ส่งออก ม.ค. 61 ยังเติบโตสูง คาดไตรมาส 1/2561 โตไม่ต่ำกว่า 10%

21 ก.พ. 2561 | 11:49 น.
ส่งออก ม.ค. 61 ยังเติบโตสูง คาดไตรมาส 1/2561 โตไม่ต่ำกว่า 10%

การส่งออกสินค้าไทยในเดือนม.ค. 2561 ขยายตัวสูงเกินคาดที่ร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ทั้งในแง่มูลค่าและอัตราการขยายตัว และเป็นการเร่งตัวขึ้นจากเดือนธ.ค. 2560 ซึ่งมาจากหลายปัจจัยบวกปะปน ไม่ว่าจะเป็นโมเมนตัมการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า การขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตรหลายรายการสำคัญ รวมไปถึงวัฎจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังคงอยู่ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปัจจัยบวกเหล่านี้จะช่วยหนุนการส่งออกสินค้าไทยตลอดช่วงไตรมาสที่ 1/2561 ให้ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ส่งออกเดือนม.ค. 2561 โตสูงเกินคาด....จากแรงหนุนของหลายปัจจัยบวกปะปน

คงต้องยอมรับว่า ตัวเลขมูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนม.ค. 2561 ออกมาสูงกว่าที่คาด ซึ่งผิดแผกไปจากแบบแผนการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาที่โดยส่วนใหญ่มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนม.ค. จะลดลงจากเดือนธ.ค. ของปีก่อน แต่ในปี 2560/2561 การส่งออกสินค้าไทยในเดือนม.ค. 2561 มีมูลค่าอยู่ที่ 20,101.4 ล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนธ.ค. 2560 ที่อยู่ที่ 19,741.1 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ดังนี้

• การส่งออกสินค้าเกษตรหลายรายการสำคัญอย่างข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และน้ำตาลทราย ที่กลับมาขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในเดือนม.ค. 2561 โดยในส่วนของการส่งออกข้าวที่เติบโตดีมาจากการส่งออกข้าวไปยังภูมิภาคแอฟริกา อาทิ เบนิน แอฟริกาใต้ และแคเมอรูน รวมถึงฟิลิปปินส์มีการนำเข้าข้าวไทยเพิ่มขึ้นหลังประสบปัญหาอุปทานในประเทศไม่เพียงพอ ผนวกกับราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเดือนม.ค. 2561 ที่ผ่านมา สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ขยายตัวร้อยละ 42.3 YoY นั้นมาจากจีน (คู่ค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับ 1 ของไทย) นำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพิ่มขึ้นเพื่อรองรองรับการผลิตเอทานอลและแอลกอฮอล์ตามนโยบายการใช้พลังงานทดแทนในประเทศหลังสต๊อกข้าวโพดจีน ทยอยลดลงประกอบกับราคามันสำปะหลังปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่การส่งออกน้ำตาลพลิกกลับมาขยายตัวดีจากอานิสงส์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นอย่างผันผวนของอินโดนีเซีย รวมไปถึงกัมพูชานำเข้าน้ำตาลเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำตาลทรายโลกอยู่ในทิศทางขาลง

• สินค้าส่งออกศักยภาพในปี 2560 ยังเติบโตดี โดยการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่ขยายตัวดีต่อเนื่องจากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 จากอานิสงส์การขยายตัวที่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะการส่งออกไปยังประเทศที่มีฐานการผลิตหรือมีการนำเข้าวัตถุดิบจากไทย อาทิ ตลาดโอเชียเนีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น

• วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังส่งผลทำให้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวสูงบนเลขสองหลักติดต่อกันนาน 10 เดือน

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ มูลค่าการส่งออกสินค้าในช่วงไตรมาสที่ 1/2561 คาดว่าจะยังสามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุน ดังต่อไปนี้

1. เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักยังมีโมเมนตัมการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อน สอดคล้องกับมุมมองของ IMF ที่ปรับขึ้นอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศแกนหลักในปี 2561 อย่างสหรัฐฯ ยูโรโซน และญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนความต้องการสินค้าไทยให้เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของสินค้าขั้นกลางและสินค้าสำเร็จรูป

2. ระดับราคาน้ำมันดิบที่อยู่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนยังเป็นปัจจัยช่วยหนุนการส่งออกสินค้าที่ราคาเกี่ยวเนื่องกับปิโตรเลียมอย่างน้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง ให้ขยายตัวเป็นบวกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

3. การส่งมอบข้าวจากการซื้อขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) กับจีนในช่วงเดือนก.พ. – มี.ค. 2561 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยช่วยหนุนการส่งออกสินค้าในช่วงไตรมาสแรกให้ขยายตัวได้ดี

4. แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรบางรายการที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น ทั้งในส่วนของราคาข้าวและมันสำปะหลัง ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ได้บางส่วน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปี 2561 ยังมีประเด็นที่ยังต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทที่ต่อเนื่อง ประเด็นการต่ออายุ GSP การกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-tariff barriers) เช่น การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในอาหารที่นำเข้าของหลายประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคายางพาราที่คาดว่าในปีนี้จะปรับตัวลดลงจากปี 2560 ซึ่งอาจจะส่งผลต่อมูลค่าการส่งออกยางพารา ทั้งนี้ จากปัจจัยท้าทายที่กล่าวมา ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยขอรอติดตามสถานการณ์การส่งออกของไทยไปอีกสักระยะ และยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 2561 ไว้ที่ร้อยละ 4.5 YoY

ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว