4 สมาคมชาวนาขอช่วย 3 เรื่อง รมว.เกษตรฯรับลูกไม่ใช้เงินอุ้ม/เปิดตัว ข้าวรวมพลัง

4 สมาคมชาวนาเฮ "ฉัตรชัย" ขานรับ 3 มาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหาขาดทุนซ้ำซาก ทั้งช่วยลดต้นทุนการผลิตรอบใหม่ปี 2559-60 ดึง ธ.ก.ส.ให้สินเชื่อดอกเบี้ย 0% แยกจากสินเชื่อเดิมที่ให้อยู่รายละ 1 แสน ให้เฉพาะสมาชิกทำนาแปลงใหญ่ เร่งพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเพิ่มผลผลิต ด้านสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เตรียมเปิดตัวข้าวถุง แบรนด์"ข้าวรวมพลัง" ดึงรัฐมนตรี-ปลัดพาณิชย์ เป็นพรีเซนเตอร์

[caption id="attachment_30577" align="aligncenter" width="503"] แผนกำหนดพื้นที่ปลูกข้าวรวมทั้งประเทศในปีเพาะปลูก 2559-2560[/caption]

นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ที่ผ่านมา 4 สมาคมชาวนา ประกอบด้วยสมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และสมาคมการค้าเครือข่ายชาวนาไทย ได้เข้าร่วมเป็นคณะทำงานวางแผนการผลิตข้าวครบวงจรมาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2559 เป็นต้นมา ซึ่งได้มีการประชุมกันหลายครั้ง เห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการวางแผนการผลิต การตลาด เพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรที่กำลังเผชิญปัญหานานัปการ อาทิ ปัญหาภัยแล้ง รัฐบาลประกาศให้หยุดการทำนาปรัง ชาวนาขายข้าวเปลือกได้ในราคาต่ำ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ในปีการผลิต 2558/2559 และสต๊อกข้าวสารในคลังของรัฐที่ยังมีมากกว่า 13 ล้านตัน กดดันต่อราคาข้าวทั้งระบบ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้ทั้ง 4 สมาคมจะไม่เรียกร้องให้รัฐชดเชยภาวะขาดทุน แต่แผนการพยุงภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนของชาวนา เพื่อให้เหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้น และการเยียวยาปัญหาของชาวนาอย่างเป็นระบบในระยะเร่งด่วนรัฐบาลก็ต้องทำคู่ขนานไปกับการวางแผนระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว โดยในปีการผลิต 2559/2560 เพื่อไม่ให้ชาวนาต้องเผชิญกับวิกฤติของปัญหาซ้ำซาก และเอื้ออำนวยให้ชาวนามีทางออกจากปัญหา จึงเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินการต่างๆต่อไปนี้ให้เป็นรูปธรรมใน 1 เดือน

โดยมาตรการเร่งด่วน มี 3 ข้อ ได้แก่ 1.ให้รัฐขอความร่วมมือและกำกับให้ภาคเอกชน ที่ผลิตและจำหน่ายปัจจัยการผลิตและงานบริการทางการเกษตรลดราคาสินค้าและบริการลง เช่น ปุ๋ยเคมี สารกำจัดแมลงศัตรูพืช ค่าเช่านา ค่าเกี่ยวข้าว ค่าน้ำมันเครื่องจักรกลเกษตร ค่าไฟฟ้าการเกษตร หนี้สินนอกระบบและในระบบกับสถาบันการเงินต่างๆ เป็นต้น โดยให้รัฐมีหน่วยงานกำกับการลดราคาสินค้าและบริการให้ชัดเจน และประกาศประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ชาวนาได้รับทราบอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดต้นทุนการผลิตของชาวนา ซึ่งประสบกับภาวะขาดทุนติดต่อกันมา 2-3 ปีแล้ว

ข้อที่ 2 ให้รัฐจัดทำโครงการสินเชื่อชาวนาดอกเบี้ย 0% กับธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยแยกจากระบบสินเชื่อเดิมที่ชาวนามีอยู่ ให้กู้ได้แม้จะมีหนี้เก่าผูกพันอยู่แล้ว เพื่อช่วยพยุงค่าครองชีพของชาวนาในระหว่างเดือนมีนาคม 2559-กุมภาพันธ์ 2560 วงเงินไม่เกินรายละ 1 แสนบาท ในงบประมาณไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท ผ่อนส่งในระยะเวลา 2 ปีผ่านระบบการทำนาแปลงใหญ่ โดยชาวนาที่จะเข้าร่วมโครงการนี้จะต้องเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาแปลงใหญ่เท่านั้น คาดว่าจะสร้างความเข้มแข็งให้กับชาวนาและกลุ่มนาแปลงใหญ่ได้ประมาณ 5.7 แสนครัวเรือน เฉลี่ย 7 หมื่นบาทต่อครัวเรือน และข้อที่ 3 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวทุกสายพันธุ์เชื่อมโยงตลาด และให้สมาคมชาวนาที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ที่ดำเนินกิจการนาแปลงใหญ่ได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมกับนาแปลงใหญ่ของหน่วยงานรัฐ โดยจะไม่ซ้ำซ้อนกับพื้นที่รัฐส่งเสริมอยู่แล้ว

"ทั้ง 3 ข้อนี้ ทาง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตอบรับและให้ทั้ง 4 สมาคมทำงานร่วมกับคณะทำงานในการดำเนินการทั้ง 3 มาตรการ ซึ่งจะเห็นใน ข้อ 1 และ 2 ไม่ต้องใช้เงินมาอุ้มชาวนาเลย ยกเว้นโครงการเงินสนับสนุนโครงการสินเชื่อชาวนาดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 2 ปีนั้น มองว่าเป็นธุรกิจปกติของ ธ.ก.ส.อยู่แล้ว และเมื่อชาวนาประสบความสำเร็จจากการทำนาแปลงใหญ่ ที่มีทีมพี่เลี้ยงมืออาชีพจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมบริหารและสนับสนุน เชื่อมั่นว่าสินเชื่อเก่าที่ชาวนาค้างชำระกับ ธ.ก.ส.ก็จะได้รับชำระไปด้วย

อนึ่ง ในวันประชุมประจำปีของสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย 25 มีนาคมนี้ ทางสมาคมจะมีการเปิดข้าวถุงเพื่อจำหน่ายในช่องทางการค้าทั่วไปในแบรนด์ "ข้าวรวมพลัง" ซึ่งได้รับเกียรติจากนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นพรีเซนเตอร์ มั่นใจว่าการค้าขายครั้งนี้ชาวนาจะได้เรียนรู้ระบบตลาด และการผลิตให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,129 วันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559