โชติช่วงชัชวาลรอบใหม่

16 พ.ค. 2561 | 07:12 น.
โลกเปลี่ยน-Recovered ในที่สุดพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ได้ประกาศมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการเรียกหายุคโชติช่วงชัชวาล 2 ตั้งแต่การพัฒนาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกในช่วง30 ปีที่ผ่านมา แทบไม่มีการพัฒนาพื้นฐานเศรษฐกิจใหม่ เรียกได้ว่าเหมือนกับการปูพื้นฐานแล้วหยุดนิ่ง จนเศรษฐกิจโดยภาพรวมขยายตัวแบบติดหล่ม เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่เป็น จากยุคเฟื่องฟูเข้าสู่ช่วงอับเฉา เมื่อเทียบกับการพัฒนาของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน

พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จะก่อให้เกิดการลงทุนใหม่ๆครั้งใหญ่เฉพาะโครงการโครงสร้างพื้นฐาน สนามบิน ท่าเรือ รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ การพัฒนาเมืองใหม่ ที่เป็นการวางแผนการลงทุนโดยภาครัฐมีเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 4-5 แสนล้านบาท ไม่นับรวมการลงทุนจากภาคเอกชนใน 10 อุตสาหกรรมใหม่ ในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ศูนย์ซ่อมเครื่องบิน เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ เชื้อเพลิงชีวภาพ แปรรูปอาหาร ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดิจิตอล การแพทย์และสุขภาพครบวงจร ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ มีเม็ดเงินลงทุนรวมกันนับล้านล้านบาท
n20180111120604_144024 พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นที่จับจ้องและรอคอยของนักลงทุน ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่รอคอยกฎหมายฉบับนี้ออกมา เพื่อหวังเป็นหลักในการการันตีการลงทุนและเริ่มสตาร์ตการเข้าลงทุนอย่างเป็นทางการ หลังจากนักลงทุนหลายกลุ่ม หลายชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐฯ ต่างลงพื้นที่เข้าศึกษาลู่ทางการลงทุนก่อนหน้านี้หลายรอบต่างกรรมต่างวาระ บางรายได้เข้าจับจองพื้นที่ล่วงหน้า เพื่อลงหลักปักหมุดการลงทุนไปบ้างแล้ว

ต้องยอมรับว่าไทยและโลกเผชิญกับความเสี่ยง จากเทคโนโลยีที่ไล่ล่าอย่างหนัก จนปรับตัวแทบไม่ทัน โดยอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจถือว่าอยู่ในระดับตํ่า จากผลพวงของหลายปัจจัยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุจะเพิ่มนํ้าหนักให้การเติบโตในอนาคตตํ่าลงอีก การวางแผนรับมือจึงต้องก้าวทัน โดยมุ่งหานวัตกรรมใหม่ เทคโนโลยีและการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่ภาครัฐซึ่งเป็นผู้นำต้องมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น
23755100_1872548702764676_1360558852296252241_n พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่ประกาศออกมาคล้ายกับเริ่มต้นปรับปรุงซ่อมแซมฐานรากของเศรษฐกิจอีกครั้ง เป็นยุทธศาสตร์รองรับเศรษฐกิจยุคเทคโนโลยี เปรียบเหมือนกับนํ้าที่มาทันในเวลาแห้งแล้งอย่างหนัก เพียงแต่ต้องคิดต่อยอดให้รากฐานที่ทุ่มลงไปนี้ สามารถขยายวงกระจายตัวไปทั้งประเทศ ไม่ให้กระจุกตัวอยู่แต่ในเฉพาะภาคตะวันออก จะโชติช่วงชัชวาลรอบใหม่หรืออับแสง อยู่ที่ทุกภาคส่วนจะร่วมไม้ร่วมมือกันอย่างไร ต้องลงทุนลงแรงกันทุกฝ่าย แม้ภาครัฐจะเป็นผู้นำ แต่ก็ได้แค่นำร่องเท่านั้น
......................
บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3366 ระหว่างวันที่ 17-19 พ.ค.2561 |
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว