ประยุทธ์ย้ำ! "ไม่เข้าข้างใดและไม่ใช่เครื่องดูดนักการเมือง"

24 เม.ย. 2561 | 13:21 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง หลังจากตั้ง นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เข้ารับหน้าที่ดังกล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังไม่มีการตั้งใครเพิ่ม และการตั้งนายสนธยานั้น เพื่อให้ดูภาคตะวันออก เพราะทำงานทางภาคตะวันออกอยู่แล้ว ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนพอสมควร จึงให้มาเป็นที่ปรึกษาเพียงแค่นั้น ไม่ได้มุ่งหวังทางการเมืองอะไร ไม่ใช่หรอก วันนั้นบังเอิญตนตอบเร็วไปนิดนึง ซึ่งเรื่องการเมืองตนยังไม่ได้ปรึกษาอะไรสักคำ เพราะยังไม่ได้เดินการเมืองเลย ใครจะเดินก็ว่าไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า “นายสนธยาได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่หรือยัง?” นายกฯ กล่าวว่า นายสนธยาอยู่ในคณะที่ปรึกษาและมีรายงานส่งขึ้นมา เป็นการทำงานร่วมกับคณะที่ปรึกษา ซึ่งที่ปรึกษานายกฯ มีหลายคนและหลายฝ่าย และสิ่งที่ในวันนี้ คือ การขับเคลื่อนสร้างการรับรู้ต่าง ๆ โดยตนได้รวบรวมประมวลมาและนำมาใช้ในการทำงาน ตรงนั้นเรียกว่า คณะที่ปรึกษา ทุกคน ตนปรึกษาหมด ไม่ใช่ตั้งคณะที่ปรึกษามาแล้วไม่ปรึกษา แล้วจะตั้งมาทำไม แล้วที่ปรึกษาก็จะมีฝ่ายเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ทั้งหมดต้องคุยกัน

 

[caption id="attachment_277111" align="aligncenter" width="503"] สนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล สนธยา คุณปลื้ม
หัวหน้าพรรคพลังชล[/caption]

เมื่อถามว่า “จะเรียกประชุมที่ปรึกษานายกฯ เมื่อไหร่?” นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ต้องเรียกประชุม เพราะมีการประชุมย่อยอยู่แล้ว โดยมีหัวหน้าคณะที่ปรึกษาประชุมกัน ทำไมสื่ออยากรู้ทุกเรื่อง คราวหน้าสมัครเป็น ส.ส. มาเป็นรัฐบาลเลย จะได้รู้ทุกเรื่อง

เมื่อถามว่า “การประชุม ครม. และลงพื้นที่ จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ ในวันที่ 7-8 พ.ค. นี้ มีอะไรพิเศษหรือไม่?” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการลงพื้นที่ปกติ เหมือนการลงจังหวัดอื่น ๆ ไม่มีการพบใครแบบส่วนตัวหรือพบใครในที่รโหฐาน แต่พบกันในที่ใหญ่ ๆ กว้าง ๆ ร่วมกับประชาชนทั่วไป เพราะใครจะมารับตนก็ไม่ปฏิเสธ ถือเป็นเรื่องเจ้าบ้านที่ดี ก็มารับ เป็นธรรมดา


แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์

“ผมไม่ไปตกลงการเมืองอะไรกับใครทั้งสิ้น ผมไม่สามารถตกลงอะไรกับใคร เพราะผมยังไม่ไปสู่ตรงนั้น เป็นเรื่องของกระบวนการทางการเมือง ใครจะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่ามาเอาผมไปเกี่ยวข้องตรงนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า “ในเดือน มิ.ย. นี้ ยังจะเชิญพรรคการเมืองมาหารือ เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งอยู่หรือไม่?” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ มิ.ย. นี้ เป็นต้นไป จะหาโอกาสพูดคุย พวกเขาอยากจะคุยกับตนหรือไม่ ยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะพวกเขาบอกจะไม่คุยกับตน แล้วตนจะไปคุยกับใคร คุยกับสื่อ หรือสื่อไม่ใช่นักการเมือง แล้วไปยุ่งอะไรกับนักการเมือง เมื่อพวกเขาไม่อยากคุยกับตน ก็ไม่ต้องคุยก็แค่นั้น ทำไมจะต้องมากดดันรัฐบาล


16-3344

เมื่อถามว่า “อึดอัดใจหรือไม่ ที่มีหลายพรรคการเมืองอยากเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯคนนอก หลังการเลือกตั้ง?” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “รู้สึกเฉย ๆ เพราะผมยังไม่ได้ตอบรับอะไรใครสักคน” เมื่อถามย้ำว่า “แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะตอบรับใช่หรือไม่?” พล.อ.ประยุทธ์ นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “ไม่รู้ ไม่รู้”

เมื่อถามอีกว่า “แนวทางของพรรคการเมืองแบบใดที่จะตัดสินใจเข้าร่วม?” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ร่วมพรรคไหน แล้วจะไปร่วมอะไรกับใครได้ ตอนนี้ผมไม่รู้ ตัวผมอยู่ตรงกลาง จะเป็นอะไร จะทำอะไรก็แล้วแต่ ผมต้องอยู่ตรงกลางให้ได้ คำว่าตรงกลาง คือ เอาทุกคนมาร่วมกันบริหารประเทศให้ได้ ด้วยกลไกประชาธิปไตย แต่จะไปอย่างไร ผมยังไม่รู้ และผมจะไปตรงนั้นได้อย่างไรก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

เมื่อถามว่า “มีเสียงสะท้อนว่า หากนายกฯ จะดึงนักการเมืองก็ควรดึงนักการเมืองที่ดี ๆ?” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “แน่นอน แต่อะไรล่ะ คือ ที่ว่าดี ๆ ที่ดี ๆ คืออะไร หลายคนอาจจะอยากทำความดี แต่มันทำดีไม่ได้ ท้ายที่สุดถูกนโยบายพรรค ถูกอะไรต่าง ๆ มันก็ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเองก็เลยเสียไปทั้งหมด ผมไม่ได้รังเกียจนักการเมือง หากใครมาแสดงบทบาทว่าจะร่วมกันพัฒนาประเทศ ทำเพื่อประเทศชาติ เราจะไม่ทำการเมืองแบบเดิม ๆ ผมก็ยินดีกับทุกคน จะมาอยู่ตรงไหนก็อยู่ไปเถอะ วันหน้าพวกเขาเลือกตั้งมาเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องหาคนที่จะทำให้การทำงานเดินหน้าไปได้ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะ ส.ส. ต้องรับผิดชอบดูแลทุกข์สุขให้ประชาชน ฉะนั้น ก็ต้องดูแล ส.ส. ทั้ง 2 ฝ่าย ในเรื่องการจัดทำแผนโครงการให้เกิดความทั่วถึงลดความเหลื่อมล้ำ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีความเหลื่อมล้ำมากมายในทุกพื้นที่ ทั้งถนนหนทางการเกษตร ไม่ได้สร้างแบบฟอร์มรองรับเอาไว้ รัฐบาลนี้กำลังทำรูปแบบขึ้นมาทั้งกฎหมาย กระบวนการทุกกิจการให้แต่ละพื้นที่มีศักยภาพมากน้อยตามลำดับ เพื่อให้เกิดการแข่งขันแบ่งปัน

 

[caption id="attachment_277113" align="aligncenter" width="503"] พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.[/caption]

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.ประยุทธ์ ได้เดินออกจากโพเดียมอย่างอารมณ์ดี โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่า “คล้ายว่า นายกฯ แก้มตอบไป?” โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า “ไม่ได้ไปเสริมสวยแบบเธอ” ผู้สื่อข่าวจึงชี้แจงว่า “สิ่งที่สอบถามว่า แก้มตอบหมายถึงการดูดนักการเมือง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “จะไปดูดนักการเมืองอะไร ยังไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคไหนเลย” เมื่อถามอีกว่า “จะเป็นหัวหน้าพรรคใดหรือไม่?” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้” เมื่อถามอีกว่า “ไม่รู้แสดงว่า ไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่?” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทันทีว่า “ไม่แสดงตอนนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีและ คสช. พล.อ.ประยุทธ์ ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวว่า “ได้ยิน นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่? ที่มีการระบุว่า การที่ คสช. เดินสายในขณะนี้ เป็นการใช้พลังดูดกับอดีตนักการเมือง โดยใช้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตัวล่อนั้น” โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ไม่ได้ยิน ฉันไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น วิพากษ์วิจารณ์ไปซิ ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว ทำงานอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกัน”

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ

นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ ว่า มีความก้าวหน้า โดยมีการพิจารณาไปแล้ว 87 มาตรา จาก 130 มาตรา แต่ 80 มาตราดังกล่าว เป็นไปด้วยความยุ่งยาก เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องการกำหนดกระบวนการที่ดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม มีการกำหนดรายละเอียดขั้นตอน และกำหนดข้อห้ามการกระทำต่าง ๆ ภายในหน่วยเลือกตั้งและบริเวณเลือกตั้งจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาจะต้องพิจารณาว่า ประเด็นเหล่านี้จะปฏิบัติได้หรือไม่ จะปฏิบัติอย่างไร และมีโทษอะไรที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถเสร็จภายในเดือน เม.ย. ได้ เนื่องจากมีวันหยุดจำนวนมาก

เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎกีา กล่าวถึงกระทรวงมหาดไทยเสนอ ครม. ให้แก้ไขปรับแก้คุณสมบัติผู้ลงสมัครเป็นผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งต่อไป ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับคุณสมบัติเหล่านี้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประมวลเรื่องคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามในเรื่องการกระทำการทุจริตเอาไว้อยู่แล้ว ดังนั้น มันถูกเขียนในร่างกฎหมายฉบับนี้ตั้งแต่ต้น


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“สนธิรัตน์” ย้ำตั้ง “สนธยา” มาช่วยอีอีซี “ไม่ได้ดูดนักการเมือง” เผยตั้งพรรคอยู่ขั้นหารือ
ยอมรับพูดคุยกับนักการเมือง “วางแนวทางผลักดันประเทศ”


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว