AECSมองดัชนีผันผวนกรอบ1,706-1,729จุดแนะลงทุนหุ้นราคาไม่แพง-กำไรโต
บล.เออีซี (AECS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,706-1,729 จุด จับตาประเด็นต่างประเทศทั้งข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ ปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่อบานปลายหนักขึ้น หลังสหรัฐเรียกเก็บภาษีเพิ่ม พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนกลุ่มราคาหุ้นยังรับตัวไม่สูง บวกผลการดำเนินงานโตเด่นในปี 61 ชู BANPU-RATCH-BGRIM-SEAFCO-WHA-AMATA
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Technical View คาด SET Index แกว่งผันผวน และระวังแรงขายทำกำไรตรงแนวต้าน ที่ 1,729 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,706 จุด
ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนส่วนใหญ่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideway Down โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ความไม่แน่นอนของข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-แคนาดาในสัปดาห์ก่อนล้มเหลว และถูกเลื่อนพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 5 ก.ย. นี้ เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงเงื่อนไขบางส่วนในสัญญาได้
ขณะที่ล่าสุดทรัมป์แสดงความต้องการที่จะผลักดันข้อตกลงดังกล่าว ผ่านการพิจารณาแบบ Fast track ซึ่งหากแคนาดาไม่ยินยอมในข้อตกลงแบบไตรภาคี จะส่งผลให้การพิจารณาข้อตกลงดังกล่าวต้องใช้เสียงในสภาผู้แทนมากขึ้นจาก 51 เสียง เป็น 60 เสียง (Republican มีเสียงในสภา 50 เสียง) ทำให้มีความเสี่ยงที่ข้อตกลงดังกล่าวจะใช้เวลาพิจารณานานขึ้น
อีกทั้งสหรัฐฯ ประกาศเตรียมใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์และมีกำหนดเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าวในวันที่ 6 ก.ย. คาดกดดันทิศทางการเจรจาในเดือน พ.ย. และสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อเสนอจาก EU ที่พร้อมลดภาษีนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์จากทั้ง 2 ประเทศให้เหลือ 0% สร้างความกังวลต่อการตั้งภาษี Safe Guard ครั้งใหม่ของสหรัฐฯ ทำให้เรามีมุมมองเชิงลบต่อปัจจัยจากต่างประเทศและแนะนำให้ติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ กลุ่มที่ Price Action ยังน่าสนใจ ดังนี้ กลุ่มพลังงาน, กลุ่มก่อสร้าง, กลุ่มนิคม และจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus คัดเลือกหุ้นจากแนวโน้มกำไรทั้งปี 61 โตเด่น และมี Upside พบว่ากลุ่มดังกล่าวมีหุ้นน่าสนใจ ดังนี้ 1) กลุ่มพลังงาน: BANPU, RATCH, BGRIM 2) กลุ่มก่อสร้าง: SEAFCO 3) กลุ่มนิคม: WHA, AMATA
ส่วนในทางเทคนิคสำหรับนักเก็งกำไร เทรดดิ้งในกรอบ ซื้อเมื่ออ่อนตัวแนวรับ และขายเมื่อใกล้แนวต้าน พร้อมตั้ง Stop Loss ที่การปิดต่ำกว่าแนวรับ EMA 200 วัน 1,706 จุด โดย Sector ที่คาด Outperform ตลาด สัปดาห์นี้ เลือกกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) Top Pick ที่เลือก ได้แก่ IRPC , WHAUP กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (PROP) Top Pick ได้แก่ WHA , AMATA
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Technical View คาด SET Index แกว่งผันผวน และระวังแรงขายทำกำไรตรงแนวต้าน ที่ 1,729 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,706 จุด
ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนส่วนใหญ่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideway Down โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ความไม่แน่นอนของข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-แคนาดาในสัปดาห์ก่อนล้มเหลว และถูกเลื่อนพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 5 ก.ย. นี้ เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงเงื่อนไขบางส่วนในสัญญาได้
ขณะที่ล่าสุดทรัมป์แสดงความต้องการที่จะผลักดันข้อตกลงดังกล่าว ผ่านการพิจารณาแบบ Fast track ซึ่งหากแคนาดาไม่ยินยอมในข้อตกลงแบบไตรภาคี จะส่งผลให้การพิจารณาข้อตกลงดังกล่าวต้องใช้เสียงในสภาผู้แทนมากขึ้นจาก 51 เสียง เป็น 60 เสียง (Republican มีเสียงในสภา 50 เสียง) ทำให้มีความเสี่ยงที่ข้อตกลงดังกล่าวจะใช้เวลาพิจารณานานขึ้น
อีกทั้งสหรัฐฯ ประกาศเตรียมใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์และมีกำหนดเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าวในวันที่ 6 ก.ย. คาดกดดันทิศทางการเจรจาในเดือน พ.ย. และสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อเสนอจาก EU ที่พร้อมลดภาษีนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์จากทั้ง 2 ประเทศให้เหลือ 0% สร้างความกังวลต่อการตั้งภาษี Safe Guard ครั้งใหม่ของสหรัฐฯ ทำให้เรามีมุมมองเชิงลบต่อปัจจัยจากต่างประเทศและแนะนำให้ติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ส่วนในทางเทคนิคสำหรับนักเก็งกำไร เทรดดิ้งในกรอบ ซื้อเมื่ออ่อนตัวแนวรับ และขายเมื่อใกล้แนวต้าน พร้อมตั้ง Stop Loss ที่การปิดต่ำกว่าแนวรับ EMA 200 วัน 1,706 จุด โดย Sector ที่คาด Outperform ตลาด สัปดาห์นี้ เลือกกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) Top Pick ที่เลือก ได้แก่ IRPC , WHAUP กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (PROP) Top Pick ได้แก่ WHA , AMATA
