“สมคิด” สั่ง ขรก. คลังจัดเต็ม ลุยงานก่อนเลือกตั้ง

06 ก.ค. 2561 | 12:53 น.
“สมคิด” สั่งเข้มราชการคลังทำงานเพิ่ม 2 เท่า ในช่วง 7 เดือนที่เหลือรอการเลือกตั้ง ห้ามปล่อยเกียร์ว่าง ขู่งานไม่คืบโยกย้าย ต.ค.นี้ สั่งกรมสรรพากรศึกษามาตรการภาษีช่วยคนจน แบงก์รัฐลดภาระหนี้รายย่อย หาที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุม ให้เดินหน้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ขายหน่วยลงทุน ก.ย.นี้ หาทุนขยายรถไฟฟ้า กรุงเทพฯ-ชุมพร -ระนอง -อันดามัน

- 6 ก.ค. 61 - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงของ กระทรวงการคลัง และรัฐวิสาหกิจในสังกัด โดยสั่งการในที่ประชุมอย่างแข็งขันกำชับให้ข้าราชการในทุกหน่วยงานเร่งรัดทำงานช่วง 7 เดือนที่เหลือรอการจัดการเลือกตั้งห้ามปล่อยเกียร์ว่าง และยังต้องทำงานหนักเพิ่ม 2 เท่า เหากงานไม่คืบหน้าอาจต้องปรับหรือโยกย้ายในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพราะรัฐบาลมุ่งลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มความสามารถการแข่งขันของประเทศ คาดว่าเศรษฐกิจขยายตัวมากกว่า 4.5% ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ด้วยการเร่งรัดลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐให้ได้ตามเป้าหมาย เพราะปัจจัยเศรษฐกิจหลายด้านดีขึ้นต่อเนื่อง

รองนายกณกล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้นรวดเร็ว ทำให้ฐานจีดีพีดีขึ้น จึงสั่งให้ทุกหน่วยงานศึกษาโครงการลงทุนเพิ่มศักยภาพแข่งขันของประเทศ

นอกจากนี้ ยังงสั่งให้กรมสรรพากรศึกษาแนวทางช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แม้จะไม่ได้เสียภาษีทางตรง แต่ยังต้องจ่ายภาษีทางอ้อม คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ฃเพื่อให้มีกำลังซื้อสินค้าและลงทุนปรับระบบเทคโนโลยีในทุกด้านของกรมสรรพากร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการจัดเก็บภาษีผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลกับหลายหน่วยงาน

นอกจากนี้ ในส่วนของนายเอกนิติ นิติฑัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร ที่รยังดำรงตำแหน่งในฐานะประธานบอร์ดการบินไทย ให้ไปต้องวางยุทธศาสตร์สายการบิน ปรับแผนสายการโลว์คอสรองรับการแข่งขัน เร่งรัดขั้นตอนให้มีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่เร็วที่สุด และสามารถพัฒนาเป็นสายการบินแห่งชาติได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แผนทุกด้านต้องแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

ขณะที่กรมศุลกากรเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่ม ACMEC เพื่อร่วมจัดทำยุทธศาสตร์ร่วมกับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูมิภาค และเชื่อมต่อกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และในฐานะที่นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องเร่งรัดให้เกิดการประมูลหลังจากประกาศ TOR ไปแล้วหลายโครงการ นอกจากนี้ ยังต้องศึกษาแผนก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-ชุมพร-สุราษฎร์ธานี และขยายเชื่อมต่อไปยังระนอง-ฝั่งอันดามัน รองรับเส้นทางรถไฟฟ้าไทย - จีน จากหนองคายลงมากรุงเทพฯ เชื่อมไปยังอันดามัน รวมถึงการเร่งเดินหน้ารถไฟเชื่อมระหว่างเมืองรอง ต้องการเห็นแผนก่อสร้างชัดเจนเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ยังกำชับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศ (TFF) คาดว่าจะสามารถเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไป ภายในเดือนกันยายนนี้

ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานว่า บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นธรรมชาติของเงินลงทุนจะเกิดการหมุนไปทั่วโลกตามผลตอบแทน หากประเทศมีศักยภาพและเสถียรภาพแข็งแกร่งบริษัทจดทะเบียนมีคุณภาพผลตอบแทนดีเงินทุนจะไหลกลับเข้ามาลงทุน จึงไม่กังวลกับการผันผวนของตลาดหุ้นช่วงนี้

นายสมคิดยังสั่งการให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์เร่งดำเนินการการจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยรองรับผู้มีรายได้น้อย โดยมีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกับกรมธนารักษ์ช่วยออกโครงการที่อยู่อาศัยให้กับรายย่อย ด้วยการเชิญชวนเอกชนมาร่วมลงทุนมากที่สุด ขณะที่ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรไทยกว่า 30 ล้านคน ควรหาแนวทางช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ให้มีภาระน้อยลง คาดว่าจะสรุปแนวทางทั้งหมดสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อให้เกษตรกรกลุ่มนี้มีกำลังซื้อ

นอกจากนี้ ยังต้องการให้หลายส่วนราชการบูรณาการส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพราะที่ผ่านมายังไม่เห็นผล เพราะต่างคนต่างทำจึงไม่ประสานงานเต็มที่ จึงต้องการให้นำโมเดลของฮ่องกง รวมศูนย์ผ่าน ดิจิทัลปาร์ค มีทั้งสถาบันการเงิน มหาวิทยาลัย บริษัทด้านไฮเทค เพื่อส่งเสริมฟินเทคให้เกิดขึ้น จากนั้นระดมทุนผ่านตลาด MAI