'มิชลิน' เปิดตัวยางใหม่ เล็งเจาะตลาดโออีเอ็ม

13 ก.ค. 2561 | 10:22 น.
ตลาดยางทดแทนแนวโน้มเติบโต! มิชลินเปิดแผนครึ่งปีหลัง ด้วยการส่งรุ่นใหม่ "ไพรมาซี่ 4" ชูจุดเด่นดอกยางปลอดภัย ทั้งตอนใหม่และใกล้หมดดอก พร้อมขยายเข้าสู่โออีเอ็ม ประเดิมป้อน "โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส" ใหม่

นายเอกชัย คหการบำรุง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C บริษัท สยามมิชลิน จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดยางรถยนต์อาร์อีเอ็ม (ทดแทน) ในประเทศไทย เติบโตไปในทิศทางเดียวกับยอดขายรถใหม่ โดยแต่ละปีมียอดขายรวมประมาณ 9-10 ล้านเส้น หรือ เติบโตราว 4%

 

[caption id="attachment_296982" align="aligncenter" width="335"] 03 คุณอกชัย คหการบำรุง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C เอกชัย คหการบำรุง[/caption]

ขณะที่ แผนการตลาดของมิชลินในครึ่งปีหลัง ได้เปิดตัว "มิชลินไพรมาซี่ 4" (MICHELIN Primacy 4) ยางรุ่นล่าสุดในตระกูล 'ไพรมาซี่' ที่มาพร้อมแนวคิด "อายุยางเปลี่ยน ความมั่นใจไม่เคยเปลี่ยน" (Safe When New, Safe When Worn) โดยยางรุ่นใหม่นี้ มาพร้อม 2 เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะมิชลินที่ใช้เวลาออกแบบพัฒนา 3 ปี

ประกอบไปด้วย เทคโนโลยี EverGrip™ ที่มีร่องรีดน้ำแบบใหม่ ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ในการรีดน้ำเพิ่มขึ้น 50% ทั้งเมื่อยางใหม่และใกล้หมดดอก เพื่อให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนเปียกที่ดีและปลอดภัย แม้เมื่อยางผ่านการใช้งานมานานจนใกล้หมดดอก และเทคโนโลยี Silent Rib รุ่น 2 ที่ช่วยลดเสียงรบกวนไม่ให้เข้าไปภายในห้องโดยสารด้วยแถบเนื้อยางเสริมระหว่างบล็อกดอกยางแบบเต็มหน้ายาง (Inter-Locking Bands)

"เราได้จัดกิจกรรมทดสอบยางรุ่นใหม่ที่สวนนงนุช โดยเชิญผู้สื่อข่าวจากหลายประเทศมาร่วมสัมผัสกับยางรุ่นใหม่ และได้จำลอง พร้อมทั้งมีการเปรียบเทียบยางยี่ห้ออื่น ๆ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบจุดเด่นของยางรุ่นใหม่ของเราได้ โดยข้อมูลที่เราได้ทำการทดสอบก่อนหน้านั้น พบว่า เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มยางใหม่ด้วยกัน

'มิชลิน ไพรมาซี่ 4' มีระยะเบรกสั้นกว่ายางแบรนด์อื่น ๆ 2.5 เมตร และเมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มยางใกล้หมดดอก 'มิชลิน ไพรมาซี่ 4' มีระยะเบรกสั้นกว่ายางแบรนด์อื่น ๆ 5.1 เมตร และเมื่อเทียบกับยางใหม่ของแบรนด์อื่น ๆ ยาง 'มิชลิน ไพรมาซี่ 4' ที่ใกล้หมดดอกมีระยะเบรกสั้นกว่ายางใหม่ของแบรนด์อื่น ๆ 1.8 เมตร"


Launch_Michelin Primay 4-24

สำหรับยาง "มิชลิน ไพรมาซี่ 4" จะเริ่มวางตลาดตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้ เป็นต้นไป และมีจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 31 ขนาด (ขอบ 15-19 นิ้ว) ครอบคลุมหลายรุ่น อาทิ โตโยต้า คัมรี, ฮอนด้า แอคคอร์ด, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 และซีรี่ส์ 5, เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส และซี-คลาส

นายเอกชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่แล้ว กลยุทธ์การตลาดจะเน้นสร้างแบรนด์ มีการทำแบรนด์ให้ดูเด็กลง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และมีการสื่อสารการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ภาพยนตร์โฆษณา

นอกจากนั้นแล้ว ยังเตรียมเจาะตลาดโออีเอ็ม หรือ ป้อนให้กับโรงงานผลิตรถยนต์เพิ่มเติม หลังจาก 4-5 ปีก่อนหน้านั้น สัดส่วนของตลาดนี้ลดลง โดยล่าสุด ได้เตรียมผลิตให้กับโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ใหม่

ขณะเดียวกันจะมีการพัฒนารูปแบบช่องทางการขายของร้านไทร์พลัส ที่มีจำนวน 117 แห่ง และมีแผนจะเปิดเพิ่มมากกว่า 10 แห่ง โดยไทร์พลัสจะมีรูปแบบร้าน 2 ขนาด ได้แก่ ไทร์พลัสไซส์ปกติ จะลงทุนมากกว่า 5-10 ล้านบาท และมีจำนวน 4 ช่องซ่อม ส่วนอีกหนึ่งรูปแบบ คือ ไทร์พลัส เอ็กซ์เพรส ที่ลงทุนประมาณ 5 ล้านบาท มี 2 ช่องซ่อม เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในเมือง ปัจจุบัน เปิดให้บริการ 3 แห่ง และบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายให้ครอบคลุม

"เรามีร้านค้าส่งทั่วไปมากกว่า 2,000-3,000 แห่ง ส่วนโมเดิร์นเทรดมากกว่า 200 แห่ง และเรายังมีร้าน MBA หรือ มิชลิน บิสสิเนส อัลลายแอนซ์ จำนวน 150 ร้านค้า"


……………….
เซกชัน : ยานยนต์ โดย นสพ.ฐานเศรษฐกิจ

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,382 วันที่ 12-14 ก.ค. 2561 หน้า 32

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“จำปี” จับมือ มิชลิน สตาร์ รังสรรค์เมนู เพื่อลูกค้าชั้นธุรกิจและเฟิร์สคลาส
กลุ่มมัดแมนเทคโอเวอร์ร้านอาหารมิชลินสุดหรูในฝรั่งเศส


e-book-1-503x62-7