ข้าพระบาท ทาสประชาชน : แนวร่วมมุมกลับ‘รัฐบาลลุงตู่’

09 ก.พ. 2561 | 18:48 น.
44548854 Thailand-Prayuth-Chan-ocha-ASEAN-November-12-2017-960x576 สถานการณ์ของรัฐบาลลุงตู่ และ คสช. วันนี้ ข้อเท็จจริงคงเป็นที่ยอมรับว่าอยู่ในช่วงขาลง ความนิยมศรัทธาถดถอย กองหนุนร่อยหรอ ต่างจากช่วงปีแรกที่ คสช.และรัฐบาลลุงตู่เข้ามาควบคุมสถานการณ์บริหารประเทศ โดยเฉพาะเมื่อก้าวสู่ปีที่ 4 แรงกดดันที่ถาโถมใส่รัฐบาล และ คสช.ก็ร้อนแรงยิ่งขึ้น จากความไม่พอใจรัฐบาลที่สั่งสมหลายประเด็น มาผสมกับความไม่พอใจในปัจจุบัน

โดยเฉพาะประเด็น “นาฬิกายืมเพื่อน” ที่ยังหาคำชี้แจงอันเป็นที่ยอมรับไม่ได้ เมื่อลุงป้อมพลั้งปากในงานเลี้ยงพบปะสื่อมวลชนสายทหารว่า “ถ้าประชาชนไม่ต้องการให้ผมอยู่ผมก็พร้อมจะไป” เท่านั้นแหละ ประชาชนก็โหวตกระหนํ่าผ่านโซเชียล ชนิดท่วมท้นอยากให้ลุงป้อมลาออกถึง 95% ที่ต้อง การให้อยู่มีเพียง 5% สัญญาณและเสียงสะท้อนจากสังคมถึงความไม่พอใจรัฐบาลและคสช. ก่อตัวรุนแรงขึ้นจริง แต่จะถึงขนาดให้รัฐบาลลุงตู่ และ คสช.ทั้งคณะพ้นไปจากอำนาจหรือไม่ ยังเป็นที่สงสัย และยังมีคำถามว่าสถานการณ์สุกงอมถึงขนาดที่ประชาชนจะพร้อมใจลุกฮือขึ้นมาขับไล่รัฐบาลทหารเหมือน กรณีเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หรือกรณี 14 ตุลาคม 2516 หรือไม่
1518201173271 อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลขาลง ศรัทธาผู้นำเริ่มถดถอย ปฏิกิริยาความไม่พอใจและแรงต่อต้านจากประชาชนย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา อันเป็นไปโดยธรรมชาติของการเมือง คนส่วนใหญ่ที่ไม่พอใจและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เป็นไปโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม และด้วยความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง เมื่อเห็นว่าสิ่งใดที่รัฐบาลและรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล ประพฤติผิด กระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือมีพฤติกรรมส่อว่าไม่สุจริต ย่อมเป็นเรื่องที่ประชาชนควรสามารถวิพากษ์วิจารณ์ ติชม หรือตรวจสอบการกระทำนั้นได้

เช่นเดียวกับรัฐบาลนี้ตรวจสอบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีแนวคิดเช่นนี้ และยังเห็นว่านายกฯ ลุงตู่ควรอยู่บริหารบ้านเมืองต่อไป ประชาชนกลุ่มนี้รัฐบาลต้องจำแนกออก ควรถือว่าเป็นกัลยาณมิตร มิใช่นำไปปะปนร่วมกับการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย และมวลชนแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กำลังประกาศนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาล คสช.ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 หากวิเคราะห์แยกแยะได้เช่นนี้ก็จะทำให้การกำหนดท่าทีของรัฐบาลต่อประชาชน มีความแตกต่างกัน รัฐบาลควรต้องสามัคคีใครเพื่อเป็นกองหนุนที่ดีและไว้วางใจได้ต่อไป
แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 การที่ “กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย” ประกาศนัดรวมพลคนอยากเลือกตั้งไปพบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 พร้อมกับพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนขับไล่รัฐบาล คสช. ตามมาด้วยขบวนการคนเสื้อแดงพลัดถิ่นที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ เช่น ขบวนการประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกาและแนวร่วม นำ โดยองค์การเสรีไทย ที่มีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่นำโดย เสน่ห์ ถิ่นแสน (เพียงดิน รักไทย) และ RED USA ศูนย์รวมคนเสื้อแดงในอเมริกา ออกมาผสมโรงแถลการณ์เรียกร้องให้ผู้รักประชาธิปไตย (แบบทักษิณ-ยิ่งลักษณ์) จากทุกมุมโลกออกมาแสดงพลังไล่ คสช.และคณะออกไป
ต้าน-คสช._180127_0004 นอกจากนี้แล้ว ยังมีบรรดาขบวนการคนเสื้อแดงทั้งหมดทั้งในยุโรป อเมริกา กัมพูชา ลาว ดาหน้าออกมาอย่างพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสุนัย จุลพงศธร, ชูพงศ์ ถี่ถ้วน, เพียงดิน รักไทย, สุรชัย แซ่ด่าน, ลุงสนามหลวง อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะใช้ชื่อและนามว่าอย่างไรทั้งหมดก็คือขบวนการเดียวกัน มีนายใหญ่คนเดียวกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมพลังมวลชนให้ได้มากที่สุด เพื่อไล่ คสช.โดยถือเอาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เป็นจุดเริ่มต้น

เมื่อเปิดหน้าออกมาอย่างนี้ ต้องถือว่าเป็นโชคดีรัฐบาลลุงตู่ครับ การเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มนี้ คงยากที่จะได้รับการตอบรับหรือสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ และประชาชนที่วางตัวกลางๆ เพราะทุกคนทราบดีว่าคนเหล่านั้นมีเป้าหมายทางการเมืองอย่างไร เป็นกลุ่มการเมืองที่ทำงานรับใช้ใคร เชื่อมโยงกับทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ รัฐบาลที่ประชาชนขับไล่ออกไปเพราะทำให้บ้านเมืองเสียหายอย่างไร และการเคลื่อนไหวในอดีตที่ผ่านมาของคนกลุ่มเหล่านี้ สร้างความเสียหายต่อบ้านเมืองอย่างไร การออกมาเคลื่อนไหว ขับไล่ คสช.ของมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงเหล่านี้ นอกจากจะล้มเหลว ไม่อาจเป็นที่ยอมรับหรือได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่แล้ว ยังกลายเป็น “แนวร่วมมุมกลับแก่รัฐบาลลุงตู่” อย่างมีพลัง
ต้าน-คสช._180127_0022 รัฐบาล คสช.จึงไม่ควรใช้อำนาจทางกฎหมายเกินความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อจัดการกับคนเหล่านี้ เพราะหากรัฐบาลใช้วิธีการจัดการที่ผิดพลาด ไม่เหมาะสม กระแสอาจตีกลับได้ ควรให้พวกนี้เผยโฉมหน้าออกมาให้สังคมเห็น ให้พวกเขาแสดงตนออกมาให้เต็มที่ก่อน ผลดีเกิดกับรัฐบาลเองครับ พวกเขายังไม่รู้ตัวเอง ประเมินความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ผิดพลาด แม้ประชาชนจะไม่พอใจรัฐบาลลุงตู่ ไม่ชอบลุงป้อม แต่คนส่วนใหญ่เกลียดเสื้อแดง ไม่เอาทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ และไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองกลับสู่สภาพเดิมๆ ในอดีตที่ผ่านมา ทุกคนเจ็บปวดและขมขื่น ไม่ต้องการย้อนกลับไปสู่ความสงบของบ้านเมือง
ต้าน-คสช._180127_0025 กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการรับมือกับกลุ่มนี้ “ต้องใช้การเมืองนำหน้า ใช้อำนาจและกฎหมายตามหลัง” ครับ เปิดเผยข้อเท็จจริงของกลุ่มขบวนการเหล่านี้ต่อสังคม ผ่านสื่อและบุคคลที่สังคมยอมรับ อย่าใช้ขบวนการมาเชลียร์รัฐบาล แบบทำโพลล์ห่วยๆ ครับ จะเสียคะแนนเปล่าๆ แถมเป็นการเรียกแขกให้มาถล่มรัฐบาล ไม่ควรท้าทายประชาชน “แบบไม่เอาผมเขามาแน่” เพราะแท้จริงแล้ว รัฐบาลที่บริหารล้มเหลวหรือทุจริต ไม่ว่ามาจากทหารหรือพลเรือน ประชาชนก็ไม่ต้องการทั้งนั้น จงรักษามิตรและคำนึงถึงประชาชนส่วนใหญ่ แม้เขาไม่ชอบเสื้อแดง ไม่ต้องการระบอบทักษิณ แต่ก็มิได้หมายความว่า เขาจะยินยอมให้ใช้อำนาจรัฐตามอำเภอใจ โดยไม่ฟังเสียงแท้จริงของประชาชน

....................
คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน/ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3338 ระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ.2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว