บิ๊กโฟร์ส่งออกข้าวแข่งเดือด รักษาระดับเท่าปี 60-เป้า 9.5 ล้านตันยังลุ้นยาว

21 มี.ค. 2561 | 04:57 น.
บิ๊กส่งออกข้าวชี้เป้าส่งออกข้าวไทย 9.5 ล้านตันยังต้องลุ้นยาวๆ “เอเซีย-นครหลวง-ธนสรรค์ไรซ์-ไชยพร” โชว์ไตรมาสแรกยอดยังโตต่อเนื่องลุ้นไตรมาส 2 คู่ค้าชะลอ สั่งซื้อหรือลุยซื้อต่อ ห่วงบาทแข็งกระทบรับออร์เดอร์

ปี 2560 ไทยส่งออกข้าวได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.6 ล้านตัน โดยผู้ประกอบการได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าขยายตัวดีขึ้น สต๊อกข้าวเก่าเพื่อคนบริโภคของรัฐบาลไทยได้ถูกระบายออกมาเหลือไม่ถึงล้านตัน และไม่เป็นตัวกดทับราคาข้าวไทยในตลาด ล่าสุดราคาข้าวสารหอมมะลิของไทยในตลาดโลก(ราคาเอฟโอบี)ยังสูงที่ระดับ 1,100-1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในประเทศยังคงระดับสูงที่ 1.6-1.8 หมื่นบาท/ตัน ทั้งนี้มีเสียงสะท้อนถึงแนวโน้มการส่งออกของกลุ่มบริษัทผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศใน 10 อันดับแรกนับจากนี้

TP8-3349-A นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธานบริษัท เอเซีย โกลเด้นไรซ์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศของบริษัทช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังถือว่าทรงๆ ภาพรวมความต้องการของลูกค้ายังมีเข้ามาต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีจากราคาข้าวหอมมะลิของไทยในตลาดโลกที่ราคาค่อนข้างสูงเฉลี่ยกว่า 1,100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันในเวลานี้

ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปรังของไทยจะเริ่มออกมามากในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนนี้ ส่งผลให้คู่ค้าชะลอคำสั่งซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์ราคาข้าวไทยว่าจะลดลงจากเดิมได้อีกหรือไม่ โดยเวลานี้ในส่วนข้าวขาว 5% ของไทยถือว่าตํ่ากว่าคู่แข่งจากเวียดนามเฉลี่ยที่ 400-410 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ส่วนข้าวชนิดเดียวกันจากเวียดนามเฉลี่ยที่ 415-420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน

“ข้าวใหม่ของไทยและเวียดนามกำลังจะออกมาในช่วงเดียวกัน แต่เวียดนามได้หันไปเน้นผลิตข้าวคุณภาพสูง เช่นข้าวหอม และข้าวนุ่มเกรดสูงที่ได้ราคาดีมากขึ้น ลดการผลิตข้าวคุณภาพตํ่าเพื่อแข่งราคากับไทย ในส่วนของบริษัทปีที่แล้วส่งออกข้าวได้ 1.7 ล้านตัน (ดูกราฟิกประกอบ) คิดเป็นสัดส่วน 15% ของภาพรวมข้าวไทยปี 2560 ที่ส่งออกได้ 11.6 ล้านตัน ซึ่งในปีนี้เราก็จะพยายามรักษาสัดส่วนการส่งออกไว้ให้ได้ที่ 15-16% ของภาพรวมประเทศ”

นายวัลลภ พิชญ์พงศา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 กล่าวว่า การส่งออกข้าวของกลุ่ม ยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ลูกค้ามีความต้องการในกลุ่มข้าวนึ่งและข้าวขาวที่ราคาไม่สูงนัก ส่วนข้าวหอมมะลิซึ่งมีราคาแพงขายได้ยากขึ้น โดยราคายังสูงกว่า 1,100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ ส่วนหนึ่งอาจหันไปสั่งซื้อข้าวหอมจากเวียดนาม และข้าวจากอินเดีย ขณะที่ผลผลิตข้าวหอมมะลิภายในของไทยเริ่มน้อยลง จากมีผลผลิตล็อตใหญ่ออกมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาและได้ถูกทยอยขายออกไปเรื่อยๆ ผลผลิตยังอยู่ในมือชาวนา สหกรณ์ ผู้จัดหาข้าว และโรงสีไม่มาก

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ “มองว่าคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศในไตรมาสที่ 2 น่าจะยังมีเข้ามาต่อเนื่อง แต่มีปัจจัยลบคือเงินบาทแข็งค่ามาก อาจทำให้ราคาข้าวไทยสูงขึ้นอีกและคู่ค้ารับไม่ไหว ในปีที่แล้วทางกลุ่มส่งออกข้าวได้ 1.7 ล้านตัน ปีนี้เบื้องต้นคาดเราจะส่งออกได้ไม่ตํ่ากว่า 1.4-1.5 ล้านตัน แต่ก็จะพยายามคงสัดส่วน 15% ของภาพรวมการส่งออกข้าวภาพรวมของประเทศที่ปีนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ที่ 9.5 ล้านตันไว้ให้ได้”

ด้านนายศุภชัย วรอภิญ-ญาภรณ์ประธานกรรมการ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด กล่าวว่า คำสั่งซื้อข้าวมายังบริษัทช่วง 3 เดือนแรกปีนี้มีเข้ามาต่อเนื่อง ส่งออกได้แล้วราว 3 แสนตัน คาดตั้งแต่เดือนเมษายนนี้คำสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะตลาดแอฟริกาที่ยังมีความต้องการข้าวสูง ทั้งนี้บริษัทจะพยายามรักษาการส่งออกให้ได้ที่ระดับ 1 ล้านตันบวกลบ จากปี 2560 ส่งออกได้สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.0 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาทส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์ส่งข้าวจีทูจีให้จีน

ขณะที่นายเสริมศักดิ์ ควรทรงธรรม กรรมการกลุ่มบริษัทไชยพร กล่าวว่า 3 เดือนแรกปีนี้ทางกลุ่มส่งออกข้าวแล้วประมาณ 3 หมื่นตันใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีตลาดหลักที่แอฟริกา สำหรับไตรมาส 2 ที่ฟิลิปปินส์จะมีการเปิดประมูลซื้อข้าวซึ่งน่าจะเป็นช่วงเดือนเมษายนนี้ประมาณ 2.5 แสนตัน บริษัทจะเข้าร่วมประมูลด้วย นอกจากนี้ยังมีตลาดเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นที่ยังเปิดประมูลซื้อข้าวล็อตเล็กๆ เป็นระยะก็จะเข้าร่วมประมูลเช่นกันส่วนตลาดอินโดนีเซียที่ช่วงเมษายน-มิถุนายน จะมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวในประเทศคงงดนำเข้าคงต้องติดตามว่าเพียงพอหรือไม่ หากยังไม่เพียงพอจะเปิดประมูลเมื่อใด ปีนี้ทางกลุ่มตั้งเป้าจะรักษาระดับการส่งออกให้ได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 2.5 แสนตัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,349 วันที่ 18 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว