WHART ผนึก WHAPF ฉลุย คลุมโซนโลจิสติกส์สำคัญของประเทศ

17 ม.ค. 2561 | 07:36 น.
ทรัสต์ WHART ผนึกกองทุน WHAPF พร้อมเข้าซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมจาก WHA Group หนุนทรัพย์สินรวมแตะ 28,023 ล้านบาท ถือเป็น Property Fund กองแรกของประเทศไทยที่แปลงสภาพและควบรวมเป็น REIT ที่มีศักยภาพความแข็งแกร่งของทำเลครอบคลุมโซนโลจิสติกส์สำคัญของประเทศ คิดเป็นพื้นที่ 972,000 ตารางแมตร ด้านผู้จัดการกองทรัสต์ WHART มั่นใจรักษาสัดส่วน Freehold ต่อ Leasehold ของทรัพย์สินอยู่ในอัตรา 70 ต่อ 30 ลดความเสี่ยงของการลดมูลค่าของทรัพย์สินในอนาคต และสามารถรักษาระดับ occupancy rate ได้มากกว่าร้อยละ 90 อย่างต่อเนื่อง

[caption id="attachment_250902" align="aligncenter" width="335"] นายปิยะพงศ์ พินธุประภา นายปิยะพงศ์ พินธุประภา[/caption]

นายปิยะพงศ์ พินธุประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือWHAREM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) ได้ผนึกกองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (กองทุนรวม WHAPF) เข้ารวมกับ กองทรัสต์ WHART และดำเนินการซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมจาก WHA Group จำนวน 4 โครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มจากประมาณ 13,880 ล้านบาท เป็นประมาณ 28,023 ล้านบาท

728x90-03 “ภายหลังการรวมกองทุนรวม WHAPF เข้ากับกองทรัสต์ WHART และการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ ส่งผลให้กองทรัสต์มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจาก 8 โครงการเป็น 20 โครงการ คิดเป็นพื้นที่เพิ่มขึ้นจาก 499,258 ตารางเมตร เป็นกว่า 972,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในธุรกิจโลจีสติกส์ของประเทศทั้ง 3 พื้นที่คือ 1. บริเวณถนนบางนา-ตราด 2. บริเวณ Eastern Economic area (จังหวัดชลบุรีและระยอง) 3. บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร (จังหวัดอยุธยาและสระบุรี) ส่งผลให้เป็นการเพิ่มมิติในการแข่งขันให้กับกองทรัสต์ WHART เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดีขึ้น” นายปิยะพงศ์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAREM กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกองทรัสต์สามารถรักษาสัดส่วน Freehold ต่อ Leasehold ของทรัพย์สินอยู่ในอัตรา 70 ต่อ 30 ทำให้เป็นการลดความเสี่ยงของการลดมูลค่าของทรัพย์สินในอนาคต ทั้งยังสามารถรักษาระดับ occupancy rate ได้มากกว่าร้อยละ 90 อย่างต่อเนื่อง ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9