Z Entertainment ปลุกกระแสอินเดียสู่คอนเทนต์ในใจคนไทย

ขณะที่กระแสคอนเทนต์อินเดีย กำลังกลับมาเป็นที่สนใจของคนไทยอีกครั้ง จึงถือเป็นโอกาสเหมาะที่ค่ายบันเทิงจากอินเดีย จะกลับมารุกตลาดเมืองไทย พร้อมสร้างคลื่นระลอกใหม่ กับการนำคอนเทนต์เข้ามาปลุกตลาดเมืองไทย ซึ่งนั่นคือ ภารกิจที่ “วิกรัม ลาด” ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ได้รับมอบหมายทันทีที่เข้ารับหน้าที่บริหารตลาดในเมืองไทย

“วิกรัม” เล่าว่า ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ เป็น 1 ใน 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ละคร และบันเทิงของอินเดีย บริหารช่องทีวีมากกว่า 74 ช่อง ใน 173 ประเทศ มีผู้ชมมากกว่า 1.3 พันล้านคนทั่วโลก และไทย เขาทำหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องซีหนัง (Zee Nung) ซึ่งเป็นช่องที่มีละครและคอนเทนต์อินเดีย ออกอากาศ 24 ชั่วโมง ผ่านระบบฟรีทูแอร์ บนจานดาวเทียมซี-แบนด์ PSI ของบริษัท พีเอสไอ คอร์ปอเรชั่น จํากัด โดยก่อนหน้านี้ ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มีช่องรายการอยู่ทีวีระบบบอกรับสมาชิก และได้ย้ายมาเป็นช่องซีหนัง อยู่กับจานดาวเทียม PSI เมื่อเดือนมีนาคม 2560

[caption id="attachment_257067" align="aligncenter" width="335"] วิกรัม ลาด[/caption]

จากประสบการณ์ในการขายสื่อ พัฒนาธุรกิจ และโซลูชันทางธุรกิจแบบครบวงจรมากกว่า 15 ปี ในองค์กรด้านสื่อต่าง ๆ ที่ประเทศอินเดีย อาทิ ฟ็อกซ์อินเดีย สตาร์สปอร์ต นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์ด้านโทรคมนาคม ในด้านการขายให้แก่องค์กร และสถาบันต่างๆ ในประเทศอินเดีย ทำให้เขาถูกรับเลือกให้มาทำหน้าที่บริหารช่องซีหนังในไทย โดยภารกิจที่เขาได้รับมอบหมาย คือ การทำให้ช่องซีหนังเข้าถึงกลุ่มผู้ชมคนไทยให้ได้มากที่สุด ทั้งในระดับหัวเมืองและจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

“จากที่เราเป็นกล่องแบบบอกรับสมาชิก แต่ตอนนี้เราเป็นฟรีทูแอร์ เราจะต้องทำให้คนเข้าถึงให้ได้มากขึ้น จากเดิมที่คอนเทนต์อินเดียเกิดช่องว่าง คนหายไปจากตลาดเมืองไทยพักหนึ่ง เพราะคนดูรู้สึกว่ามันโบราณ มีแต่ร้องเพลง วิ่งข้ามเขา แต่ตอนนี้คอนเทนต์อินเดีย เป็นคอนเทนต์ที่ทันสมัย เราต้องทำให้คนรู้จักเราเยอะขึ้น”

“วิกรัม” บอกว่าตอนนี้กระแสหนังอินเดียในเมืองไทยดีขึ้นมาก จากการที่ช่องทีวีดิจิตอลหลายช่อง นำคอนเทนต์ที่เป็นซีรีส์อินเดียเข้ามาฉาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นซีรีส์แนวตำนาน หรือแนวอภินิหาร ขณะที่ ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่ มีคอนเทนต์ในมือมากมาย ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ เพลง และอื่นๆ ดังนั้น เขาจะเลือกคอนเทนต์ที่ดีที่สุดเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย โดยนำเสนอหลากหลายแนว ทั้งคอนเทนต์ที่เป็นซีรีส์ในแนวโมเดิร์น ดราม่า และแนวตำนาน

“ตอนนี้กระแสอินเดียดีมาก แต่ช่องอื่นๆ จะนำเสนอซีรีส์อินเดียแค่ 1 -2 ชั่วโมง แต่ช่องเรามี 24 ชั่วโมง และเราหลากหลายรูปแบบ ทั้งตำนาน โมเดิร์นดราม่า คอมมิดี้ และอื่นๆ และเราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง เราก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคอนเทนต์ดีๆ มาออกอากาศที่ช่องของเราได้ก่อน เพราะฉะนั้น คนที่สนใจคอนเทนต์อินเดียต้องดูช่องเรา”

ผู้บริหารซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บอกว่า บริษัทแม่ มีแผนที่ผลักดันให้คอนเทนต์ของบริษัทได้รับความสนใจจากคนดูทั่วโลกเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีคนดูทั่วโลกประมาณ 1.3 พันล้านคน จะทำให้เพิ่มเป็น 5 พันล้านคน ภายใน 5 ปี ซึ่งนั่นรวมถึงตัวเลขคนดูในเมืองไทยที่ต้องเพิ่มขึ้นด้วย โดยภายใน 5 ปี อย่างน้อยคนไทย 1 คนจะต้องรู้จักและเคยดูคอนเทนต์อินเดีย 1 เรื่อง ซึ่งนั่นคือหน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบ และผลักดันให้เกิดขึ้น โดยการทำกิจกรรมต่อเนื่อง ทั้ง Meet And Greet, ฟิล์มเฟสติวัล และอื่นๆ รวมทั้งนำคอนเทนต์ใหม่ๆ อย่างทศกัณฐ์ เข้ามาสร้างกระแส

ความท้าทายในการเข้ามาบริหารในเมืองไทย นอกจากการทำหน้าที่เป็นผู้ปลุกกระแสหนังอินเดีย ให้กลับมาเป็นที่รู้จักในไทยอีกครั้ง ซึ่งการบริหารให้ธุรกิจไปสู่จุดหมาย ไม่มีเรื่องไหนง่าย แต่สิ่งที่ต้องทำ คือ การทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้า นอกจากช่องซีหนัง ที่เป็นช่องทางปัจจุบัน ในการกระจายคอนเทนต์ของซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แล้ว ปีหน้า จะมีอีกหนึ่งช่องทาง คือ ช่องออนไลน์ “ซี 5” ที่เปิดให้บริการในอินเดีย เดือนกุมภาพันธ์นี้ และจะใช้เป็นอีกหนึ่งช่องทางหลัก ในการเข้าถึงกลุ่มคนดู ที่ผู้บริหารคนนี้ จะนำเข้ามาเปิดให้บริการในไทย

“วิกรัม” บอกอีกว่า เขายังมีอีกหนึ่งความท้าทายที่เป็นเรื่องใหญ่ คือ เรื่องของภาษา ที่เขาต้องพยายามศึกษาให้มากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจกับการสื่อสารกับคนไทยให้ถูกต้อง ซึ่งนั่นจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เขาเข้าถึงคนไทยได้อย่างรวดเร็ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561