ข้าพระบาท ทาสประชาชน : จะเลือก ‘ทักษิณ’ หรือสนับสนุน ‘พล.อ.ประยุทธ์’

28 มิ.ย. 2561 | 09:24 น.
525555525 การเดินทางไปเยือนประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายน 2561 ถือเป็นการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของนายกรัฐมนตรีไทย เมื่อผู้นําประเทศของยุโรป นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดประเทศ ต้อนรับผู้นําไทยที่มาจากการรัฐประหาร ซึ่งไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีไทย คนใดที่มาจากการยึดอํานาจการปกครองประเทศ ล้มระบอบประชาธิปไตย เคยได้รับการต้อนรับเช่นนี้มาก่อน

โดยหลังการรัฐประหารใหม่ๆ บรรดาประเทศยุโรปและอเมริกา ต่างมีท่าทีไม่ยอมรับ หรือตั้งข้อรังเกียจ แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศมา 4 ปี ท่าทีของบรรดาประเทศเหล่านั้น ก็เปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงท่าทีทางการเมืองของกลุ่มประเทศในยุโรปและอเมริกาต่อไทย ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงเป็นที่น่าสนใจติดตาม จับตามองอย่างยิ่ง และยังสะท้อนว่าระบอบประชาธิปไตยของไทยในอดีตที่ถูกล้มนั้น ผู้นําที่มาจากการเลือกตั้ง ฝรั่งให้ค่าและราคาอย่างไรอีกด้วย
ct_20180621014130847 แต่ประเด็นสําคัญที่ต้องการพูดถึงวันนี้ อยากให้ความสนใจเรื่องผลจากการไปเยือนครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ สะเทือนถึงการเมือง การเลือกตั้ง ภายในประเทศของเราอย่างไรมากกว่า เพราะมีนัยสําคัญหลายประการต่ออนาคตการเมืองไทย

โดยก่อนออกเดินทาง หลังเสร็จการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้แถลงข่าวโดยระบุว่า “คสช.กําลังเตรียมการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น” ทั้งยังยืนยันว่า การเดินทางไปเยือนอังกฤษ และฝรั่งเศสครั้งนี้ ก็จะมีการชี้แจงเรื่องโรดแมปการเลือกตั้งต่อผู้นําประเทศยุโรปด้วย ซึ่งเมื่อท่านเดินทางถึงอังกฤษ ได้เข้าพบจับมือและเจรจากับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ท่านก็ได้ตอบยืนยันกับผู้นําอังกฤษว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งในปีหน้าแน่นอน
20180625093834 ไม่เพียงเท่านี้ ยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศอย่างนิตยสารไทม์และสํานักข่าว BBC อีกด้วย ถึงโรดแมปการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เช่นนี้แล้วย่อมถือเป็นสัญญาประชาคมของนายกรัฐมนตรีชายชาติทหารที่ประกาศชัดเจนที่สุดต่อพี่น้องชาวไทย และประชาคมโลก จากนี้ไปคงไม่มีใครมาทวงถามการเลือกตั้งอีก ทุกฝ่ายคงต้องเตรียมตัวเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่กําลังจะมาถึง

ในระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปฏิบัติภารกิจเพื่อประเทศชาติอยู่ในอังกฤษนั้น นายทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 อดีตนายกรัฐมนตรี และ 2 ผู้ต้องคําพิพากษาให้ลงโทษจําคุก ที่หลบหนีคดี ซึ่งเป็น 2 นักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย แต่ลอยนวลหนีความผิดมาอยู่ต่างประเทศ ปล่อยให้ลูกพรรคติดคุกแทนกันระนาวนั้น ก็พยายามจัดฉากสร้างกระแสข่าว ประกบกับข่าวการเดินทางมาอังกฤษของ พล.อ. ประยุทธ์ เพื่อเรียกความสนใจและสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่พยายามล็อบบี้ข่าวต่างประเทศ เพื่อเสนอข่าวให้ตนเองโดดเด่น ดิสเครดิตกลายๆ ต่อผู้นําปัจจุบันของไทย
ทักษิณ ขณะเดียวกันก็เคลื่อนไหวทางการเมือง โดยอาศัยฉากการจัดงานวันเกิดน้องสาวบังหน้าให้สัมภาษณ์สื่อทั้งไทยและต่างประเทศถึงการเลือกตั้งในไทยที่จะเกิดขึ้นว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน ทั้งยังแสดงความเห็นต่อสถานการณ์ในพรรคเพื่อไทย เยี่ยงเจ้าของตัวจริง และผู้มีอํานาจครอบงําพรรค ที่สามารถสั่งการใดๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังคุยโว ว่าตนอาจกลับมามีอํานาจทางการเมือง เช่น นายมหาธีร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 92 ปี อีกด้วย ทั้งที่คนทั้งโลกรู้ว่า มหาธีร์ กลับมาได้ เพราะมาปราบรัฐบาลโกง นายกฯขี้โกง ประชาชนมาเลเซียจึงให้โอกาส

จากภาพของเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์สําคัญที่อังกฤษดังกล่าว ทําให้มองเห็นภาพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้รับเกียรติและการยอมรับจากผู้นําในยุโรป และเดินทางเยือนต่างประเทศ ปฏิบัติภารกิจเพื่อประเทศชาติ เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวไทยบนเวทีโลกอย่างสมเกียรติและศักดิ์ศรีในความเป็นผู้นําประเทศ กับ ภาพสัมภเวสีทางการเมือง 2 ตน ที่เร่ร่อนไร้แผ่นดินอยู่ แต่ก็กําลังกะเสือกกะสนดิ้นรนเพื่อตนเอง และยังกระสันอยากกลับมามีอํานาจทางการเมืองอีก โดยมิได้รู้สํานึกถึงความผิดที่ตนได้กระทําไว้ต่อแผ่นดิน แถมประกาศตนชัดเจนเตรียมการเลือกตั้ง โดยบงการและครอบงําพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป โดยชักใยอยู่ต่างแดน กรณีเช่นนี้หวังว่ากรรมการการเลือกตั้งของไทย (กกต.) คงไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในประเด็นนี้ว่าผิดพ.ร.บ.พรรคการเมือง เป็นเหตุถึงต้องยุบพรรคหรือไม่
35832927_864806993703853_7456594371576594432_n การเลือกตั้งของไทยที่จะเกิดขึ้นจึงปรากฏชัดเจนว่า จะเป็นการเลือกตั้งที่สู้กันระหว่าง 2 ขั้วค่อนข้างแน่นอน เพราะคงไม่มีพรรค การเมืองอื่นใดที่มีศักยภาพในการแข่งขันชิงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง นอกจากพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กับพรรคหนุน ทักษิณ หรือนอมินี พวกกุนซือทักษิณหรือการเมืองปีกแดง ต่างพยายามชูธงว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่าง “พวกเอา คสช. กับพวกไม่เอา คสช.” หรือ กระทั่งพยายามชูป้ายสร้างราคาตนเองว่าเป็นการต่อสู้ระหว่าง “พวกเอาประชาธิปไตยกับพวกหนุนเผด็จการ”

แต่ผมอยากจะบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มิใช่เช่นนั้นแน่นอนครับ การเมืองการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น (ถ้าหากมี) ก็จะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง “พวกที่เอาระบอบทักษิณ พรรคการเมืองที่หนุนทักษิณ กับประชาชนที่ไม่เอาระบอบทักษิณ และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี” เท่านั้นครับ เพราะยังมองไม่เห็นขั้วทางการเมืองอื่นอย่างที่พวกเขาพยายามชูป้ายประโคมข่าวแต่อย่างใด

การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจึงมีเพียง 2 ขั้วนี้ ไม่มีขั้วอื่นให้เลือก อยู่ที่พี่น้องประชาชนจะเลือกข้างใด ถ้าเลือกข้างผิดก็คิดจนตัวตาย ถ้าคิดดีเลือกถูก ชีวิตก็รอด ชาติปลอดภัย มีเพียง 2 ขั้ว 2 ทางเลือกเท่านี้แหละครับ เว้นเสียแต่ว่า จะเกิดฟ้าผ่ากลางหน้าฝน


|คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน
|โดย : ประพันธุ์ คูณมี
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 6 ฉบับ 3378 ระหว่างวันที่ 28-30 มิ.ย.2561 

web-01-ad