คอนโดทะลักกระทู้-ถลางแห่ผุดรับ2สนามบิน-รถไฟฟ้ารางเบา
อำเภอเมือง-กระทู้-ถลาง 3 ทำเลทองภูเก็ต บูม รับตอกเข็มสาธารณูปโภค ทั้งขยาย-สร้าง 2 สนามบิน-อุโมงค์ ปูพรมเส้นทางจราจรสายใหม่ รถไฟรางเบา ปี 61 คอนโดฯทะลัก 1.5 หมื่นหน่วย ส่งผลภาพจังหวัดโตก้าวกระโดด เอกชนมองเป็นสัญญาณบวกของธุรกิจอสังหาฯ
นายชัยวัฒน์ ตันติวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาณา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ว่าจากการเติบโตของเมืองที่ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่มีการขยายสนามบินใกล้เคียงถึง 2 แห่ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 25 ล้านคนในอนาคต อีกทั้งแผนพัฒนาโครงการรถไฟรางเบาที่จะแล้วเสร็จใน 4-5 ปีข้างหน้า และโครงการอุโมงค์ทะลุกลางเมือง เพื่อร่นระยะทางไปป่าตองเพียง 5 นาที ประกอบกับการเปิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัล ซึ่งจะมีการพัฒนาในส่วนของโรงแรมและศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ในเฟสต่อไป ทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองสำคัญของการท่องเที่ยว และแหล่งงาน นำมาซึ่งความต้องการด้านที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะใน 3 ทำเลสำคัญ คือ อำเภอเมือง, กระทู้ และถลาง
“มองว่าภูเก็ตเป็น เวิลด์คลาส เดสติเนชัน ติดท็อปเทน ของโลก เงินสะพัดนับหมื่นล้าน ด้วยสาธารณูปโภคของรัฐ และพัฒนาเชิงพาณิชย์โดยเอกชน เอื้อให้เมืองเจริญและส่งเสริมต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อจากคนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวและนักลงทุน”
สำหรับการเติบโต ตลาดอสังหาริมทรัพย์คาดว่าคอนโดมิเนียมปี 2561 เปิดตัวประมาณ 15,000 หน่วย ขณะที่ตัวเลขดูดซึมไม่น่าห่วง เพราะที่ผ่านมาสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ 5% ภูเก็ตอยู่ที่ 7.7%
ทั้งนี้ตลาดของภูเก็ต เคยพีกสุดเมื่อปี 2557-2558 เปิดโครงการใหม่คึกคักมีหน่วยสะสมนับ 35,000 หน่วย แม้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เปิดตัวน้อยลง แต่พบดีมานด์ของตลาดยังมีต่อเนื่อง
“ปีนี้ซัพพลายเริ่มเยอะขึ้นปัจจุบันมีสัญญาณด้านความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวชัดเจนขึ้นมาก หลังจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาคอสังหาฯเผชิญกับปัญหาภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้มีการเปิดตัวโครงการน้อยลง” โดยข้อมูลของธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่าช่วงปี 2559 มีตัวเลขซัพพลายสะสมในทุกกลุ่ม ทั้งแนวสูงและแนวราบ รวมที่ดินเปล่า อยู่ที่ 29,557 หน่วย และ 26,088 หน่วย ในปี 2560 แต่เมื่อดูอัตราดูดซึมในตลาด ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ประมาณ 7.7% โดยเฉพาะในกลุ่มอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม ที่มีหน่วยสะสม 14,935 หน่วย ระดับราคา 1-3 ล้านบาท ประมาณ 6,000 หน่วย พบสิ้นปี 2560 มีหน่วยเหลือขายเพียง 1,000 หน่วย เนื่องจากมีกำลังซื้อจากลูกค้าในพื้นที่ นักท่องเที่ยว และกลุ่มนักลงทุนที่มาจากกรุงเทพฯ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติ ทั้งยุโรปและเอเชียอย่างต่อเนื่อง นับเฉลี่ยแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 30%
ด้านนายอดิศร วิเวกานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาณาฯ กล่าวว่า ดีมานด์ผู้ซื้อที่น่าสนใจ คือ กลุ่มนักลงทุนที่ต้องการกำไรจากการปล่อยเช่า เนื่องจากได้ราคาดีกว่าตลาดกรุงเทพฯ เช่น ซื้อคอนโดฯในราคา 1.5 ล้านบาท แต่ปล่อยเช่าได้ประมาณ 1.2 หมื่นบาทต่อเดือน กำไร 8% ขณะที่กรุงเทพฯได้เพียง 7-8 พันบาทเท่านั้น ส่วนราคาขายในโครงการเปิดใหม่ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 9 หมื่น-1 แสนบาทต่อตารางเมตร
ทั้งนี้ บริษัท อาณา ดีเวลอปเมนท์ฯ ภายใต้การแตกไลน์จากบริษัท ไตร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกลุ่มคอนโดมิเนียม โรงแรม และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พบมีโครงการคอนโดฯในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้แบรนด์ สเคป รวม 3 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันเตรียมปิดการขายทั้งหมด ขณะที่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวโครงการ สเปซ บนเนื้อที่ 2 ไร่ บริเวณจุดตัดถนนวิชิตสงครามและถนนเจ้าฟ้าตะวันตก อีก 197 หน่วย มูลค่า 500 ล้านบาท และมีแผนพัฒนา ที่ดินอีก 2 แปลงในบริเวณใกล้เคียงกัน เป็นโรงแรมมูลค่า 200 ล้านบาท และโครงการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุอีก 1 แห่ง
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38ฉบับ 3377 ระหว่างวันที่ 24 - 27 มิ.ย. 2561
นายชัยวัฒน์ ตันติวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาณา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ว่าจากการเติบโตของเมืองที่ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่มีการขยายสนามบินใกล้เคียงถึง 2 แห่ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 25 ล้านคนในอนาคต อีกทั้งแผนพัฒนาโครงการรถไฟรางเบาที่จะแล้วเสร็จใน 4-5 ปีข้างหน้า และโครงการอุโมงค์ทะลุกลางเมือง เพื่อร่นระยะทางไปป่าตองเพียง 5 นาที ประกอบกับการเปิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัล ซึ่งจะมีการพัฒนาในส่วนของโรงแรมและศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ในเฟสต่อไป ทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองสำคัญของการท่องเที่ยว และแหล่งงาน นำมาซึ่งความต้องการด้านที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะใน 3 ทำเลสำคัญ คือ อำเภอเมือง, กระทู้ และถลาง
“มองว่าภูเก็ตเป็น เวิลด์คลาส เดสติเนชัน ติดท็อปเทน ของโลก เงินสะพัดนับหมื่นล้าน ด้วยสาธารณูปโภคของรัฐ และพัฒนาเชิงพาณิชย์โดยเอกชน เอื้อให้เมืองเจริญและส่งเสริมต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อจากคนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวและนักลงทุน”
สำหรับการเติบโต ตลาดอสังหาริมทรัพย์คาดว่าคอนโดมิเนียมปี 2561 เปิดตัวประมาณ 15,000 หน่วย ขณะที่ตัวเลขดูดซึมไม่น่าห่วง เพราะที่ผ่านมาสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ 5% ภูเก็ตอยู่ที่ 7.7%
ทั้งนี้ตลาดของภูเก็ต เคยพีกสุดเมื่อปี 2557-2558 เปิดโครงการใหม่คึกคักมีหน่วยสะสมนับ 35,000 หน่วย แม้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เปิดตัวน้อยลง แต่พบดีมานด์ของตลาดยังมีต่อเนื่อง
“ปีนี้ซัพพลายเริ่มเยอะขึ้นปัจจุบันมีสัญญาณด้านความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวชัดเจนขึ้นมาก หลังจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาคอสังหาฯเผชิญกับปัญหาภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้มีการเปิดตัวโครงการน้อยลง” โดยข้อมูลของธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่าช่วงปี 2559 มีตัวเลขซัพพลายสะสมในทุกกลุ่ม ทั้งแนวสูงและแนวราบ รวมที่ดินเปล่า อยู่ที่ 29,557 หน่วย และ 26,088 หน่วย ในปี 2560 แต่เมื่อดูอัตราดูดซึมในตลาด ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ประมาณ 7.7% โดยเฉพาะในกลุ่มอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม ที่มีหน่วยสะสม 14,935 หน่วย ระดับราคา 1-3 ล้านบาท ประมาณ 6,000 หน่วย พบสิ้นปี 2560 มีหน่วยเหลือขายเพียง 1,000 หน่วย เนื่องจากมีกำลังซื้อจากลูกค้าในพื้นที่ นักท่องเที่ยว และกลุ่มนักลงทุนที่มาจากกรุงเทพฯ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติ ทั้งยุโรปและเอเชียอย่างต่อเนื่อง นับเฉลี่ยแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 30%
ด้านนายอดิศร วิเวกานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาณาฯ กล่าวว่า ดีมานด์ผู้ซื้อที่น่าสนใจ คือ กลุ่มนักลงทุนที่ต้องการกำไรจากการปล่อยเช่า เนื่องจากได้ราคาดีกว่าตลาดกรุงเทพฯ เช่น ซื้อคอนโดฯในราคา 1.5 ล้านบาท แต่ปล่อยเช่าได้ประมาณ 1.2 หมื่นบาทต่อเดือน กำไร 8% ขณะที่กรุงเทพฯได้เพียง 7-8 พันบาทเท่านั้น ส่วนราคาขายในโครงการเปิดใหม่ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 9 หมื่น-1 แสนบาทต่อตารางเมตร
ทั้งนี้ บริษัท อาณา ดีเวลอปเมนท์ฯ ภายใต้การแตกไลน์จากบริษัท ไตร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกลุ่มคอนโดมิเนียม โรงแรม และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พบมีโครงการคอนโดฯในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้แบรนด์ สเคป รวม 3 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันเตรียมปิดการขายทั้งหมด ขณะที่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวโครงการ สเปซ บนเนื้อที่ 2 ไร่ บริเวณจุดตัดถนนวิชิตสงครามและถนนเจ้าฟ้าตะวันตก อีก 197 หน่วย มูลค่า 500 ล้านบาท และมีแผนพัฒนา ที่ดินอีก 2 แปลงในบริเวณใกล้เคียงกัน เป็นโรงแรมมูลค่า 200 ล้านบาท และโครงการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุอีก 1 แห่ง
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38ฉบับ 3377 ระหว่างวันที่ 24 - 27 มิ.ย. 2561
