"สมคิด" วอนหาคนรุ่นใหม่ปฎิรูปประเทศ

03 พ.ค. 2561 | 14:51 น.
“สมคิด” เรียกร้องทุกพรรคสรรหาคนรุ่นใหม่ร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศ โชว์นโยบายเด่นพัฒนาประเทศ

- 3 พ.ค. 61 - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทุกพรรคการเมืองควรสรรหาคนรุ่นใหม่มาช่วยกำหนดนโยบายในการดูแลประชาชน เพื่อผลักดันการปฏิรูปด้านต่างๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการ เศรษฐกิจดิจิทัลต้องเกิดขึ้น การผลักดันบิ๊กดาต้า เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของยุคใหม่ต้องทำให้เกิดขึ้น จึงขอให้ทุกพรรคใช้เวลาศึกษานโยบายที่ดี สรรหาคนเก่ง คนดีมีความสามารถมาร่วมทำงานการเมือง เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน เมื่อได้รับเลือกมาแล้วจะได้นำนโยบายดีๆ มาขับเคลื่อนได้ ดังนั้นช่วงนี้กว่าจะถึงเวลาเลือกตั้งควรใช้เวลาคิดหานโยบายให้ดี เตรียมรองรับการเลือกตั้ง เพื่อช่วยบ้านเมืองให้เจริญขึ้น เพราะเห็นว่าการเมืองไทยผ่านมากี่สิบปีแล้ว จึงอยากให้ประเทศพัฒนาให้ดีขึ้นกว่านี้

“หากมีแต่พรรคการเมืองแบบเดิม พูดตอบโต้แบบเดิมๆ คิดแต่เรื่องการเมือง โจมตีฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น จึงไม่อยากให้ใช้คำว่า “ดูดนักการเมือง หรือดูดส้วม” เพราะนั่นเป็นการเล่นการเมืองแบบเก่า หากเล่นการเมืองแบบเดิมคนจะเบื่อการเมือง ยังไม่เห็นเลยว่าใครไปดูดใคร เนื่องจากในแวดวงรู้จักนักการเมืองกันแทบทุกพรรค เพราะเมื่อเลือกตั้งแล้วใครเป็นรัฐบาล ยังไงหลายพรรคคงได้ทำงานร่วมกัน จึงพูดคุยกับหลายคนได้ ส่วนการพูดคุยกับแกนนำบ้านริมน้ำ นายสุชาติ ตันเจริญ นั้นเป็นเรื่องของลูกทีมเศรษฐกิจ และต้องตอบว่าทำไมสมาชิกพรรคอยากย้ายบ้าน เพราะบ้านอยู่แล้วไม่มีความสุขรึเปล่า ต้องเป็นบ้านที่คนไทยฝากความหวังเอาไว้ได้” นายสมคิด กล่าว

เมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน อยากให้ทุกโครงการทุกด้านที่พัฒนาควรเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะความสงบของประเทศเป็นสิ่งจำเป็น และหากใครทำได้ดีกว่าก็พร้อมส่งเสริม ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลเศรษฐกิจ ที่บอกว่าไปดูดคนโน้นคนนี้ ไม่เคยตอบโต้ เพราะทุกพรรคต่างรู้จักกันดี แต่มองว่าการเมืองไทยจะค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ต้องมีนักการเมืองคนเก่า คนใหม่ผสมผสานกันไป แต่สิ่งสำคัญต้องมีไอเดียเป็นตัวนำ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันก้าวข้ามความขัดแย้งเอาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง เมื่อมาอยู่การเมือง คือการทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่เคยพูดว่าจะไปตั้งพรรคการเมือง แต่ขึ้นอยู่กับทีมเศรษฐกิจที่เขาจะหารือกับใคร ส่วนจะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่เกี่ยว ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ แล้วถึงจะดึงมาร่วมเป็นทีมเศรษฐกิจอีกหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดูอย่างประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ อายุ 40 ปี คนรุ่นใหม่เป็นรัฐมนตรีแล้ว ส่วนมาเลเซีย มหาเธร์ อายุ 80 ปี แล้วยังต้องกลับมาเล่นการเลือกหาเสียงเลือกตั้ง แสดงว่ากำลังมีปัญหาจึงต้องกลับมา จึงอยากให้ไทยร่วมกันพัฒนาการเมือง เพื่อให้คนรุ่นใหม่เป็นรัฐมนตรี และนักการเมืองอาวุโสเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแล