นำเข้ายอชต์หรูล็อตใหญ่ 17ลำ2.4พันล้านส่งมอบในไทย-เอเชีย

18 ก.พ. 2561 | 12:09 น.
โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง นำเข้ายอชต์หรูล็อตใหญ่สุดในเซาธ์อีสต์เอเชีย มูลค่ากว่า 2.4 พันล้านบาท พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทั้งในไทยและภูมิภาคนี้ ชูไฮไลต์ Princess 62 โมเดลใหม่ชิงตลาด มั่นใจปีนี้เทรนด์ตลาดเรือยอชต์มาแรง

โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จัดว่าเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอชต์ระดับลักชัวรีที่ใหญ่ ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 24 ปี ทั้งยังมีสาขามากที่สุดถึง 9 แห่งครอบคลุม 5 ประเทศ คือ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มัลดีฟส์ และ 5 สาขาในไทย คือ กรุงเทพฯ พัทยา กระบี่ สมุย และภูเก็ต ซึ่งล่าสุดโบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง ได้ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการเรือยอชต์ โดยการนำเรือยอชต์จากประเทศอังกฤษบรรทุกมากับเรือเดินสมุทรเพื่อนำมาส่งมอบให้กับลูกค้าใน ภูมิภาค ซึ่งนับเป็นการขนส่งเรือยอชต์ครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้

[caption id="attachment_260148" align="aligncenter" width="503"] วริศ ยงสกุล กรรม การผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทลากูน ยอช์ตติ้ง จำกัด วริศ ยงสกุล กรรม การผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทลากูน ยอช์ตติ้ง จำกัด[/caption]

นายวริศ ยงสกุล กรรม การผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทลากูน ยอช์ตติ้ง จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าในขณะนี้บริษัทได้นำเรือยอชต์โมเดลใหม่ของโลกเข้ามาเปิดตัวครั้งแรกในไทยและในเอเชียจำนวน 17 ลำมูลค่า 2.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็น การนำเข้าเรือยอชต์ล็อตใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ซึ่งมีขนาดหลากหลายตั้งแต่ความยาว 62 ฟุต จนถึงซูเปอร์ยอชต์ความยาว 100 ฟุต หรือ 30 เมตร เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า โดยยอชต์ทั้ง 9 ลำ มูลค่ากว่า 1.4 พันล้านบาท ได้ถูกลำเลียงโดยเรือเดินสมุทรจากประเทศอังกฤษ เพื่อนำมาส่งมอบให้กับลูกค้าของโบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง ทั้งในไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งบางลำก็มีออร์เดอร์เข้ามาแล้ว และอีก 8 ลำ จะนำเข้าในเดือนมีนาคมนี้ มูลค่าราว 1 พันล้านบาท

ทั้งนี้ 1 ใน 9 ลำที่บริษัทนำเข้ามาแล้วเพื่อจำหน่ายนั้นเป็นเรือยอชต์รุ่นใหม่ล่าสุด คือ Princess 62 ที่มีความพิเศษทั้งในด้านเทคโนโลยีการต่อเรือทำให้ตัวเรือมีความเบา แข็งแรง ประหยัด นํ้ามันมากขึ้น และการออกแบบภายในเรือที่เน้นดีไซน์ที่โปร่งตา สว่างไสว มีชีวิตชีวา แต่ยังคงความ หรูหราตามแบบฉบับ Princess Yachts เอาไว้เหมือนเดิม

นอกจากนี้ยังมีเรือ Princess 64, Princess S65 จำนวน 2 ลำ, Princess 68, Princess 75 Motor Yacht ความยาว 80 ฟุต จำนวน 2 ลำ, Princess 88 Motor Yacht ความยาว 88 ฟุต และเรือซูเปอร์ยอชต์ Princess 30M ความยาว 100 ฟุต โดยราคาของเรือประมาณ 80-450 ล้านบาท

Ad_Online-03 การส่งมอบเรือครั้งใหญ่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยม และไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมชั้นสูงที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเกิดจาก 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. เรือยอชต์สามารถเข้าถึงหาดสวย ทะเลใส ไร้สิ่งรบกวน ไกลจากแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน 2. ชีวิตอิสระไร้ขีดจำกัด โดยเรือจะพาเราไปที่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ ไม่จำเจ ซํ้าซาก 3.มีความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง เพราะยอชต์ก็คือบ้านอีกหลังที่ไปกับเราได้ทุกที่ มีห้องนอนห้องนํ้า ห้องครัว ห้องนั่งเล่น มีระเบียง ซึ่งลูกค้าสามารถออกแบบและตกแต่งเองตามความชอบและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว และ 4. ท่องเที่ยวเชิงกีฬา

“หากเราพิจารณาผลิต ภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยต่อหัว (GDP per capita) จะพบว่า ปัจจุบันจะอยู่ที่ราว 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราวเกือบ 2 แสนบาทต่อคน) และจากสถิติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เมื่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศเฉลี่ยต่อหัวเพิ่มเป็นประมาณ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้จำนวนคนที่ซื้อเรือยอชต์ที่จะเริ่มบูม

เราจึงได้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาลกับศูนย์ซ่อมบำรุงเรือบนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาทสำหรับให้บริการหลังการขาย และดูแลลูกค้าของเรา ภายในโครงการ “โบ๊ท ลากูน ภูเก็ต” ซึ่งเป็นมารีน่าที่จอดเรือยอชต์ทั้งบนบกและในนํ้าได้ 350 ลำ ทั้งล่าสุดเรายังได้รับอนุญาตจากกรมศุลกากรให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับอู่ซ่อมหรือสร้างเรือ ทำให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และจูงใจให้เกิดการเดินทางมาซ่อมบำรุงเรือที่ไทยมากขึ้น นายวริศ กล่าวทิ้งท้าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว