จีนขึ้นภาษี50%ทุบราคาข้าวดิ่ง

22 ส.ค. 2561 | 11:10 น.
จีนขึ้นภาษีนำเข้าข้าวพ่นพิษ เวียดนามกระทบหนัก หันนำข้าวจากที่เคยส่งออกไปจีนผ่านชายแดนปีละ1.5-2ล้านตันมาขายในตลาดโลกเพิ่ม ทุบราคาข้าวดิ่ง ผู้ซื้อชะลอนำเข้าหลังราคาเบียดข้าวไทยสูสี เป้า 11 ล้านตันยังต้องลุ้น

กรณีที่รัฐบาลจีนได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวรวม 5 รายการ จากอัตรา 5% เป็น 50% ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ประกอบด้วย ข้าวเปลือกเหมาะสำหรับทำพันธุ์ของข้าวอื่นๆ, ข้าวเปลือกของข้าวอื่นๆ, ข้าวกล้องของข้าวอื่นๆ, ข้าวที่ผ่านหรือไม่ผ่านกระบวนการขัดสีและขัดมันที่เป็นข้าวอื่นๆ และแป้งข้าวเจ้าอื่นๆ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2561 โดยระบุเป็นการปรับให้สอดคล้องกับองค์การศุลกากรโลก (WCO) ที่จะต้องปรับทุกๆ 5 ปี เพราะอาจจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวขัดกับพันธกรณีที่จีนได้ตกลงไว้ใน ACFTA หรือไม่ Print

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การขึ้นภาษีของจีนดังกล่าว ขณะนี้กระทบกับไทยบ้างในส่วนของแป้งข้าวเจ้าที่ไทยมีการส่งออกไปจีนแต่ก็ไม่มาก เพราะข้าวส่วนใหญ่ที่จีนซื้อหรือมีการนำเข้าจากไทยจะเป็นข้าวหอมมะลิ และข้าวขาว โดยการนำเข้าของจีนมี 2 ลักษณะคือ 1. นำเข้ากรณีพิเศษโดยรัฐบาลจีนมอบหมายให้คอฟโก รัฐวิสาหกิจของรัฐบาลเป็นผู้นำเข้า ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้โควตาขององค์การการค้าโลก (WTO) ส่วนใหญ่เป็นข้าวที่ซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า 2.นำเข้าภายใต้โควตาของ WTO โดยรัฐบาลจีนให้โควตาเอกชนนำเข้าประมาณปีละ 4-5 แสนตัน ภาษีนำเข้าประมาณ 1% ข้าว copy

 

“การขึ้นภาษีครั้งนี้เป็นการนำเข้าภายใต้เอฟทีเออาเซียน-จีน ที่เป็นประเด็นคือคนที่ไม่มีโควตาต้องเสียภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 50 % ที่ผ่านมาจีนนำเข้าจากประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น ไทย เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา ลาว โดยเวียดนามน่าจะกระทบมากที่สุดเพราะในแต่ละปีมีการส่งออกไปจีนผ่านทางชายแดนที่อยู่ติดกัน 1.5-2 ล้านตัน และเมียนมาที่ส่งข้าวทางชายแดนไปจีนปีละกว่า 8 แสนตันที่ต้องเสียภาษีนำเข้าเพิ่ม ขณะที่ข้าวไทยส่งไปจีนจะเป็นข้าวจีทูจีซึ่งเป็นข้าวขาว 5% และข้าวที่เอกชนไทยส่งออกไปจีนภายใต้โควตา WTO ส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิปีหนึ่งประมาณ 1.5 แสนตันที่เหลือเป็นข้าวอื่นๆ”

090861-1927

อย่างไรก็ดี เวลานี้ไทยได้รับผลกระทบทางอ้อมจากที่จีนขึ้นภาษีนำเข้าข้าว 5 รายการข้างต้น เพราะผลจากที่ข้าวเวียดนามที่ส่งออกผ่านชายแดนเข้าไปจีนถูกขึ้นภาษีเป็น 50% มีผลให้ราคาข้าวเวียดนามในตลาดโลกอ่อนตัวลง โดยข้าวขาว 5% จาก 430 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันลดลงเหลือ 390 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับราคาข้าวไทย ส่งผลด้านจิตวิทยาต่อการค้าข้าวโลกเกิดภาวะชะงักงัน จากผู้นำเข้าชะลอซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์ ข้าว1 copy

สอดคล้องกับนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ที่กล่าวว่า จากที่ข้าวของเวียดนามส่งออกไปจีนตามชายแดนถูกเก็บภาษีเพิ่ม มีผลให้เวียดนามนำข้าวมาจำหน่ายในช่องทางการค้าปกติในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ทำให้ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนามที่เคยสูงกว่าข้าวชนิดเดียวกันจากไทย 40-50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันเมื่อเดือนกรกฎาคม เวลานี้สูงกว่าไทยเพียง 15 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน หากในเร็ว ๆนี้ราคาข้าวเวียดนามลดลงอีก และขายถูกกว่า การส่งออกข้าวไทยอาจได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น

“ตัวเลข 7 เดือนไทยส่งออกข้าวได้แล้ว 6.5 ล้านตัน อีก 5 เดือนที่เหลือหากได้เดือนละ 9 แสนตันก็อีก 4.5 ล้านตัน เป้าหมาย 11 ล้านตันปีนี้เป็นไปได้สูง แต่ช่วงนี้ตลาดอาจจะชะลอตัวจากผู้ซื้อรอดูสถานการณ์ ประกอบกับไทยมีฝนตกชุก ทำให้การส่งมอบข้าวให้ลูกค้าเกิดความล่าช้า บางรายมีค่าใช้จ่ายค่าเสียเวลาเพิ่มให้กับเรือที่มารับของ จะซื้อข้าวใหม่เข้าเก็บสต๊อกก็ไม่ได้ เพราะของเก่ายังออกไปไม่ได้”

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,394 วันที่ 23-25 สิงหาคม 2561

e-book-1-503x62-7