ซูบารุเสริมทัพครบไลน์นำเข้า-ประกอบไทย รื้อหลังบ้านกำจัดจุดอ่อน

11 ส.ค. 2561 | 03:33 น.
-7 ส.ค.61- ซูบารุ รื้อโครงสร้างหลังบ้าน กำจัดจุดอ่อนบริการหลังการขาย และอะไหล่ พร้อมปรับทัพโมเดลใหม่ ด้วยการนำเข้าไลน์อัพสินค้าครบทุกรุ่น หวังสร้างภาพลักษณ์แบรนด์และปูทางสำหรับฟอเรสเตอร์ รุ่นประกอบในประเทศต้นปีหน้า

“ซูบารุ” แม้จะไม่ใช่ค่ายรถยนต์ในกลุ่มผู้นำ แต่ถือเป็นแบรนด์ที่สร้างสีสันให้กับตลาด โดยเฉพาะกลุ่มครอสโอเวอร์ที่รุ่น “เอ็กซ์วี” โฉมแรกสร้างยอดขายให้เป็นกอบเป็นกำ แต่ช่วงปลายอายุโมเดลกลับเดินกลยุทธ์อัดแคมเปญเคลียร์สต๊อกอย่างหนัก ราคาขายขึ้นๆลงๆไม่สนใจลูกค้าที่ซื้อรถไปก่อนหน้า จนทำให้แบรนด์ขาดความน่าเชื่อถือไปพอสมควร

MP32-3390-A

ดังนั้นเมื่อ “เอ็กซ์วี” เจเนอเรชันที่2 ถูกเปิดตัวในเมืองไทยช่วงปลายปี 2560 จึงไร้โปรโมชันส่งเสริมการขาย แม้ประกันภัยชั้น1ยังไม่มี และทำให้ยอดขายไม่ถึงกับเปรี้ยงปร้างมากนัก

ขณะเดียวกัน “ฟูจิเฮฟวี่อินดัสตรี”ประเทศญี่ปุ่น ยังประกาศลงทุนสร้างโรงงานเพื่อประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ส่งผลให้ “ทีซี ซูบารุ” ในเครือตันจงกรุ๊ป เริ่มปรับโครงสร้างบริษัท รวมถึงแนวทางและเป้าหมายใหม่ที่จะก้าวไป

“ปีหน้าจะทำแบรนด์มากขึ้น ยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์อิมเมจของซูบารุกับลูกค้าในไทย และยังเป็นการรองรับรถรุ่นใหม่ “ฟอเรสเตอร์” ที่จะผลิตจากโรงงานของเราในประเทศไทย” นายกมล วิบูลย์จันทร์ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า

โดยแนวทางในการทำแบรนด์ประกอบไปด้วยการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายให้ครอบคลุม ตามหัวเมืองใหญ่ จากปัจจุบันที่มี 27 แห่ง และคาดว่าจนถึงปีหน้าจะต้องมีมากกว่า 30 แห่ง

ประการต่อมาที่จะกำจัดจุดอ่อนก็คือบริการหลังการขาย โดย “กมล” ยอมรับว่า เดิมทียอดขายของซูบารุอยู่ในหลักร้อย แต่พอรุ่นเอ็กซ์วีประสบความสำเร็จและยอดขายทะลุหลักพัน ทำให้หลังบ้านรองรับไม่ทัน และส่งผลเสียต่อแบรนด์ ซึ่งแนวทางที่ได้พยายามทำมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คือการบริหารจัดการร่วมกับผู้แทนจำหน่าย, การเพิ่มผลกำไรในการเคลมให้กับผู้แทนจำหน่าย, การสต๊อกอะไหล่ ซึ่งทุกเจ้าตอนนี้ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

นอกจากการรื้อหลังบ้านใหม่หมดแล้ว ในแง่โปรดักต์ จากเดิมจะเห็นรถไม่กี่รุ่นจอดในโชว์รูม แต่หลังจากนี้ จะมีทั้งตัวยอดขายหลักอย่าง เอ็กซ์วี, ฟอเรสเตอร์ และเร็วๆ นี้ในเดือนกันยายน จะมีการนำโมเดลใหม่จากญี่ปุ่นเข้ามา ได้แก่ เอาท์แบ็ค ,เลอวอร์ค ,บีอาร์ซี โฉมปี 2018 และพิเศษกับ ดับเบิลยู อาร์เอ็กซ์ โมเดล 2019 โดยทุกรุ่นที่ว่ามานี้จะจอดโชว์ในทุกโชว์รูมเพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัส

“เราเตรียมรถรุ่นใหม่ที่จะนำเข้ามาจากญี่ปุ่นอีกหลายรุ่น โดยจะเป็นการเติมเต็มทุกไลน์อัพสินค้าของซูบารุ ถือเป็นการยกระดับแบรนด์ของเรา และยังเป็นการปูทางสำหรับรถรุ่นใหม่อย่างฟอเรสเตอร์ที่จะประกอบเป็นครั้งแรกในไทย และส่งมอบได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า”

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

ส่วนการบริหารจัดการสต๊อกของฟอเรสเตอร์ในรุ่นปัจจุบันที่มีเหลืออยู่ประมาณ 400 คัน ทางซูบารุก็งัดกลยุทธ์พิเศษ ได้แก่ ลูกค้าที่จะซื้อฟอเรสเตอร์ในช่วงนี้ เพียงนำรถรุ่นเก่ายี่ห้อใดก็ได้มาแลกซื้อจะได้รับส่วนลดเพิ่ม 2 แสนบาท และยังได้รับแคมเปญ ผ่อนน้อย 19,759 บาท/เดือน (คำนวณจากยอดดาวน์ขั้นตํ่า 25% ระยะเวลา 48 เดือน) ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคมนี้

“การทำโปรโมชันจะยังคงได้เห็นต่อเนื่อง แต่การลดราคาปีหน้าจะไม่ได้เห็นแล้ว ซึ่งหากทุกคนสังเกตจะเห็นว่าราคารถของเรานิ่ง ไม่ได้สวิงขึ้นๆลงๆ และในปีหน้าเราจะเน้นสื่อสารการตลาดที่เปลี่ยนไป เพราะเราจะชูเรื่องแบรนดิ้ง จะมีการชูเรื่องเทคโนโลยี ความปลอดภัยเป็นหลัก”

นายกมล กล่าวทิ้งท้ายว่า เป้าหมายของซูบารุในปี 2562 จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ได้พยายามปรับใหม่ นอกจากนั้นแล้วเมื่อโรงงานมีความพร้อมและผลิตรถยนต์ในรุ่นฟอเรสเตอร์ ออกมาจำหน่ายป้อนทั้งตลาดในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศอื่นๆไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย, เวียดนาม และเพื่อนบ้านทั้งหมด ก็จะทำให้ไทยกลายเป็นฮับของซูบารุในภูมิภาคนี้ และความพร้อมของโรงงานในไทยนั้น มีกำลังการผลิตมากกว่า
หมื่นคัน ดังนั้นหากผลการตอบรับของฟอเรสเตอร์ดี บริษัทแม่ก็อาจจะมีการพิจารณาประกอบรถรุ่นอื่นๆเพิ่มมากขึ้น

และแน่นอนเป้าหมายของซูบารุในอนาคต ก็ย่อมต้องการยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกปี

...อนึ่งยอดขายของซูบารุตั้งแต่ปี 2558 พบว่ามีจำนวน 2,641 คัน, ปี 2559 จำนวน 3,232 คัน และปี 2560 จำนวน 2,123 คัน ส่วนเป้าหมายปี 2561 ต้องมากกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายครึ่งปีแรก (มกราคม- มิถุนายน 2561) ทำได้ 1,307 คัน เพิ่มขึ้น 94.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 673 คัน

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,390 วันที่ 9 - 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561