'เจดีดอทคอม' ประกาศร่วมไทย! ยกระดับคุณภาพสินค้าและโปรดักต์เชนชนบท

19 มิ.ย. 2561 | 13:12 น.
'เจดีดอทคอม' ผู้นำด้านธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ และบริษัทค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ประกาศพร้อมร่วมมือกับประเทศไทยและประเทศสมาชิก ACMECS หรือ ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ "อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง" โดยจะมุ่งแก้ไขปัญหาความยากไร้ในพื้นที่ชนบทผ่านการสร้างโปรดักต์เชนที่มีคุณภาพและติดตามได้ พร้อมสร้างประโยชน์ร่วมกันให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ชุมชนในพื้นที่ บริษัท หรือ ผู้บริโภค และจะเริ่มโครงการนำร่องกับประเทศไทยเป็นประเทศแรก ในงาน ACMECS CEO Forum "Connecting Our Future : Enhancing ACMECS Cooperation and Integration" ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้


Richard Liu[6848]

นายริชาร์ด หลิว ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีดอทคอม จำกัด กล่าวว่า "ประเทศสมาชิก ACMECS และประเทศจีนมีความคล้ายคลึงกันมาก เพราะต่างเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีพื้นที่ชนบทกว้างใหญ่และมีประชากรจำนวนมากที่ประสบปัญหาความยากไร้ เราจึงเชื่อว่า ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความยากไร้ของเจดีดอทคอม ที่ช่วยสร้างโปรดักต์เชนในพื้นที่ชนบทของประเทศจีนให้มีคุณภาพและติดตามได้ ทั้งยังช่วยสร้างประโยชน์ร่วมกันให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหาในประเทศสมาชิก ACMECS ได้เช่นเดียวกัน"

ในขณะเดียวกัน เจดีดอทคอมเล็งเห็นถึงกระแสความนิยมของสินค้าไทยในประเทศจีน อย่าง 'ทุเรียน' แต่พบว่า เกิดปัญหาสำคัญ คือ การแข่งขันราคาระหว่างผู้ค้าทุเรียนให้ต่ำที่สุด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เป็นผลให้ผู้จำหน่ายชาวจีนต่อรองและกดราคาทุเรียนจากประเทศไทย และส่งผลกระทบต่อเนื่องให้คุณภาพของทุเรียนในตลาดจีนต่ำลงตามไปด้วย เจดีดอทคอมจึงมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาดังกล่าวผ่านโครงการด้าน อี-คอมเมิร์ซ ที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตและลดปัญหาความยากไร้ในพื้นที่ชนบท จะยังช่วยพัฒนาคุณภาพทุเรียนไทยให้ได้มาตรฐานและสร้างแบรนด์ทุเรียนไทยให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

"สิทธิ์ของลูกค้าในการสัมผัสประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าคุณภาพ คือ สิ่งที่เราให้ความสำคัญ ปัจจุบัน เจดีดอทคอมได้ทำงานร่วมกับองค์กรในท้องถิ่นเพื่อพัฒนามาตรฐานทุเรียนไทย โดยจะติดป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Label) บนทุเรียนแต่ละลูก เพื่อติดตามและยืนยันคุณภาพ นอกจากนี้ เจดีดอทคอมจะใช้แพลตฟอร์มของเราให้ความรู้กับผู้บริโภคชาวจีนให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะคุณภาพทุเรียนมากขึ้นด้วย" นายริชาร์ด กล่าว

ยิ่งไปกว่านั้น เจดีดอทคอมจะนำเสนอสินค้าจีนคุณภาพในราคาที่จับต้องได้สู่ผู้บริโภคชาวไทยผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท เนื่องจากหลากหลายแบรนด์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของจีนมีคุณภาพทัดเทียมกับแบรนด์ต่างชาติอื่น ๆ ที่มีราคาแพงกว่า โดยมีความเชื่อมั่นว่า แบรนด์คุณภาพจากจีนเหล่านี้จะช่วยลดราคาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในตลาดไทยได้ถึงร้อยละ 30-50 นอกจากนี้ เจดีดอทคอมจะนำเข้าสินค้าในกลุ่มผลไม้ สินค้าจากยางพารา สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารทะเล จากประเทศไทย รวมเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า และจะสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีและเกษตรกรในการสร้างรายได้และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ทั้งยังพร้อมเสนอสินค้าไทยคุณภาพสู่ประเทศจีนเช่นเดียวกัน

"ความร่วมมือระหว่างเจดีดอทคอมกับประเทศไทย จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างเจดีดอทคอมกับประเทศสมาชิก ACMECS ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังพร้อมไปด้วยทรัพยากรแรงงานและสินค้าเฉพาะที่มีคุณภาพ เราจึงมุ่งหวังกระชับความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยีกับรัฐบาลและองค์กรในท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล หรือ Digital Transformation ในระบบเศรษฐิจและสังคมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตและเพิ่มพูนรายได้ในแต่ละประเทศผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของเจดีดอทคอม โดยเราหวังว่า จะสามารถเข้าสู่ประเทศสมาชิก ACMECS ได้ภายในเวลา 2 ปีข้างหน้า" นายริชาร์ด กล่าวสรุป

เจดีดอทคอมได้เสนอโครงการิเริ่มต่าง ๆ ต่อรัฐบาลไทย เพื่อสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยและดึงดูดการลงทุนสู่อุตสาหกรรมเกิดใหม่ โดยได้นำเสนอโครงการ เช่น การก่อสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ การสร้างฐานการฝึกอบรมด้าน อี-คอมเมิร์ซ กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมไปถึงการสร้างศูนย์วิจัยร่วมด้านวิทยาศาสตร์ และมีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือดังกล่าวกับประเทศสมาชิก ACMECS อื่น ๆ ต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ ความมุ่งมั่นดังกล่าวยังตรงกับพันธสัญญาของเจดีเซ็นทรัล บริษัท อี-คอมเมิร์ซ ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนระหว่างเจดีดอทคอมและเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยผลักดันสินค้าไทยออกสู่ตลาดสากล และจะพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าไทยให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับนานาชาติ พร้อมต่อยอดพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
'เจดีดอทคอม' เปิดตำราสอนลุยตลาดจีน
เจดีดอทคอมผนึกควีน โฟรเซ่นส่งทุเรียนตีตลาดจีน


e-book-1-503x62-7