ความงาม 4 หมื่นล.ระอุ เดอร์มาลิงค์หวังโต20%

10 ก.พ. 2561 | 00:52 น.
เดอร์มาลิงค์ ออกสินค้าใหม่พร้อมบุกต่างประเทศเพิ่ม รับเทรนด์สาวยุคใหม่รักความงาม ตลาดคลินิกมูลค่ากว่า 3-4 หมื่นล้าน หวังโต 20% สิ้นปีโกย 600 ล้าน

นายธีร์ธวัช แร่จั่น ประธานบริหาร บริษัท เดอร์มาลิงค์ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการแข่งขันของธุรกิจคลินิกความงามว่า มีภาวะการแข่งขันสูง จากการเข้ามาทำตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น แต่ภาพรวมธุรกิจยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากเทรนด์ของพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ให้ความสนใจในด้านความสวยความงาม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของการจัดประกวดความงามในเวทีต่างๆ ที่ทำให้ผู้หญิงไทยต้องการเข้าร่วม จึงหันมาดูแลตนเองมากขึ้นทั้งด้านการดูแลผิวพรรณ และการทำศัลยกรรมความงาม ส่งผลให้มูลค่าตลาดคลินิกความงามมีกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท

[caption id="attachment_153481" align="aligncenter" width="335"] นายธีร์ธวัช แร่จั่น นายธีร์ธวัช แร่จั่น[/caption]

ขณะเดียวกัน ยังพบว่า ปัจจุบันมีคลินิกความงามทั้งระบบกว่า 8,000 แห่ง ที่เกิดขึ้นมารองรับกับความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เวชสำอางและยาที่ใช้ในคลินิก มีอัตราการเติบโตตามมาด้วยไม่ตํ่ากว่าปีละ 15-20% โดยในปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และคาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากยอดการเปิดตัวคลินิกใหม่ ซึ่งปัจจุบันมียอดการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เวชสำอางและยา เพื่อใช้ในคลินิกความงามมูลค่าสาขาละกว่า 2-3 แสนบาทต่อเดือน

“บริษัทถือว่าได้รับประโยชน์จากกระแสความงามดังกล่าว จากการมีจำนวนผู้เปิดคลินิกความงามมากขึ้น ทำให้บริษัทขายสินค้าได้มากขึ้นตามไปด้วย แต่ขณะเดียวกันการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการก็มีเพิ่มมากด้วย บางรายมีการจัดโปรโมชันด้วยการลดราคาทำให้เหลือกำไรเพียงเล็กน้อย ทำให้มีหลายรายที่ออกจากตลาดไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการจากประเทศเกาหลี ที่เข้ามาตีตลาดในประเทศไทยด้วย ทั้งในรูปแบบรายการโทรทัศน์ หรือจัดทริปบินไปศัลยกรรมที่ต่างประเทศด้วย”

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ นายธีร์ธวัช กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 600 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20% จากปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายรวมกว่า 480 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากตลาดในประเทศ 90% ที่เหลือเป็นยอดขายจากตลาดต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศกัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม สำหรับปีนี้จะเน้นทำตลาดประเทศฟิลิปปินส์ และจะเข้าไปเปิดบริษัทที่ประเทศกัมพูชาด้วย เนื่องจากเห็นโอกาสทางการตลาดใน 2 ประเทศดังกล่าว เบื้องต้นจะขายสินค้าให้กับพันธมิตรก่อนเข้าไปบุกตลาดอย่างจริงจัง

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ 1. เมโสเอสเทติกแอนไทเอจจิ้งแฟลช เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปยังลูกค้าทั่วไป จากเดิมที่มีสินค้าทำตลาดกับผู้ประกอบการคลินิกความงาม กลุ่มแพทย์ และโรงพยาบาล ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงวางแผนการตลาด และ 2. ครีมสมานแผล รีจูวีเน็กซ์ ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศเกาหลี ที่วางแผนจำหน่ายผ่านช่องทางโรงพยาบาลเป็นหลัก ซึ่ง คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 60 ล้านบาทในปีแรก โดยปีนี้ได้เตรียมงบประมาณการตลาดกว่า 90 ล้านบาท เพื่อใช้สื่อสารและทำตลาดต่างๆ อาทิ สื่อออนไลน์ การจัดสัมมนา อีเวนต์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว