เปิดบ้านปาร์คนายเลิศฟื้นงานดอกไม้

20 ม.ค. 2561 | 08:53 น.
ทายาทรุ่น 4 เปิดพื้นที่บ้านปาร์คนายเลิศ สร้างสีสัน ฟื้นการจัดงานดอกไม้ประจำปี รุกจัดงาน Nai Lert Flower & Garden Art Fair ต้นกุมภาพันธ์นี้ มุ่งสร้างสรรค์งานนี้ให้เป็นงานประจำปีระดับภูมิภาคเอเชีย ตั้งเป้าผู้เข้าชมงาน 5 พันคนในช่วง 3 วันของการจัดงาน

การกลับมาเปิดตำนานใหม่ “ปาร์ค นายเลิศ” โดยทายาทรุ่น 4 ของ นายเลิศ เศรษฐบุตร หรือพระยาภักดีนรเศรษฐ ภายใต้การบริหารจัดการของคุณเล็ก “ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” ไม่เพียงจะลงทุนกว่า 2.1 พัน ล้านบาท ในการขยายการลงทุนสร้างโรงแรมที่หัวหิน รวมถึงโรงแรมและเรสิเดนซ์หรู ภายใต้ชื่อ “นายเลิศ ปาร์ค โฮเทล” บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ “บ้านปาร์คนายเลิศ” บ้านเรือนไทยเก่าแก่อายุร่วม 102 ปี ที่อยู่ในซอยสมคิด ถ.เพลินจิต กรุงเทพฯ เท่านั้น

[caption id="attachment_250827" align="aligncenter" width="377"] ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร[/caption]

ล่าสุดคุณเล็กยังได้กลับมาจัดงานดอกไม้ประจำปี ขึ้น อีกครั้ง เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ผู้ริเริ่มจัดงานนี้มาตั้งแต่ปี 2529 และเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อการกุศลและสร้างให้เป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์นี้ และทำให้บ้านปาร์คนายเลิศ เป็นบ้านของประเทศไทย ทั้งยังต้องการสร้างชีวิตชีวาในพื้นที่นี้กลับขึ้นมาอีกครั้ง

ต่อเรื่องนี้ “ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” ทายาทรุ่น 4 ของตระกูลนายเลิศ เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การจัดงาน “Nai Lert Flower & Garden Art Fair” หรืองานดอกไม้และสวน อาร์ตแฟร์ ในครั้งนี้ จะยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง เนื่องจากปีนี้เป็นปีแรกที่ย้ายการจัดงานมาอยู่ที่บ้านปาร์คนายเลิศ จากปกติที่เคยจัดอยู่ในโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ ก่อนที่จะขายให้กับบริษัทบีดีเอ็มเอส เวลเนสฯ เพื่อไปดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งมุ่งสร้างสรรค์ให้เป็นงานประจำปีระดับภูมิภาคเอเชีย และสืบ สานเจตนารมณ์ของคุณยาย ที่ริเริ่มงานดอกไม้ประจำปีขึ้น

โดยตั้งเป้าคนร่วมงานกว่า 5 พันคน เพิ่มจากปีก่อนๆ ซึ่งอยู่ที่ราว 2 พันคน และคาดว่าจะมีรายได้ราว 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการขายบัตร 150 บาทต่อคนสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก 80 บาทต่อคน โดยรายได้จะนำไปสมทบทุนให้มูลนิธิภักดีนรเศรษฐ สนับสนุนการศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมในไทยต่อไป

ไฮไลต์ของการจัดงานในปีนี้คือการจัดพรมดอกไม้ผืนใหญ่บนสนามหญ้าขนาด 450 ตารางเมตร ใจกลางพื้นที่บ้านปาร์คนายเลิศ ซึ่งจัดว่าเป็นพรมดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย การแสดงผลงานประติ-มากรรมดอกไม้ จากนักจัดดอก ไม้ระดับนานาชาติ อาทิ สกุล อินทกุล, ศักดิ์ชัย กาย, ชยพร โตเมศร์

728x90-03 นอกจากนี้ยังเปิดให้เหล่าศิลปินรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ ผ่าน 3 กิจกรรมการประกวด ในหัวข้อ 1.การประกวดประติมากรรมดอกไม้ ในหัวข้อ “เล่าขานตำนานดอกไม้ไทย” 2.การประกวดการจัดสวน หัวข้อ “สีสันแห่งฤดูกาล” 3.การประกวดการตกแต่ง งานแต่งงาน ในหัว ข้อ “Love in Bloom” ทั้งนี้ผู้ชนะเลิศของทุกการประกวดจะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และบัตรเข้าชมงานดอกไม้เชลซีฟลาวเวอร์ โชว์ 2018 ณ กรุงลอนดอน

รวมทั้งยังมีการรวมตัวกันกว่า 30 ร้านค้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลผลิตจากความคิดสร้างสรรค์ ผลงานทางหัตถกรรมสำหรับผู้ที่สะสมงานออกแบบแฟชั่น อาทิ กระเป๋าสะพาย tote bag จากแบรนด์ดัง อย่าง อาซาว่า และชุดเดรส คาฟทาน จากแบรนด์วทานิกา ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่องานนี้ รวมไปถึงโซนดอกไม้และอาหารการกิน ที่มีการคัดสรร 20 ร้านค้าเจ้าดังจากทั่วประเทศมาให้ลิ้มลอง และการจัดคอร์สกิจกรรมต่างๆ เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ตั้งแต่เวิร์ก ช็อปทำขนมลูกชุบ คอร์สการปั้นดอกไม้จากดิน และการจัดดอกไม้ที่สอน โดยนักจัดดอกไม้ชื่อดัง เป็นต้น ที่จะอยู่ในบริเวณดอกไม้และงานสร้างสรรค์

อีกทั้งผู้ซื้อบัตรเข้าชมจะได้เข้าชมบ้านปาร์คนายเลิศเรือนไม้สัก ท่ามกลางความร่ม รื่น ซึ่งภายในจัดแสดงเครื่อง เรือน ของสะสมและงานศิลป์อันทรงคุณค่า แสดงเรื่องราวความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 จน ถึงปัจจุบันด้วย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9