'อียู' ชื่นชมความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาประมง IUU ของไทย

27 ก.ค. 2561 | 14:31 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าพบหารือกับคณะกรรมการการประมงแห่งสภายุโรป (European Parliament's Committee on Fisheries : PECH) ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม โดยมี นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน , นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง และผู้แทนจากกรมเจ้าท่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) ประจำประเทศไทยเข้าร่วมด้วย

ฝ่ายไทยได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการปฏิรูปภาคประมงทั้งระบบ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2528 เพื่อมุ่งสู่การเป็นประเทศปลอดจากการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) โดยไทยได้วางมาตรการและกลไกแก้ไขปัญหาในทุกด้านไว้อย่างครบถ้วนแล้ว และกำลังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกลไกเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง โดยกลไกที่สำคัญ ได้แก่ 1.ด้านกฎหมายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 และอนุบัญญัติอีกกว่า 100 ฉบับ ได้เปลี่ยนโฉมการประมงของไทยจากที่เคยทำได้อย่างอิสระมาสู่การประมงแบบควบคุมที่มีความสมดุลปริมาณทรัพยากรสัตว์น้ำ , 2.ด้านการจัดการประมง ซึ่งมีมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมปัญหาการทำประมงเกินขนาด ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเครื่องมือประมง การควบคุมวันทำประมง และการออกใบอนุญาตทำประมงที่สอดคล้องกับปริมาณสัตว์น้ำ

3.ด้านการจัดการกองเรือ ซึ่งไทยสามารถลดจำนวนเรือประมงพาณิชย์จนเหลือ  10,612 ลำ และได้วางมาตรการไม่ให้เรือผิดกฎหมายกลับเข้ามาในระบบ , 4.ด้านการควบคุมและเฝ้าระวังผ่านอุปกรณ์ติดตามตำแหน่งเรือ (Vessel Monitoring System : VMS) บนเรือ การตรวจสอบของศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า–ออกเรือประมง (Port-in Port-out Control Center : PIPO) การตรวจกลางทะเล และการตรวจปลาที่หน้าท่า โดยมีศูนย์เฝ้าระวังการทำประมงเป็นกลไกประสานการทำงานของระบบควบคุมทุกส่วน , 5.ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกว่า 4,448 คดี มีการปรับค่าปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่า 400 ล้านบาท รวมถึงออกมาตรการต่าง ๆ ที่ช่วยให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น และ 6.ด้านการตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งไทยได้พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าสัตว์น้ำ ทั้งจากในและนอกประเทศ ตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหารทะเลแล้ว

นอกจากนี้ ไทยได้พยายามแก้ไขปัญหาแรงงานภาคประมงในหลายด้านควบคู่ไปด้วย ซึ่งทำให้สถานการณ์แรงงานประมงดีขึ้นตามลำดับ โดยมีสถิติการใช้แรงงานเด็กและการทำร้ายร่างกายแรงงานประมงลดลงไปอย่างมาก ความก้าวหน้าเหล่านี้เป็นผลสำเร็จของความร่วมมือระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป โดยไทยพร้อมที่จะเป็นแบบอย่างให้กับภูมิภาคอาเซียน และการเป็นหุ้นส่วนในการรักษาธรรมาภิบาลมหาสมุทรโลก

สมาชิก PECH ได้แสดงความชื่นชมต่อความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาประมง IUU ของไทย ซึ่งเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาเพียง 3 ปี และยอมรับถึงความพยายามอย่างยิ่งยวดของไทยในการพลิกสถานการณ์ประมง IUU และแรงงานประมงผิดกฎหมาย ไปสู่การประมงที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่ง PECH ได้ติดตามการทำงานของไทยมาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ต้น และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีตามลำดับ และสนับสนุนให้ไทยแก้ไขปัญหาที่ยังเหลืออยู่ให้ลุล่วงต่อไป และแสดงความหวังว่าประเทศไทยจะก้าวไปเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือของสหภาพยุโรปในการต่อต้านการทำประมง IUU ในระดับภูมิภาคต่อไปในอนาคต ซึ่งฝ่ายไทยได้กล่าวขอบคุณ PECH ที่สนับสนุนและให้คำแนะนำต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์และกำลังใจอย่างมากต่อหน่วยงานไทยที่ทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหาตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"สงครามค่าเงิน" ตั้งเค้า! 'ทรัมป์' ฉะจีน-อียู ปั่นค่าเงิน
ไทยถกอียูลดเสี่ยงสงครามการค้าขยายความร่วมมือทางศก.


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว