ฐานโซไซตี : คอนโดฯปล่อยเช่าจ๋อย ติดกับดักผิดกฎหมาย

เริ่มเป็นกระแสร้อนฉ่า ในวงการคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า ซึ่งมีผลมาจากคำสั่งศาลจังหวัดหัวหิน ลามมาถึงคอนโดฯทั่วประเทศที่ซื้อลงทุนปล่อยเช่ารายวัน รายสัปดาห์ หรือขายผ่าน “Airbnb” หลังศาลพิพากษาว่า “ผิด” พ.ร.บ.โรงแรม 2547 ทำเอานักลงทุนที่นิยมตุนห้องชุดไว้ ปล่อยเช่าระยะสั้น สะเทือน! ไปตามๆ กัน แต่ถูกใจใครต่อใครหลายเด้ง

เด้งแรก  เข้าทางผู้อยู่อาศัยจริง ที่เคยเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ก็จะได้ไม่ต้องเผชิญกับคนแปลกหน้าข้างห้องอีกต่อไป เด้ง 2 นิติบุคคลที่ก่อนหน้านั้นไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรยกขึ้นมาเป็น “ข้ออ้าง” ในการออกประกาศห้ามขายรายวันได้อย่างสะดวกใจ ไร้ข้อโต้แย้งก็ยกเอาคำสั่งศาลอ้างอิงเป็นตัวอย่างให้เห็นชัดเจน จะได้ไม่ต้องตีความกันวุ่นวาย  และเด้ง 3 เข้าทางผู้ประกอบการโรงแรมที่ทำให้หมดคู่แข่งทางการตลาด แม้จะปากแข็งว่าไม่กระทบแต่ลึกๆ ก็ต้องเสียแชร์ตลาดไปบางส่วน

แต่ก็นั่นแหละ เหรียญมี 2 ด้านเสมอ หากนิติบุคคล ไม่ใส่ใจทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นหรือเผลอๆ  ยังช่วยอำนวยความสะดวกด้านกุญแจห้องแก่ผู้มาพักหากผลประโยชน์ลงตัวหรือทำไม่รู้ไม่เห็นก็จบเห่! และต้องแยกพฤติกรรมการปล่อยเช่าออกเป็น 2 พวกคือนักลงทุนที่ซื้อห้องปล่อยเช่ารายวันเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงกว่ากับเจ้าของโครงการที่ขายห้องไม่หมดก็นำมาปล่อยเช่าแบบรายวัน ซึ่งผิดพ.ร.บ.โรงแรมทั้ง 2 แบบ ประเด็นหลัง ยังมีประเด็นกรณีเจ้าของห้องร่วมอาจมีปาก-มีเสียงใช้สิทธิ์ในการโหวตได้มากกว่าลูกบ้านรายอื่น เพราะมีจำนวนห้องพักมากกว่า และถ้าโหวตเข้าข้างตัวเองก็เป็นอันว่า“นิติบุคคล”ทำอะไรไม่ได้

ส่วนเหตุที่ศาลระบุว่าผิด พ.ร.บ.โรงแรม 2547  เป็นเพราะตามมาตรา 4 นิยามไว้ชัดว่า โรงแรม คือสถานที่พักจัดขึ้นเพื่อมีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจให้บริการที่พักชั่วคราว สำหรับคนเดินทาง โดยมีค่าตอบแทนและยังมีมาตรการ 15 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบธุรกิจโรงแรมเว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน แค่ 2 มาตรานี้ก็ผิดเต็มประตู ส่วนบทลงโทษทั้งจำทั้งปรับ โดยปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี

แต่ด้วยเหตุที่บทลงโทษเบาไปและส่วนใหญ่จะลงเอยกันที่ค่า “ปรับ” ที่ดูจะจิ๊บๆผู้ประกอบการโรงแรมจึงมีความพยายามเสนอให้เพิ่มโทษให้หนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นการนำห้องพักคอนโดฯ ปล่อยเช่าหรือนำอาคารมาปรับปรุงเป็นห้องพักขายแก่นักท่องเที่ยว ถ้าไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการโรงแรมจากนายทะเบียน กระทรวงมหาดไทย ก็ถือว่า “ผิดก.ม.” ทั้งหมดเหมารวมไปด้วย
แต่การซื้อห้องปล่อยเช่าทำได้ง่ายกว่าและลงทุนไม่มาก จึงฮิตกันมามาก สำหรับคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้า  ย่านใจกลางเมืองและเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ชายทะเล หัวหิน พัทยาภูเก็ตเชียงใหม่นอกจากนักลงทุนรายย่อยแล้วก็ยังบริษัททัวร์จีนหัวใส ใช้วิธีซื้อห้องชุดเหมายกฟลอร์ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวจีน มาบริการนักท่องเที่ยวอีกทอดหนึ่ง รับทรัพย์กันอู้ฟู่เงินทองไม่รั่วไหล และเมืองพัทยานิยมทำกันมาก หรือไม่ก็คอนโดฯใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ

ค่ายอสังหาฯดัง LPN ลุกขึ้นมาเขียนบทความ “รู้ยัง! ปล่อยเช่าห้องชุดรายวันผิดกฎหมาย” เพื่อเตือนเจ้าของร่วมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท โดยยกเอาเคส “วันเวลา หัวหิน เขาเต่า” และคำพิพากษา เป็นตัวอย่างแจ้งให้ลูกบ้านรับทราบ ขณะเดียวกัน “สมศรี เตชะไกรศรี”  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ออกมายํ้าชัดว่า ทางโครงการไม่ส่งเสริมให้ขายห้องพักในลักษณะนี้ และเน้นการสื่อสารแจ้งแก่ลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ซื้อเข้าใจและไม่แนะนำให้เช่าระยะยาวเพราะผิดก.ม. และทรัพย์ส่วนตัวและส่วนกลางเสื่อมเร็ว และนิติบุคคลยังเข้มงวดตรวจตรา สังเกตพฤติกรรมผู้เข้าพัก เช่น สัมภาระ หรือการแต่งกาย เป็นต้น
ต่อด้วยควันหลงจากมาร์เก็ตซาวดิ้ง “พีพีพี”  โครงการ  “เมืองการบินอู่ตะเภา” ออกตัวได้สวย เพราะมีนักลงทุนต่างชาติและคนไทยเข้าร่วมกันแน่นห้องประชุมสโมสรกองทัพเรือ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาททั้งคนในวงการแอร์ไลน์ บางกอกแอร์เวย์ส  แอร์เอเชีย  BAFS การบินไทย ค่ายรับเหมาก่อสร้าง บริษัทตอกเสาเข็ม ที่ปรึกษาทางการเงิน ทุนข้ามชาติ ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส อังกฤษ ทะลักห้อง โดยมีผู้บัญชาการกองทัพเรือ “พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ” ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดงาน

มี “ดร.กอบศักดิ์ภูตระกูล” หัวเรี่ยวหัวแรงผลักดันให้เกิด“พีพีพี”ร่วมเป็นกำลังใจ ส่วน“ดร.คณิศแสงสุพรรณ” เลขาธิการ อีอีซีมาฉายภาพใหญ่ให้เห็นว่าแผนพัฒนา อีอีซีที่มีความสำคัญเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและกทม.โดยอู่ตะเภาเป็นส่วนหนึ่งของ อีอีซี ที่รัฐผลักดัน และนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปชักชวนทุนต่างชาติช่วงโรดโชว์ อังกฤษ ฝรั่งเศส สัปดาห์หน้าและแน่นอนว่าสนามบินอู่ตะเภา เป็นสนามบินแห่งที่ 3 ของไทย หลังดอนเมืองและสุวรรณภูมิขยายไม่ออก แต่สิ่งที่นักลงทุนกังวลกว่าเงินลงทุนก็คือ หากรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินไม่เกิดหรือไม่เป็นไปตามนั้น จบกัน

“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คมนาคม เป็นประธานเปิดตัวและแจกบัตรแมงมุม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แมงมุม เชื่อมโยงความสุข ทุกการเดินทาง ด้วยบัตรใบเดียว” วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน ที่สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน โดยมี “ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ” ผู้ว่าการรฟม. ร่วมงาน บัตรนี้ใช้ได้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีนํ้าเงินกับสายสีม่วงก่อน ส่วนอนาคตจะเชื่อมกับรถเมล์ เรือเมล์ และ แอร์พอร์ตลิงค์ส่วน BTS รอไปก่อน สรุปมนุษย์รถไฟฟ้าพกบัตรหลายใบเท่าเดิม

| คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
| โดย...พริกกะเหรี่ยง
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 6  ฉบับ 3,376 ระหว่าง 21-23 มิ.ย.2561