สพฉ. ดัน Smart Living เชื่อมระบบแพทย์ฉุกเฉินช่วยผู้สูงวัย

08 ก.ย. 2561 | 05:49 น.
สพฉ. ดัน Smart Living นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะเชื่อมระบบแพทย์ฉุกเฉิน ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชากรกลุ่มเปราะบางในเมืองหรือในชุมชน ที่ไม่สามารถพึ่งพิงตนเองได้ ผ่าน Smart Public Healthcare ที่เชื่อมโยงข้อมูลทั้งเทศบาลเมือง และสถานพยาบาล เพื่อช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าประเทศไทยมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวมเร็วและต่อเนื่องโดยในปี 2537 มีจำนวนผู้สูงอายุคิดเป็น 6.8% ของประชากรทั้งประเทศ และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนการสำรวจล่าสุด พบจำนวนของประชากรผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นเป็น 14.9% ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีจำนวนผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ที่เป็นประชากรกลุ่มเปราะบางเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ ในงานประชุมวิชาการภาคประชาชนครั้งที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “ยุทธศาสตร์ตำบลปลอดภัย หัวใจการแพทย์ฉุกเฉิน” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้มีการนำเสนอวัตกรรรมที่เกี่ยวกับระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อใช้ลดอัตราของการบาดเจ็บและเสียชีวิตของประชาชนในทุกวัย รวมถึงผู้สูงอายุและประชากรกลุ่มเปราะบางต่างๆ

ตัวทวนสัญญาณและอ่านค่าแก๊สรั่วภายในบ้าน นวัตกรรมที่ด้รับการนำเสนอ คือ “Thailand Smart Living” ซึ่งเป็นระบบที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับสังคมสูงวัยและดู แลผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุที่ภาวะติดเตียง คนพิการ หรือประชากรกลุ่มเปราะบาง โดย รศ.วิรุฬห์ ศรีบริรักษ์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา หัวหน้าโครงการและผู้คิดค้น นวัตกรรม Thailand Smart Living ระบุถึงที่มาที่ไปของนวัตกรรมชิ้นนี้ว่า โครงการนวัตกรรม Thailand Smart Living คือโครงการที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นถึงปัญหาทางสังคม โดยได้หยิบยกเอาปัญหาคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของผู้สูงอายุหรือประชากรกลุ่มเปราะบางต่างๆ ซึ่งช่วยเหลือตนเองไม่ได้และไร้คนดูแล โดยกลุ่มประชากรดังกล่าวมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สายรัดข้อมืออัจฉริยะ สำหรับรูปแบบนวัตกรรมของระบบ “Thailand Smart Living”  เน้นการสร้างระบบการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชากรกลุ่มเปราะบางต่างๆ ในเมืองหรือในชุมชนที่ไม่สามารถพึ่งพิงตนเองได้ ผ่านรูปแบบการทำงานแบบ Smart Public Healthcare ที่จะเชื่อมโยงข้อมูลทั้งเทศบาลเมือง โรงพยาบาลชุมชนหรือโรงพยาบาลเอกชน คลินิกชุมชนหรือคลินิกเอกชน โดยในระบบ Smart Public Healthcare จะประกอบไปด้วย  ระบบติดตามและแจ้งเตือนผู้สูงอายุภายในบ้านผ่านสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ที่คอยเก็บข้อมูลและรายงานกิจวัตรประจำวัน พร้อมทั้งอุปกรณ์ในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ จะเรียนรู้รูปแบบการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน ตรวจนับการออกนอกพื้นที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการพลัดหลง และแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติ เหตุหกล้มหรือต้องการขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน สามารถส่งการแจ้งเตือนไปยังครอบครัวหรือผู้ดูแลเพื่อให้ ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
090861-1927-9-335x503 เพิ่มเพื่อน

ในระบบระบบ Smart Public Healthcare จะมีอุปกรณ์เกตเวย์ประจำบ้าน ที่จะเป็นอุปกรณ์รับสัญญาณจากสายรัดข้อมือ พร้อมทั้งติดตามกิจกรรมปุ่มขอความช่วยเหลือไร้สาย หรือตัวทวนสัญญาณอื่นๆ ที่อยู่ภายในพื้นที่และส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ดังกล่าวไปยังระบบ Cloud บนอินเตอร์เน็ต เพื่อทำการวิเคราะห์ และรายงานสถานะบนระบบดาต้าเบสและแอพพลิเคชั่น

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นโทรศัพท์ฉุกเฉินเพื่อติดต่อกับหน่วยงานที่ดูแล ผู้ใช้บริการสามารถรับข้อมูลจากอุปกรณ์รัดสายข้อมือติดตามกิจกรรมและปุ่มขอความช่วยเหลือ ระบบยังมีปุ่มขอความช่วยเหลือไร้สาย เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับติดตั้งไว้ในที่พักอาศัย ใช้สำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มประชากรเปราะบาง ขอความช่วยเหลือโดยอุปกรณ์จะทำงานโดยการกดที่ตัวอุปกรณ์หรือดึงสายกระตุกที่ห้อยจากตัวอุปกรณ์ซึ่งจะทำให้ เกิดการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังเบอร์ที่ได้กำหนดไว้อาทิ เบอร์สายด่วน 1669 หรือเบอร์ญาติ

อุปกรณ์เกตเวย์ประจำบ้าน รูปแบบการทำงานของ Smart Public Healthcare ยังมีระบบติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ ซึ่งจะมีการแสดงข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งและใช้งานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสามารถติดตามและเฝ้าระวังเหตุ การณ์ที่ผิดปรกติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าให้การช่วยเหลือในกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ อย่างทันท่วงทีด้วย

ขณะที่ นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกล่าวว่า โครงการ ด้วยความทันสมัยของนวัตกรรม “Thailand Smart Living”ผ่านเทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ เชื่อว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ ซึ่งระบบของนวัตกรรม Thailand Smart Living อยู่ในระหว่างการทดลองเชื่อมโยงการทำงานในระบบสายด่วน 1669 ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งหากประสบผลสำเร็จเราจะกระจายติดตั้งให้กับท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศไทยได้ใช้ด้วย

นอกจากนี้ ในส่วนของสพฉ.เองก็ได้ พยายามพัฒนาระบบในการแจ้งเหตุ ให้ตอบรับกับยุค 4.0 ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำแอพพลิเคชั่นที่ให้ประชาสามารถแจ้งเหตุได้ และเรายังพัฒนาการทำงานร่วมกับหน่วยงานภารรัฐอื่นๆ อีกหลายหน่วยงาน ซึ่งในอนาคตประชาชนจะสามารถแจ้งเหตุผ่านวีดีโอคอลได้อีกช่องทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

23626556