เกาะติดอีอีซี ลงนามความร่วมมือ

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(เอ็มโอยู) กับ 6 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ในโครงการนิคมฯสมาร์ท พาร์ก บนพื้นที่ 1,500 ไร่ ตั้งอยู่นิคมฯมาบตาพุด จังหวัดระยองประกอบด้วย สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(สกรศ.) เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่

[caption id="attachment_258518" align="aligncenter" width="503"] วีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)[/caption]

บริษัทพีทีทีโพลีเมอร์ โลจิสติกส์ จำกัด จะลงทุนด้านโลจิสติกส์ เพื่อจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มแบบลอยนํ้าและโซลาร์รูฟท็อป ภายใต้นวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะผ่านระบบ Single Platform ด้วยเทคโนโลยี Block Chain ที่ทันสมัย

บริษัท โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้มีการลงทุนการบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภค บริษัท บางกอก อินดัสเทรียล แก๊ส จำกัด ลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ป้อนการใช้ก๊าซเพื่ออุตสาหกรรมและบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมพัฒนาโครงการระบบขนส่งภายในพื้นที่โครงการ สถานีบริการ สถานีซ่อมบำรุง การให้บริการการเข้าออกระบบขนส่ง ส่วนบริการต่อเนื่องในระบบขนส่งภายใน

-จี้สร้างแรงงานทักษะสูง
นายวรรณชัย ไพบูลย์บารมี ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่า การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี จะมีความต้องการแรงงานมากกว่า 1 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานฝีมือ และมีทักษะด้านเทคนิคในการทำงานกว่า 90% โดยไม่ได้จำกัดวุฒิการศึกษาว่าจะเป็นระดับ ปวส. ปริญญาตรี หรือมากกว่า แต่สิ่งที่ต้องการมากคือ ประสบการณ์ ซึ่งจะส่งผลกับค่าแรงที่สามารถเพิ่มได้สูงกว่าปกติ

ดังนั้น โจทย์ของรัฐบาลจะต้องเตรียมความพร้อม พัฒนากลุ่มคนเหล่านี้ให้พร้อมที่จะรองรับความต้องการของตลาด ถ้ารัฐไม่ลงทุน จะมีปัญหาแน่นอน ซึ่งความต้องการแรงงานของอีอีซี จะกระจายไปในแต่ละปี อาจอยู่ที่ปีละ 2 หมื่นคน ส่งผลให้ภาครัฐมีเวลาในการสร้างและพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561