สงสัย "ทำฟรีหรือมีเงินทอน?" รุมจวก "กสทช." จะอุ้มทำไม?... 2 ค่ายมือถือกำไรอยู่เเล้ว

08 เม.ย. 2561 | 14:15 น.
วงเสวนารุมจวก "กสทช." เละ จะอุ้มทำไม? 2ค่ายมือถือกำไรอยู่เเล้ว สงสัย ”ทำฟรีหรือมีเงินทอน?” จี้ ”บิ๊กป้อมเเละฐากร” รับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อเวลา 13.00 น. คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35และเครือข่ายตรวจสอบภาคประชาชน จัดเสวนาวิชาการ หัวข้อ “ม.44 อุ้มค่ายมือถือ :กสทช.-เอกชน มีเงินทอนหรือไม่”

โดยมี น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว.กทม. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ อดีตกสทช. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต สปท. เเละนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย)ร่วมเสวนา

น.ส.รสนากล่าวว่า กรณีที่กสทช. เสนอให้คสช. ขยายเวลาการชำระเงินงวดสุดท้ายของสองค่ายโทรศัพท์มือถือที่ประมูลคลื่นความถี่900เมกะเฮริทซ์ได้ มูลค่ารวม 120,000 ล้านบาท ในปี 2563 นั้น เป็นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะรัฐเสียประโยชน์ ขณะที่เอกชนได้ประโยชน์ เพราะสองบริษัท (เอไอเอสและทรู) มีกำไรอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือ

“ในต่างประเทศเมื่อมีการประมูลแล้ว จะให้ผู้ประมูลที่ชนะชำระเงินเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการไม่ชำระเงินและอาจจะมีการทิ้งคลื่น ต้องพิจารณาว่าการใช้อำนาจ ม.44 ของคสช. ในเรื่องนี้ทำได้หรือไม่ เพระตามม.44 ตามรัฐธรมนูญกำหนดให้ใช้ 3 กรณี คือ เพื่อการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เพื่อสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ รวมทั้งแก้ปัญหาความสงบเรียบร้อยของชาติ ราชบัลลังก์ และราชการแผ่นดิน เท่านั้น ดังนั้นจึงน่าสังเกตว่าจะเป็นการทำฟรี ๆ หรือมีเงินทอนหรือไม่

จึงอยากให้มีการทบทวนเรื่องนี้และพิจารณาให้รอบคอบ เพราะกังวลว่าอาจจะมีการผลักดันและนำเข้าสู่ที่ประชุมครม. ในสัปดาห์นี้ที่เจ้าใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งประชาชนอาจจะตั้งรับไม่ทัน” น.ส.รสนากล่าว
w644 “กระบวนการเรื่องนี้ถ้าใช้ ม.44 รัฐเสียประโยชน์ เอกชนได้ประโยชน์ ไม่มีเหตุผลทที่จะไปช่วยเหลือ เพราะตามทีโออาร์ได้มีการเขียนไว้อยู่แล้ว และช่วงต้นกำหนดให้จ่ายค่างวดน้อยเพื่อนำเงินไปลงทุน และจ่ายปีสุดท้าย 60,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่จ่ายภายใน 15 วันต้องจ่ายดอกเบี้ย 15% ต่อปี โดยคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน ขณะที่กสทช.จะคิดดอกเบี้ยกรณียืดชำระเพียง 1.5% เท่านั้น ที่ผ่านมา รัฐบาลช่วยคนจนกู้นอกระบบให้มากู้ธนาคารออมสิน จ่ายดอก 19% ต่อปี ผ่อนจ่ายไม่เกิน 5 ปี แต่จะมาช่วยนายทุนจ่ายดอกเบี้ยแค่ 1.5% โดยบริษัทมีมูลค่าการตลาดเป็นมูลค่าแสนล้านบาทจึงไม่มีเหตุที่จะช่วย

เช่นเดียวกับกรณี การทางพิเศษฯต้องการกู้เงิน 3,000-4,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนทางด่วน รัฐไม่ยอมกู้ให้ไปกู้ผ่านไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ดอกเบี้ย 7-8% ซึ่งเรื่องนี้หาก คสช.ยังเดินหน้าเราก็จะไม่หยุดเช่นเดียวกัน และจะคัดค้านเต็มที่” น.ส.รสนา กล่าว
1523179276871-960x0 จากนั้นน.ส.สุภิญญา กล่าวว่า กสทช. มีอำนาจเต็มที่เป็นองค์กรอิสระสามารถแก้กฎหมายได้โดยไม่ต้องผ่าน คสช. แต่ก็ไม่กล้าทำต้องเสนอให้ คสช. ทำแทน เเละยังสอดไส้มาพร้อมกับการแก้ปัญหาทีวีดิจิทัล ซึ่งในส่วน ทีวีดิจิทัลได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐทั้งกสทช.และคสช. จึงต้องมีมาตรการช่วยเหลือ แต่จะช่วยอย่างไรสามารถถกเถียงกันได้ ส่วนค่ายโทรศัพท์มือถือยังไม่เห็นว่าได้รับผลกระทบจากนโยบายของกสทช. หรือภาครัฐ เพราะตั้งแต่ที่ประมูลคลื่นมาจำนวนผู้ใช้บริการก็เพิ่มมากขึ้น จากการเข้าถึงสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียของประชาชน

“ถ้านำทั้งสองเรื่องมาโยงกัน ดิจิทัลทีวีจะยิ่งได้รับผลกระทบ เพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือสักที และยังถูกจับเป็นตัวประกันของกลุ่มโทรคมนาคมว่า ช่วยทีวิดิจิทัลก็ต้องช่วยโทรคมนาคมด้วย ซึ่งหากคสช. มาอุ้มเรื่องนี้แทน กสทช. จะสบายไปด้วย เช่นเดียวกับค่ายมือถือ ขณะที่รัฐไม่ได้รับเงินเข้ามาในงบประมาณ และหากเงินไม่เข้าก็ไม่รู้ว่าจะกระจัดกระจายไปที่ใดบ้าง” 278947 ด้านนายมานะกล่าวว่า จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เอไอเอส และทรู มีตัวเลขกำไรชัดเจน และมีความสามารถที่จะระดมเงินมาชำระหนี้ใบอนุญาตที่เหลืออยู่ได้ ซึ่งรัฐไม่ต้องกังวลว่าทั้ง 2 บริษัทไม่มีเงินมาชำระหนี้ ส่วนกรณีที่มีแนวคิดจะให้แบ่งจ่ายเงินงวดสุดท้ายและจะคิดดอกเบี้ยเพียง 1.5% อยู่ในระดับต่ำมาก มองว่าหากรัฐให้ความช่วยเหลือจะเป็นการเอื้อให้ทั้งสองบริษัทมีศักยภาพทางการเงินมากกว่าคู่แข่ง และผู้ที่จะเข้ามาประมูลคลื่นรายใหม่ในอนาคต ซึ่งจะเป็นผลให้เกิดการผูกขาดตลาดโทรคมนาคมและประชาชนผู้ใช้บริการจะเสียประโยชน์

“เรื่องนี้ควรนำมาถกเถียงในสนช.ว่าควรจะมีทางออกอย่างไร เพื่อให้มีความชัดเจน เพราะ หากใช้ ม.44 จะไม่มีการผูกติดว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐ หากรัฐเสียประโยชน์จะต้องมีการคนชดใช้ หากกสทช.เเละคสช. มีการให้ความช่วยเหลือ จะเป็นการสร้างความแคลงใจว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง เป็นการตอกลิ่มอภิสิทธิ์ชนในวันข้างหน้าอีก พวกตนจะมีการทำหนังสือถึง คสช. เพื่อแสดงจุดยืนต่อเรื่องนี้เร็วๆ นี้” นายมานะ กล่าว
84230-780x405 ต่อมานายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนก.พ.ว่า จะมีการนำเรื่องการให้ความช่วยเหลือทีวิดิจิทัลและโทรศัพท์มือถือโดยให้ที่ประชุม คสช. พิจารณา เป็นเรื่องที่โยนหินถามทางมาก่อน

“พล.อ.ประวิตร เป็นแกนนำเรื่องนี้ หากรัฐได้รับความเสียหาย พล.อ.ประวิตรต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นและโอกาสของประเทศที่จะเสียไป หากไม่ได้เงินเข้ามาทำงบประมาณ เช่นเดียวกับนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ที่ต้องชัดเจนว่าทำงานเพื่อใคร หากทำงานรับใช้ 2 ค่ายมือถือก็ควรจะลาออกไป”นายชาญชัยระบุ