นายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธาน เปิดเผยผลการประชุมหารือจัดระเบียบแก้ปัญหาราคาสุกร พร้อมวางกรอบปฏิบัติ 4 เดือน โดยกรมจะส่งหนังสือแนวทางปฏิบัติตรงถึงทุกฝ่าย ขอความร่วมมือพ่อค้ารับซื้อสุกรในราคาเป็นธรรม ขอให้ Modern Trade การกำหนดซื้อราคาส่งควรพิจารณาต้นทุนเกษตรกรด้วย ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำต้องดูแลกัน โดยที่ประชุมมีมติขอความร่วมมือให้พ่อค้าซื้อราคาหน้าฟาร์มไม่ต่ำกว่า 60 บาท (พื้นที่ไหนที่ขายสูงกว่าให้เป็นไปตามราคาตลาดนั้น ๆ) ให้ผู้เลี้ยงไปบริหารจัดการปริมาณผลิตเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายด้านราคาขึ้นอีก
"ราคาสุกรขุนตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ลดลง จนประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง จนต่ำสุดที่ 36 บาทต่อกิโลกรัม ในพื้นที่ตะวันตกช่วงเดือน ธ.ค. โดยเป็นราคาซื้อขายสุกรขุนจริงช่วง 8 เดือน ก่อน มี.ค. 2561 เฉลี่ยในระดับ 38-50 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งประเทศ โดยราคาเนื้อสุกรที่สำรวจจากห้างค้าปลีกจะอยู่ในระดับ 87-105 บาทต่อกิโลกรัม (โดยประมาณ)"
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ร่วมกับภาครัฐหาทางแก้ไขปัญหาราคาสุกรตกต่ำมาตลอดในหลายวิธี เพื่อให้สถานการณ์ด้านราคาให้ดีขึ้น จวบจนช่วง มี.ค. 2561 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ประเมิน Supply ของตลาดลดลงจากการลดแม่พันธุ์ตามกลไกตลาด และเลิกอาชีพการเลี้ยงสุกรไปประมาณ 20% จากจำนวนผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศ จากปัญหาการขาดทุน ทำให้มีการปรับราคาสุกรขุนต่อเนื่องเพื่อให้เกษตรกรขายให้ได้สูงกว่าราคาต้นทุนที่ 63 บาทต่อกิโลกรัม ตามการประเมินของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรไตรมาส 1 ปี 2561
หลังจากราคาสุกรขุนไต่ระดับมาจนถึงระดับต้นทุน 63 บาท มีแรงต้านราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มที่ไม่เป็นไปตามกลไกของตลาด สาเหตุหนึ่งมาจากการตั้งราคาจูงใจของห้างค้าปลีกที่ต่ำมาก ไม่สอดคล้องราคาสุกรขุนและราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกร ซึ่งราคาดังกล่าวเมื่อคำนวณย้อนกลับ กลับกลายเป็นการสร้างราคาอ้างอิงราคาสุกรขุน ส่งผลให้เกษตรกรถูกกดราคาหน้าฟาร์ม โดยนำราคาจำหน่ายปลีกห้างค้าส่งค้าปลีกมาอ้าง
"ล่าสุด พ่อค้าหน้าฟาร์มใน จ.ราชบุรี แจ้งว่า ห้างค้าส่งรายใหญ่แห่งหนึ่ง (ที่มีสาขากว่า 120 สาขา และสาขาย่อยลักษณะฟู้ดเซอร์วิสอีกประมาณ 30 สาขา) มีการตั้งรับซื้อในราคาที่ต่ำมากและมีอำนาจการต่อรองสูง ทำให้พ่อค้ากลับมากดราคาหน้าฟาร์มต่อ ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญ ที่ทำให้ราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มไม่สามารถก้าวข้ามผ่านต้นทุนการเลี้ยงได้ ยังคงสร้างภาวะการณ์ขาดทุนต่อแบบไม่จบ ทำให้มูลค่าความเสียหายทั้งอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบันกว่า 10,000 ล้านบาท"
โดยมาตรการดังกล่าวนี้ มีผลครอบคลุมเป็นเวลา 4 เดือน และให้ห้างค้าปลีกจำหน่ายเนื้อสุกรให้มีราคาสอดคล้องกับราคาสุกรขุน โดยหลักการคำนวณแบบง่าย คือ ราคาสุกรขุนคูณ 2 บวกลบ 2 โดยข้อสรุปในการประชุมกรมปศุสัตว์จะทำข้อสรุปส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวทราบแลปฏิบัติเป็นหนังสือตามหลังให้กับทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
คนเลี้ยงหมูร้องรัฐบาลไทย ยืนหยัดปกป้องเกษตรกร ให้เหมือน "โดนัลด์ ทรัมป์"
●
ทางออกนอกตำรา : เรื่อง(ไม่)หมู! ‘มะริกัน’ อันตราย บีบไข่ ‘ลุงตู่’ เร่งนำเข้าแลก ‘จีเอสพี’