ภาคีชาวไร่ยาสูบขีดเส้น 31 ก.ค.ขอคำตอบยสท.รับซื้อใบยาวอนรัฐเลื่อนภาษี 40%

21 ก.ค. 2561 | 09:36 น.
ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบ จัดการประชุมอุตสาหกรรมยาสูบประเทศไทย โดยมีผู้ร่วมประชุมจากสมาคมและเครือข่ายชาวไร่ยาสูบจากทั่วประเทศ การยาสูบแห่งประเทศไทย และบริษัทผู้นำเข้าบุหรี่ ตัวแทนร้านค้าปลีกค้าส่ง และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ชี้อุตสาหกรรมยาสูบเดือดร้อนถ้วนหน้าจากการขึ้นภาษีบุหรี่ ขีดเส้น 31 ก.ค. ขอคำตอบรับซื้อใบยา ทั้งวอนรัฐเลื่อนขึ้นภาษี 40% ไม่ให้ซ้ำเติมเกษตรกรและปราบบุหรี่เถื่อนจริงจัง

ya1

นายสุธี ชวชาติ นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบ จ. ลำปาง และตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบ เปิดเผยว่าภาคีฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอุตสาหกรรมยาสูบประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับอุตสาหกรรมฯ อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ภาคีฯ ได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ไปยังภาครัฐผ่านหลายๆ ช่องทาง แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาให้ความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศงดรับซื้อใบยาในฤดูการที่จะถึงซึ่งจะเริ่มในเดือน ส.ค. นี้แล้ว

สำหรับผลการประชุมดังกล่าว ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องถึงผลกระทบจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ที่มีต่อเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ และต่ออุตสาหกรรมยาสูบโดยรวม และที่ประชุมได้มีมติร่วมกันว่าเรื่องที่เร่งด่วนที่สุดคือ รัฐจะต้องเร่งแก้ปัญหาระยะสั้นที่กำลังกระทบกับปากท้องของชาวไร่ก่อน โดยต้องประกาศแผนงานการรับซื้อใบยาของ ยสท. ปีนี้ภายใน 31 ก.ค. ขณะเดียวกันก็ควรพิจารณาปรับปรุงอัตราภาษียาสูบในปัจจุบัน เพื่อหาทางลดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทุกภาคส่วน โดยให้ชาวไร่และผู้เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย และที่สำคัญให้รัฐชะลอการขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่เป็น 40% ในทุกช่วงราคาออกไปก่อน เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมอุตสาหกรรมให้ยิ่งแย่ลงไปอีก โดยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศซึ่งมีอยู่กว่า 50,000 ครอบครัว ที่หากไม่ได้ปลูกยาสูบต่อก็จะต้องขาดรายได้หลักที่นำไปเลี้ยงครอบครัวและใช้หนี้ที่กูยืมมาเพื่อลงทุนในอาชีพยาสูบ ทั้งนี้ พวกเราอยากเห็นนโยบายรัฐที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมก่อนจะถึงการเลือกตั้ง

ya2
“ทางด้านผู้ผลิตและผู้นำเข้า ต่างก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่อุตสาหกรรมหดตัว จน ยสท. อาจจะต้องขาดทุนถึง 1,500 ล้านบาทในปี 2561 ขณะที่บุหรี่เถื่อนเข้ามาเป็นปัญหามากขึ้นจนร้านค้าที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายแข่งขันไม่ไหว ถ้ามีการปรับใช้อัตราภาษีใหม่ 40% จะทำให้บุหรี่ในตลาดกว่า 80% ราคาเพิ่มขึ้นอีกกว่า 30 บาท ซึ่งถึงแม้ว่ารัฐบาลจะได้เม็ดเงินจากภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น แต่ผู้ผลิตและผู้นำเข้าจะมีกำไรลดลง ซึ่งในท้ายที่สุดก็มากระทบชาวไร่ยาสูบ ฝั่งผู้นำเข้ายอมรับว่าโครงสร้างภาษีใหม่นี้มีข้อดีเพราะสอดคล้องกับหลักสากล แต่ก็ยอมรับว่าอัตราภาษีปัจจุบัน ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการลดลง” นายสุธีกล่าว

ด้านนายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบ จ. เชียงใหม่ กล่าวเสริมว่าอยากให้ภาครัฐพิจารณาหาแนวทางที่ยั่งยืนในการรับซื้อใบยาต่อไปไม่ใช่แค่เฉพาะในปีนี้ แต่ในปีต่อๆ ไปด้วย โดยได้ฝากให้กรมสรรพสามิตไปพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบในปีนี้อีก โดยการปรับอัตราภาษียาสูบและชะลอการขึ้นภาษีหรือการให้ความช่วยเหลือทางการเงินทั้งในทางตรงหรือทางอ้อมกับ ยสท. เพื่อให้ ยสท. สามารถมีเงินมาซื้อใบยาได้

ya3 “ทางภาคีชาวไร่ยาสูบจะทำสรุปมติที่ประชุมฯ ที่เป็นข้อเสนอร่วมกันของอุตสาหกรรมยาสูบยื่นต่อท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมสรรพสามิต และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาของพวกเราให้เป็นรูปธรรมภายในช่วงก่อนเลือกตั้งด้วย” นายสุธีกล่าว

e-book-1-503x62