"ประยุทธ์"ย้ำพร้อมฟังทุกฝ่าย ให้ข้อมูลตรวจสอบทุจริต จ่อเปิดเเอพฯ“สายด่วนไทยนิยม”

24 มี.ค. 2561 | 01:41 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า”เมื่อมีการอนุมัติจัดทำโครงการขึ้นมา แล้วเสนอแผนการดำเนินการที่ชัดเจนแล้ว ก็ขอให้ติดตามความคืบหน้าจากการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานเจ้าของโครงการ เพื่อให้ประชาชนรับรู้รับทราบ ช่วยกันเข้าไปดูแล เฝ้าระวังทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฯ ที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการรับฟังความคิดเห็น มีช่องทางสื่อสารที่เปิดกว้างไว้ให้เสมอ ปรากฏว่ามีหลายโครงการนะครับ เกิดปัญหาในขั้นตอนการประมูล หรือหลังจากการประมูลแล้ว ที่มีผู้ชนะการประมูลและผู้ที่ไม่สมหวังในการประมูลนะครับ ทั้งสองฝ่ายนั้นควรที่จะเคารพกติกา ถ้ารัฐทำ เจ้าของหน่วยงานเขาทำโครงการอกมาแล้วอย่างโปร่งใสนะครับ ผู้ที่เข้ามาประมูล ก็ต้องยอมรับในกติกาเหล่านั้นนะครับ ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างประมูล ได้-ไม่ได้ แล้วก็กล่าวให้ร้ายซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ประมูลไม่ได้นะครับ ต้องสำรวจ หาข้อมูลที่แท้จริงนะครับ โครงการเหล่านั้น ก็จะต้องถูกตรวจสอบ ทำให้เกิดความชักช้าเสียเวลานะครับ ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริง รัฐบาล คสช. และองค์กรอิสระอื่นๆ นั้นก็จะไม่ปล่อยไว้นะครับ จะเข้าไปตรวจสอบทุกอันตามกฎหมาย หากตรวจพบว่ามีการทุจริต ไม่ว่าจะโดยข้าราชการ เอกชนนักธุรกิจ หรือประชาชนเองก็ตาม ที่ร่วมมือกันทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เจตนาหรือไม่เจตนา หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ต้องอาศัยกฎหมาย อาศัยกระบวนการยุติธรรมปกติที่มีอยู่แล้ว ในการตัดสิน ชี้ถูกชี้ผิด เราทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาทุจริต “ป้องกันดีกว่าแก้ไข” วันนี้เห็นไหม มีตั้งหลายเรื่องหลายหน่วยงาน ที่มีปัญหาในเรื่องนี้นะครับ เราต้องป้องกัน ป้องกันโดยใครครับ ป้องกันโดย

1. ต้องใช้กฎหมาย ใช้กฎระเบียบดำเนินการให้ถูกต้อง

2. ผู้บังคับบัญชาต้องกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชานะครับ หน่วยงานในพื้นที่ ต้องเข้าไปลงรายละเอียดนะครับ ไม่ว่าจะการก่อสร้าง การตรวจรับอะไรต่างๆ มีปัญหาทุกวัน

แสดงว่าสิ่งเหล่านี้เข้าไปใน สังคม ในการทำงานมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกินไปแล้วนะครับ เพราะฉะนั้น รัฐบาลนี้จะไม่ปล่อยไว้นะครับ จะไม่นิ่งนอนใจ เราจะต้องช่วยกัน สร้างความไม่โปร่งใสให้ได้ ต้องช่วยกัน ไม่มีฝ่ายใดจะแก้ไขได้แต่เพียงฝ่ายเดียว นายกรัฐมนตรี รัฐบาล หรือส่วนราชการ ไม่ได้หรอกครับ เพราฉะนั้นเราต้องร่วมมือกันในลักษณะประชารัฐด้วยกัน การแก้ไขปัญหาการทุจริตนะครับ

ปัจจุบันรัฐบาลมีช่องทางรับเรื่องราวร้องเรียน เพื่อรับฟังข้อมูลจากทุกคน ทุกฝ่าย ทั้งสายด่วน 1111 ของรัฐบาล สายด่วน 1567 ของกระทรวงมหาดไทย หรือสายด่วน 1299 ของ คสช. แล้วก็มีศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ก็ขอให้ใช้ช่องทางต่างๆ เหล่านั้นจะดีที่สุดนะครับ ก็ร้องไปถ้าไม่ได้รับการแก้ไข ติดต่อ ก็ขอให้ทำมาอีกครั้งหนึ่งนะครับ อาจจะส่งมาสำนักนายกรัฐมนตรีก็ได้ เรื่องใหญ่ๆ สำคัญๆ นะครับ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ขอให้ส่งทางหน่วยงานจะดีกว่านะครับ เพราะนายกรัฐมนตรีจะได้แก้ไขในโครงการใหญ่ๆ ที่เป็นปัญหา เพราะเรื่องเล็กๆ นั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เรื่องของหน่วยงานระดับผู้ปฎิบัติจะต้องแก้ไขอยู่แล้ว เร็วๆ นี้ ก็จะเปิดช่องทางใหม่ “สายด่วนไทยนิยม” นะครับในรูปแบบแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เว็บไซต์ และเฟสบุ๊ค ที่ตอบสนองความสะดวกและรวดเร็วของพี่น้องประชาชน ที่มีมือถือกันแทบทุกคน ก็ขอให้ติดตามข่าวสารกันนะครับ

ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าการทุจริตที่ตรวจสอบพบ จากข้อร้องเรียนของภาคประชาชน รัฐบาลและคสช. นั้นจะดำเนินการให้ทุกเรื่องนะครับ ก็ขอให้อย่าเป็นการกลั่นแกล้ง หรือเป็นการทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดินเลยนะครับ ก็เพียงแต่ว่าขอข้อเท็จจริงขอพยานหลักฐาน พอสมควรนะครับ ให้เกิดความกระจ่างชัด จะได้ดำเนินการต่อได้ เราจะต้องทำให้เป็นธรรม ตามขั้นตอน ตามกระบวนการและข้อกฎหมาย ซึ่งอาจจะมีหลายเรื่องในเวลานี้นะครับ ไม่ใช่ว่าจะนิ่งนอนใจ เราจำเป็นต้องใช้กระบวนการตรวจสอบที่โปร่งใสและเป็นธรรมทั้งกับผู้ร้องและผู้ถูกกล่าวหาตามกฎหมายที่มีอยู่นะครับ” ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว