บลจ.ทิสโก้โชว์ฟอร์มเจ๋ง บริหารกองทริกเกอร์ฟันด์จีนถึงเป้าหมาย 2 กองทุนรวดในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค. 2561 ชี้หุ้นจีนน่าสนใจราคายังต่ำ แถมมีปัจจัยบวกส่งออกนโยบายการเงินยืดหยุ่นหนุน
[caption id="attachment_253288" align="aligncenter" width="377"]
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ[/caption]
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้สามารถบริหาร กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M #1 (TCHT5M1) ถึงเป้าหมายในวันที่ 15 มกราคม 2561 มีมูลค่า NAV เท่ากับ 10.54 บาทต่อหน่วย ถึงเป้าหมายได้ในระยะเวลาเพียง 2 เดือน 7 วัน นับจากวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งเป็นวันจัดตั้งกองทุน และกองทุนนี้ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back - end Fee)
นอกจากนี้ยังสามารถบริหารกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% #22 (TISCOC22) ซึ่งจัดตั้งในปี 2558 ถึงเป้าหมายได้ในวันที่ 16 มกราคม 2561 อีกด้วย
ทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นจีนผ่านกองทุนอีทีเอฟ Hang Seng H-Share Index ETF (กองทุนหลัก)
นายสาห์รัช กล่าวว่า หุ้นจีนยังน่าสนใจราคายังต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แม้ว่าราคาหุ้นจีนจะขึ้นมา 9% จากต้นปี ปัจจุบัน Hang Seng China Enterprise Index (HSCEI) ซื้อขายที่ Forward P/E ปี 2561 ที่ประมาณ 8.2 เท่า ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับ Forward P/E ของ MSCI Asic Pacific x Japan ที่ 13.8 เท่า
นอกจากนี้เศรษฐกิจจีนยังขยายตัวดี ส่งออกล่าสุดเดือนธันวาคมขยายตัวสูงถึง 10.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเราคาดว่าจะขยายตัวดีต่อเนื่องในปี 2561 ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก
ขณะที่เชื่อว่าจีนจะยังใช้นโยบายการเงินแบบยืดหยุ่น แม้จะเข้มงวดขึ้นแต่ก็พร้อมจะผ่อนคลายหากเศรษฐกิจชะลอลง โดยล่าสุดได้ประกาศคุมเข้มภาคการเงินผ่านการคุมเข้มสินเชื่อนอกภาคธนาคาร (Shadow Banking) แต่ประเด็นดังกล่าวเป็นผลดีต่อสินเชื่อโดยรวมให้กลับเข้ามาในระบบปกติได้