บจ.กลาง-เล็กลั่นโต2หลัก นักลงทุนสถาบันหนีหุ้นใหญ่ซบ Mid&SmallCap

27 ม.ค. 2559 | 05:00 น.
บริษัทจดทะเบียนกลาง-เล็ก กางแผนปี 59 ตั้งเป้ารายได้โตเลข 2 หลัก "ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ " ลุยทั้งในและนอก ดันเป้ารายได้โต 15 % ทะลุพันล้าน "ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง "มั่นใจโต 150% พร้อมบุกตลาดอาเซียน ประเดิมผนึกพันธมิตรกัมพูชา สร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล "บีเจซี เฮฟวี่"ตุนแบ็กล็อก 5.2 พันล้าน พร้อมขยายฐานลูกค้าอเมริกาเหนือ-ตะวันออกกลาง บลจ.ทิสโก้ฯ โฟกัสลงทุนหุ้นไซซ์กลางและเล็ก เลี่ยงหุ้นบิ๊กแคป

บริษัทจดทะเบียนไทย(บจ.)ทยอยแถลงแผนและทิศทางการดำเนินงานปี 2559 จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ที่รุมเร้านั้น บจ.ขนาดกลางและขนาดเล็กบางแห่งยังตั้งเป้าการเติบโตเลข 2 หลัก พร้อมเดินหน้ากระจายความเสี่ยงไปลงทุนต่างประเทศ เช่นเดียวกับมุมมองบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือบลจ.ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันมองว่าปีนี้หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กน่าสนใจกว่าหุ้นขนาดใหญ่

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน)(บมจ.) (TACC) ผู้จัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟรายใหญ่ในร้านสะดวกซื้อ "7-Eleven" เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานปี 2559 ว่า จะการขยายการลงทุนในธุรกิจ "เครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ" (Vending Machine) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มร้อนประเภทชาและกาแฟในร้าน 7-Eleven โดยตั้งเป้าติดตั้งให้ได้ประมาณ 1,500 เครื่อง ภายในปี 2560 ส่วนปลายปีที่ผ่านมา ติดตั้งไปแล้ว 10 เครื่องเพื่อทดสอบตลาด สำหรับปีนี้มีแผนติดตั้ง 740 เครื่อง และปี 2560 ติดตั้งเพิ่มอีก 750 เครื่อง กระจายตามสาขาของ 7-Eleven ทั่วประเทศ ใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท

ด้านรายได้ปี 2559 ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เทียบปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท ได้รับปัจจัยหนุนสำคัญมาจากรายได้จากธุรกิจที่มีการร่วมพัฒนา (B2B) ร่วมกับ 7-Eleven ซึ่งถือเป็นคู่ค้าพันธมิตร ทั้งนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จาก B2B ปีนี้จะอยู่ที่ 80-85% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 15-20% เป็นรายได้ที่มาจากสินค้าที่จำหน่ายออกสู่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ภายใต้แบรนด์ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม ชาเขียว "เซนย่า" กาแฟ "วี-สลิม" เครื่องดื่ม "ณ อรุณ" และ เครื่องดื่ม "สวัสดี"

นอกจากนี้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นประมาณ 12% ของรายได้รวม จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8 % โดยบริษัทมีแผนบุกตลาดในประเทศกัมพูชา จีน และลาว ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) ประกอบธุรกิจพลังงานทางเลือก เปิดเผยว่า ปี 2559 ตั้งเป้ารายได้โต 150 % (งวด 9 เดือนปี 58 มีรายได้รวม 190.57 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.19 ล้านบาท)โดยจะรับรู้รายได้จาก 3 โรงไฟฟ้า คือ ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์,แม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ และมหาชัย กรีน เพาเวอร์ กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 30 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดด

นอกจากนี้บริษัทเตรียมขยายธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยที่ผ่านมาได้เซ็นลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู)กับพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศกัมพูชา เพื่อศึกษาการเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิตประมาณ 90 เมกะวัตต์ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 เฟส เฟสละ 30 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

นายยู ยูน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI ) ประกอบธุรกิจวิศวกรรมด้านการรับจ้างผลิตและการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมตามแบบและขนาดที่ลูกค้ากำหนด กล่าวว่าปี 2559 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากมีงานในมือรอรับรู้รายได้(แบ็กล็อก)มูลค่า 5.2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงาน 3 โครงการในประเทศบราซิล และมีระยะเวลาทยอยส่งมอบงานตลอดปี 2559

นอกจากนี้อยู่ระหว่างรอลุ้นผลประมูลงานโครงการ High Potential Projects มูลค่าประมาณ 6.5 พันล้านบาท และเตรียมยื่นประมูลงานใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนทำให้ผลประกอบการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

นานยู ยูน ยังกล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าไปยังพื้นที่ใหม่ๆ อาทิ ทวีปอเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ทั้งนี้เพื่อกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และมองว่าการได้เข้ารับงานในพื้นที่ใหม่ๆ จะทำให้ผลงานเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้นด้วย

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ฯ กล่าวว่า สำหรับปี 2559 นี้ หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก (Mid & Small Cap)น่าสนใจกว่าหุ้นขนาดใหญ่ โดยจะเห็นได้ว่าปีที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปรับลดลง 14% แต่หากเลือกลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกได้ โดยต้องใช้ความสามารถในการคัดเลือกหุ้นและมีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างทันท่วงที ซึ่งในปี 2559 นี้ บลจ. ทิสโก้ฯ ยังมีมุมมองคงเดิมว่า แนะนำนักลงทุนให้ใช้กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก หากต้องการสร้างผลตอบแทนให้ชนะดัชนีตลาดหุ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,125 วันที่ 24 - 27 มกราคม พ.ศ. 2559