแถบเมนู "Wallet" ซึ่งประกอบไปด้วยบริการและฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Rabbit LINE Pay โดย LINE และ Rabbit LINE Pay จะร่วมกันผสานการชำระเงินแบบดิจิทัลเข้าสู่แพลตฟอร์ม LINE ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้เกินกว่า 42 ล้านคน ให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงการชำระเงินแบบดิจิทัลได้ง่ายดาย สะดวกสบายมากขึ้น





นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายหลังหลังจากการประกาศร่วมทุนระหว่าง LINE Pay, Rabbit ผู้นำด้านไมโครเพย์เมนท์ และ mass transit อันดับ 1 กับ AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 1 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Rabbit LINE Pay มียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 3 ล้านคน สู่ 4.5 ล้านคน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50% ภายในช่วงเวลา 6 เดือนเท่านั้น

รูปแบบการชำระเงินผ่านมือถือและดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยความต้องการความสะดวกสบายของผู้ใช้งานประกอบกับกระแสตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ทำให้รูปแบบการชำระเงินระหว่างลูกค้าไปสู่พ่อค้า/แม่ค้าส่วนใหญ่เป็นการชำระเงินผ่าน Mobile Banking หรือ การโอนเงินผ่านธนาคารบนมือถือ จากสถิติของธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงให้เห็นว่า ธุรกรรมผ่าน Mobile Banking ในประเทศไทย ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ถึง 130% ในขณะที่ ตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซถือเป็น 40% ของตลาดอี-คอมเมิร์ซ (ETDA, 2560) ธุรกรรมส่วนใหญ่ในตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซ ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่า 6 หมื่นล้านบาท (1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ล้วนเป็นการโอนเงินแบบ P2P (Person-2-Person) หรือการโอนเงินระหว่างบุคคล จากผู้ซื้อไปยังผู้ขายแทบทั้งสิ้น

"คุณเคยไปประเทศจีนในระยะหลังนี้ไหม? น้อยมากที่จะเห็นการชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต การใช้จ่ายในประเทศจีนกลายเป็นรูปแบบดิจิทัลผ่าน e-Wallet ซึ่งเป็นที่ยอมรับและใช้งานในทุกร้านค้าทั่วประเทศ ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ประเทศจีนเคยเป็นสังคมเงินสดดังเช่นประเทศไทยเรา แต่ปัจจุบัน จีนได้เปลี่ยนแปลงตัวเองสู่สังคมไร้เงินสดกันทั้งประเทศ ประเทศไทยเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยการผลักดันของ LINE ผ่าน Rabbit LINE Pay ในการนำเอาการชำระเงินที่อยู่ในมือของคนไทยทุกคน และเปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว นำพาประเทศไทยเข้าสู่ยุคแห่งสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ


สำหรับบริการ/แถบเมนู Wallet ใหม่ ผู้ใช้บริการสามารถใช้ชำระเงินผ่าน QR code ได้ที่ร้านค้ากว่า 50,000 ร้านทั่วประเทศ, โอนเงินให้เพื่อนใน LINE (บริการที่ได้รับความนิยมในหมู่พ่อค้า/แม่ค้าโซเชียล) โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ , ชำระบิลค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ กว่า 78 รายการ (ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำ, ค่าโทรศัพท์มือถือรายเดือน, ค่าบัตรเครดิต เป็นต้น) , เติมเงิน Easy Pass และซื้อตั๋วหนังเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ให้คุณสามารถซื้อตั๋วหนังจากโรงภาพยนตร์ระบบมัลติเพล็กซ์อันดับ 1 ในไทย พร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษรับเงินคืนสูงถึง 20% สำหรับผู้ซื้อตั๋วหนังเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ผ่าน Rabbit LINE Pay และสินค้า/บริการอื่น ๆ ที่สามารถชำระผ่าน Rabbit LINE Pay อีกมากมาย

นอกจากเข้าถึงการชำระเงินอันหลากหลายของ Rabbit LINE Pay แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเข้าใช้งานบริการอื่น ๆ ของ LINE ผ่านหน้าบริการ Wallet นี้ได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อสติกเกอร์ไลน์ในร้านสติกเกอร์, ซื้อธีมไลน์ในร้านธีม, หาร้านค้า LINE@ ที่อยู่ใกล้เคียงในฟีเจอร์ Nearby รวมถึงเข้าใช้บริการ LINE TV, LINE MAN และเกมต่าง ๆ ของ LINE ได้อีกด้วย นอกจากนี้ LINE ยังคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก ด้วยการนำเอารายการคูปองจากร้านค้า LINE@ ต่าง ๆ โชว์ให้ผู้ใช้สามารถนำคูปองใน LINE นี้ มาเป็นส่วนลดหรือสิทธิพิเศษตามร้านค้านั้น ๆ ได้สะดวกขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้แถบเมนู อื่น ๆ (More) จะเปลี่ยนเป็นแถบเมนู Wallet โดยอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้งาน LINE เวอร์ชั่น 8.13.0 ขึ้นไป