BEAUTY สวยสังหาร แก้เกมรับซื้อหุ้นคืน
ผู้บริหาร BEAUTY เผยจ่อถกบอร์ด 9 กรกฎาคมนี้ กำหนดจำนวนและราคาซื้อหุ้นคืน เหตุราคาลงตํ่ากว่าปัจจัยพื้นฐาน โบรกเกอร์ลดเป้าราคาที่เหมาะสมจาก 20-25 บาท เหลือ 7-12 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BEAUTY หลังจากเข้าซื้อขายเมื่อเดือนธันวาคม 2555 เป็นหุ้นที่ถูกมองว่ามีอัตราการเติบโตสูง ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหุ้นเคยขึ้นไปสูงสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 ที่ 23.30 บาท หลังจากนั้นราคาหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นลดลงอย่างแรงในวันที่ 3-5 กรกฎาคม จาก 13.40 บาทลงมาปิดตํ่าสุดที่ 7.20 บาท หรือลดลง 46% ในการซื้อขาย 3 วัน
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาทางบริษัทแถลงปฏิเสธข่าวลือต่างๆที่เกิดขึ้น อาทิ การสร้างออร์เดอร์ปลอม, ซัพพลายเออร์ผลิตสินค้าให้บริษัทไม่ผ่าน อย. และไม่สามารถส่งสินค้าให้บริษัทได้, นายสุวินและกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหุ้นทิ้ง รวมถึงข่าวเรื่องสุขภาพ
ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 สัดส่วนการถือหุ้นของนายสุวิน ไกรภูเบศ และนางธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ ถือหุ้นรวมกัน 638 ล้านหุ้น หรือ 21.24%
แม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 1/2561 BEAUTY มีกำไรสุทธิ 282 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน 41% แต่นายสุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BEAUTY ยอมรับว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/2561 จะทำได้ตํ่ากว่าเป้าหมาย เนื่องจากได้รับผลจากประเด็นสินค้าเครื่องสำอางของผู้ประกอบการรายอื่นขายโดยไม่มี อย. ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้า แต่ก็เชื่อว่าจะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลังที่เป็นช่วงไฮซีซัน คาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะเติบโต 20% ได้ตามเป้าหมาย
[caption id="attachment_295917" align="aligncenter" width="297"]
สุวิน ไกรภูเบศ[/caption]
โบรกเกอร์หลายสำนักต่างปรับราคาหุ้นที่เหมาะสมของ BEAUTY จากระดับ 20-25 บาท เหลือ 7-12 บาท โดยมองว่าหมดจากความเป็นหุ้น Growth Stock หรือหุ้นที่มีการเติบโตสูง และไม่สามารถคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคตได้อย่างชัดเจน และมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2561 จะเติบโตลดลงจากยอดขายของ Beauty Cottage ที่ชะลอตัวลง, ผลกระทบจากความเข้มงวดของ อย. ทำให้การออกสินค้าใหม่ล่าช้า และกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค, การแข่งขันที่สูงขึ้นภายในประเทศ รวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้า
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BEAUTY เปิดเผยว่า บริษัท เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เพื่อพิจารณาโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อกำหนดจำนวนและราคาหุ้นในการซื้อคืน เนื่องจากเห็นว่าราคาหุ้นลดตํ่ากว่าปัจจัยพื้นฐาน
ราคาหุ้น BEAUTY เพิ่มขึ้นจาก 7.20 บาทมาอยู่ที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 14% ตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นเครื่องหมาย H พักการซื้อขายชั่วคราวในช่วงเช้า ก่อนเปิดให้ซื้อขายหุ้นต่อได้ในช่วงบ่าย BEAUTY ปิดตลาดที่ 8.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 11% มูลค่าการซื้อขาย 10,983 ล้านบาท
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,381 วันที่ 8-11 กรกฎาคม 2561
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BEAUTY หลังจากเข้าซื้อขายเมื่อเดือนธันวาคม 2555 เป็นหุ้นที่ถูกมองว่ามีอัตราการเติบโตสูง ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหุ้นเคยขึ้นไปสูงสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 ที่ 23.30 บาท หลังจากนั้นราคาหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นลดลงอย่างแรงในวันที่ 3-5 กรกฎาคม จาก 13.40 บาทลงมาปิดตํ่าสุดที่ 7.20 บาท หรือลดลง 46% ในการซื้อขาย 3 วัน
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาทางบริษัทแถลงปฏิเสธข่าวลือต่างๆที่เกิดขึ้น อาทิ การสร้างออร์เดอร์ปลอม, ซัพพลายเออร์ผลิตสินค้าให้บริษัทไม่ผ่าน อย. และไม่สามารถส่งสินค้าให้บริษัทได้, นายสุวินและกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหุ้นทิ้ง รวมถึงข่าวเรื่องสุขภาพ
ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 สัดส่วนการถือหุ้นของนายสุวิน ไกรภูเบศ และนางธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ ถือหุ้นรวมกัน 638 ล้านหุ้น หรือ 21.24%
แม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 1/2561 BEAUTY มีกำไรสุทธิ 282 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน 41% แต่นายสุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BEAUTY ยอมรับว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/2561 จะทำได้ตํ่ากว่าเป้าหมาย เนื่องจากได้รับผลจากประเด็นสินค้าเครื่องสำอางของผู้ประกอบการรายอื่นขายโดยไม่มี อย. ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้า แต่ก็เชื่อว่าจะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลังที่เป็นช่วงไฮซีซัน คาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะเติบโต 20% ได้ตามเป้าหมาย
[caption id="attachment_295917" align="aligncenter" width="297"]
โบรกเกอร์หลายสำนักต่างปรับราคาหุ้นที่เหมาะสมของ BEAUTY จากระดับ 20-25 บาท เหลือ 7-12 บาท โดยมองว่าหมดจากความเป็นหุ้น Growth Stock หรือหุ้นที่มีการเติบโตสูง และไม่สามารถคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคตได้อย่างชัดเจน และมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2561 จะเติบโตลดลงจากยอดขายของ Beauty Cottage ที่ชะลอตัวลง, ผลกระทบจากความเข้มงวดของ อย. ทำให้การออกสินค้าใหม่ล่าช้า และกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค, การแข่งขันที่สูงขึ้นภายในประเทศ รวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้า
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BEAUTY เปิดเผยว่า บริษัท เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เพื่อพิจารณาโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อกำหนดจำนวนและราคาหุ้นในการซื้อคืน เนื่องจากเห็นว่าราคาหุ้นลดตํ่ากว่าปัจจัยพื้นฐาน
ราคาหุ้น BEAUTY เพิ่มขึ้นจาก 7.20 บาทมาอยู่ที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 14% ตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นเครื่องหมาย H พักการซื้อขายชั่วคราวในช่วงเช้า ก่อนเปิดให้ซื้อขายหุ้นต่อได้ในช่วงบ่าย BEAUTY ปิดตลาดที่ 8.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 11% มูลค่าการซื้อขาย 10,983 ล้านบาท
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,381 วันที่ 8-11 กรกฎาคม 2561
