เกาะล้านเร่งแก้ขยะล้น-น้ำไม่พอ

นักท่องเที่ยวล้นเกาะล้าน เมืองพัทยาเร่งแก้ปัญหาขยะท่วม นํ้าจืดขาดแคลน รีสอร์ต บุกรุกที่หลวง บ่อบำบัดมีไม่เพียงพอ

พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เดินทางไปรับฟังสภาพปัญหาของเกาะล้านซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้กับเมืองพัทยาและประเทศเป็นจำนวนมาก แต่กลับพบว่ามีปัญหาสะสมเป็นเวลานานหลายปัญหาเช่นกันที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการจัดการขยะ ปัญหานํ้าเสีย ปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณะ ซึ่งถือเป็นปัญหาเรื้อรังและสะสมมานานที่ถึงเวลาต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งด่วน

ทั้งนี้ พบว่าปัญหาหลักของพื้นที่เกาะล้าน คือ เรื่องขยะ ซึ่งมีมากถึง 4-5 หมื่นตัน และปัจจุบันหากมีลมกรรโชกจะยิ่งส่งกลิ่นเข้ามาบริเวณด้านหาดแสม รองลงมาคือปัญหาท่าจอดเรือ ณ ปัจจุบัน คสช. ได้สนับสนุนงบประมาณก่อสร้างท่าหน้าบ้าน โดยกรมเจ้าท่าเป็นผู้ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกจุดหนึ่งคือท่าหน้าบ้านที่โดนคลื่นซัดทรุดตัวลง ซึ่งเบื้องต้นทางสำนักงานเมืองพัทยา สาขาเกาะล้านได้จ้างช่างมาดำเนินการดีดขึ้น

สถิติด้านการท่องเที่ยวเกาะล้านเมื่อปี 2559 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเฉลี่ยกว่า 1-2 หมื่นคนต่อวัน เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 40% รัสเซีย 30% ไทย 20% และอื่นๆ 10% มีห้องพักรายวัน 140 ราย จำนวน 1,300 ห้อง บ้านพักรายเดือน 13 ราย จำวน 1,150 ห้อง และมีร้านอาหารจำนวน 47 ร้าน รายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวไม่ตํ่ากว่าวันละ 5 ล้านบาท และด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี ที่พักจึงไม่เพียงพอต่อปริมาณนักท่องเที่ยว เนื่องจากติดขัดเรื่องพื้นที่ที่ถูกกฎหมายมีไม่มากพอ และนำไปสู่ปัญหาการครอบครองที่ดินที่ส่วนมากไม่มีโฉนด ซึ่งชุมชนบ้านเกาะล้านเดิมเป็นการครอบครองแบบสืบทอดต่อๆ กันมา

ขณะที่ด้านสาธารณูปโภคบนเกาะล้านยังไม่มีแหล่งนํ้าจืดตามธรรมชาติ ซึ่งเมืองพัทยาได้ให้สัมปทานบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรนํ้า ภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์วอเตอร์ (East Water) ผลิตนํ้าทะเลให้เป็นนํ้าจืดเพื่อจำหน่ายให้กับประชาชน โดยมีกำลังการผลิต 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่กำลังการผลิตนํ้าประปาก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องซื้อนํ้าจากฝั่งพัทยาและสร้างที่กักเก็บนํ้าฝนไว้ใช้เอง นอกจากนี้ยังมีโรงบำบัดนํ้าเสีย จำนวน 2 แห่ง คือ โรงบำบัดนํ้าเสียหาดตาแหวนและโรงบำบัดนํ้าเสียหาดแสม ซึ่งแต่ละแห่งสามารถรองรับนํ้าเสียจากบ้านเรือนประชาชนและห้องพัก รีสอร์ต ต่างๆ ได้วันละ 300 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ายังไม่เพียงพอกับปริมาณนํ้าเสียบนเกาะล้านเช่นกัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,332 วันที่ 18 - 20 มกราคม พ.ศ. 2561