ผวา!มือถือไล่ทุบแบงก์ ฟินเทคตกยุค-Telco มาแล้ว
ฟินเทคถอยไป แบงก์ชี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกต่อไป เผย Telco คู่ต่อสู้ตัวใหม่น่ากลัวกว่าหลายเท่า เหตุมีความพร้อมด้านนวัตกรรมทั้งบิ๊กดาต้า รู้พฤติกรรมคนใช้มือถือ จำนวนลูกค้า สะดวกรวดเร็ว ขณะที่ทรูมันนี่ยอมรับธุรกรรมแน่นปีละ 1.6 แสนล้าน ลูกค้า 30 ล้านราย
กระแสความตื่นกลัวต่อ Finance Technology หรือ Fin-Tech ที่เป็นภัยคุกคามธุรกิจธนาคารมาตลอดระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมากำลังจะหมดความหมายและจะไม่ใช่คู่แข่งของแบงก์อีกต่อไป แต่ใช่ว่าแบงก์จะปลอดภัย เมื่อแบงก์กำลังเผชิญหน้ากับ Telco ภัยคุกคามการเงินตัวใหม่ที่มาแรงและทรงพลังกว่าฟินเทคหลายเท่าตัว
[caption id="attachment_176296" align="aligncenter" width="503"]
นริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)[/caption]
นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปีก่อนๆทุกคนกลัวว่า ฟินเทคจะเป็นภัยคุกคามธนาคาร แต่ปีนี้กลายเป็นภาพที่ว่าฟินเทคจะอยู่รอดได้อย่างไร
โมเดลของฟินเทคจะเข้ามากระทบพฤติกรรมและประสบการณ์ของลูกค้าธนาคาร แต่ไม่ใช่โมเดลธุรกิจที่ดีนัก เพราะโมเดลธุรกิจที่ดีจะเป็นโมเดลการร่วมมือระหว่างฟินเทคและธนาคาร หรือการเป็น Partnership เพราะฟินเทคเริ่มรู้ว่าการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระบบชำระเงินการปล่อยกู้หรือสกุลเงินดิจิตอลการจะเริ่มทำและสร้างฐานลูกค้าค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับธนาคารที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก และมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นการร่วมมือกับธนาคารน่าจะดีกว่าทำเองทำให้ฟินเทค จะกลายมาช่วยเติมเต็มธนาคารไม่ใช่มากลืนกินหรือแย่งธุรกิจธนาคาร
++เทลโก้ โมเดลใหม่ไล่ฆ่าแบงก์
นายนริศ กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจธนาคาร จะเป็นเรื่องของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (Telco) ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมากใกล้เคียงกับธนาคาร และฐานลูกค้ามีทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล หรือแม้กระทั่งชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย
นอกจากนี้เทลโก้ยังมีความได้เปรียบในเรื่องของฐานข้อมูล ปัจจุบันการแข่งขันจะอยู่ที่ข้อมูล หรือเป็นยุคแห่งข้อมูล การนำข้อมูลมาแปรเปลี่ยนเป็นเงินหรือรายได้ ซึ่งข้อมูลบางอย่างธนาคารก็ไม่มี หรือเข้าไม่ถึง เช่น ข้อมูลการโทร ซึ่งสามารถวิเคราะห์แยกแยะได้ว่าข้อมูลไหน โทรหาลูกค้าธุรกิจ โทรหาครอบครัว เป็นต้น ซึ่งเทลโก้มีข้อมูลตรงนี้มหาศาล เป็นยุคของ Big Data Analytic
++เทลโก้รุกคืบแบงก์
ดังนั้นภายใต้เทคโนโลยีที่เข้ามารวดเร็ว หากเทลโก้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีผสมผสานกับข้อมูลที่มีอยู่ในมือจำนวนมหาศาล ธนาคารจะตายเร็วยิ่งขึ้น และยิ่งไม่ปรับตัวจะยิ่งตายเร็วมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารต้องระมัดระวัง ไม่ใช่เรื่องของการถูกกลืนจากฟินเทค แต่เป็นเรื่องของการแข่งขันกับเทลโก้ ซึ่งจะเห็นว่าเทลโก้เริ่มส่งสัญญาณและเริ่มเข้ามาบุกธุรกิจธนาคารแล้ว เริ่มจากธุรกิจโอนเงินข้ามประเทศและในประเทศ ถือเป็นการส่งสัญญาณรุกธุรกิจธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ หากระยะต่อไปเทลโก้สามารถพัฒนาแอพพลิเคชันบนมือถือให้สามารถทำธุรกรรมอย่างอื่นได้มากขึ้น เช่นที่เกิดขึ้นกับต่างประเทศในเรื่องของการขายกองทุนรวมและประกัน ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมากให้กับธนาคาร จะยิ่งเป็นจุดเสี่ยงที่ธนาคารจะถูกกลืน และคาดว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะเกิดขึ้น และอีกไม่นานก็น่าจะเกิดขึ้น
++ออกอาวุธหนักและรวดเร็ว
นายนริศ กล่าวว่า หากพิจารณากฎระเบียบข้อบังคับของเทลโก้เมื่อเทียบกับธนาคารจะถูกจำกัดน้อยกว่า ทำให้การพัฒนาหรือจะออกโปรดักต์สู่ตลาดจะรวดเร็วกว่าธนาคารที่มีกฎระเบียบเยอะ มีข้อจำกัดมาก และใช้เวลานาน เช่น ธนาคารจะทำโปรดักต์ใหม่ จะต้องผ่านหลายขั้นตอนหลายหน่วยงานกว่าจะได้รับการอนุมัติ ซึ่งเมื่อถึงเวลาออกมาตลาดก็วายไปแล้ว หรือเปลี่ยนไปแล้ว เป็นสิ่งที่ธนาคารเสียเปรียบเทลโก้
“คลื่นดิจิตอลปีนี้ไม่ใช่เรื่องของฟินเทคกลืนแบงก์แล้ว แต่จะเป็นการอยู่ร่วมกันไม่ได้กินกันเองของแบงก์และฟินเทค โดยฟินเทคจะมาช่วยเติมเต็ม แต่สิ่งที่จะทำให้แบงก์หายหรือโดนกิน และเป็นความเสี่ยงที่ทำให้แบงก์ตายเร็วมากขึ้น จะเป็นเทลโก้ที่มีข้อได้เปรียบในยุคของข้อมูล และมีข้อจำกัดน้อยกว่าแบงก์ จะเดินเร็วมากขึ้น”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,329 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2561
กระแสความตื่นกลัวต่อ Finance Technology หรือ Fin-Tech ที่เป็นภัยคุกคามธุรกิจธนาคารมาตลอดระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมากำลังจะหมดความหมายและจะไม่ใช่คู่แข่งของแบงก์อีกต่อไป แต่ใช่ว่าแบงก์จะปลอดภัย เมื่อแบงก์กำลังเผชิญหน้ากับ Telco ภัยคุกคามการเงินตัวใหม่ที่มาแรงและทรงพลังกว่าฟินเทคหลายเท่าตัว
[caption id="attachment_176296" align="aligncenter" width="503"]
นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปีก่อนๆทุกคนกลัวว่า ฟินเทคจะเป็นภัยคุกคามธนาคาร แต่ปีนี้กลายเป็นภาพที่ว่าฟินเทคจะอยู่รอดได้อย่างไร
โมเดลของฟินเทคจะเข้ามากระทบพฤติกรรมและประสบการณ์ของลูกค้าธนาคาร แต่ไม่ใช่โมเดลธุรกิจที่ดีนัก เพราะโมเดลธุรกิจที่ดีจะเป็นโมเดลการร่วมมือระหว่างฟินเทคและธนาคาร หรือการเป็น Partnership เพราะฟินเทคเริ่มรู้ว่าการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระบบชำระเงินการปล่อยกู้หรือสกุลเงินดิจิตอลการจะเริ่มทำและสร้างฐานลูกค้าค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับธนาคารที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก และมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นการร่วมมือกับธนาคารน่าจะดีกว่าทำเองทำให้ฟินเทค จะกลายมาช่วยเติมเต็มธนาคารไม่ใช่มากลืนกินหรือแย่งธุรกิจธนาคาร
++เทลโก้ โมเดลใหม่ไล่ฆ่าแบงก์
นายนริศ กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจธนาคาร จะเป็นเรื่องของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (Telco) ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมากใกล้เคียงกับธนาคาร และฐานลูกค้ามีทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล หรือแม้กระทั่งชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย
นอกจากนี้เทลโก้ยังมีความได้เปรียบในเรื่องของฐานข้อมูล ปัจจุบันการแข่งขันจะอยู่ที่ข้อมูล หรือเป็นยุคแห่งข้อมูล การนำข้อมูลมาแปรเปลี่ยนเป็นเงินหรือรายได้ ซึ่งข้อมูลบางอย่างธนาคารก็ไม่มี หรือเข้าไม่ถึง เช่น ข้อมูลการโทร ซึ่งสามารถวิเคราะห์แยกแยะได้ว่าข้อมูลไหน โทรหาลูกค้าธุรกิจ โทรหาครอบครัว เป็นต้น ซึ่งเทลโก้มีข้อมูลตรงนี้มหาศาล เป็นยุคของ Big Data Analytic
++เทลโก้รุกคืบแบงก์
ดังนั้นภายใต้เทคโนโลยีที่เข้ามารวดเร็ว หากเทลโก้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีผสมผสานกับข้อมูลที่มีอยู่ในมือจำนวนมหาศาล ธนาคารจะตายเร็วยิ่งขึ้น และยิ่งไม่ปรับตัวจะยิ่งตายเร็วมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารต้องระมัดระวัง ไม่ใช่เรื่องของการถูกกลืนจากฟินเทค แต่เป็นเรื่องของการแข่งขันกับเทลโก้ ซึ่งจะเห็นว่าเทลโก้เริ่มส่งสัญญาณและเริ่มเข้ามาบุกธุรกิจธนาคารแล้ว เริ่มจากธุรกิจโอนเงินข้ามประเทศและในประเทศ ถือเป็นการส่งสัญญาณรุกธุรกิจธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ หากระยะต่อไปเทลโก้สามารถพัฒนาแอพพลิเคชันบนมือถือให้สามารถทำธุรกรรมอย่างอื่นได้มากขึ้น เช่นที่เกิดขึ้นกับต่างประเทศในเรื่องของการขายกองทุนรวมและประกัน ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมากให้กับธนาคาร จะยิ่งเป็นจุดเสี่ยงที่ธนาคารจะถูกกลืน และคาดว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะเกิดขึ้น และอีกไม่นานก็น่าจะเกิดขึ้น
++ออกอาวุธหนักและรวดเร็ว
นายนริศ กล่าวว่า หากพิจารณากฎระเบียบข้อบังคับของเทลโก้เมื่อเทียบกับธนาคารจะถูกจำกัดน้อยกว่า ทำให้การพัฒนาหรือจะออกโปรดักต์สู่ตลาดจะรวดเร็วกว่าธนาคารที่มีกฎระเบียบเยอะ มีข้อจำกัดมาก และใช้เวลานาน เช่น ธนาคารจะทำโปรดักต์ใหม่ จะต้องผ่านหลายขั้นตอนหลายหน่วยงานกว่าจะได้รับการอนุมัติ ซึ่งเมื่อถึงเวลาออกมาตลาดก็วายไปแล้ว หรือเปลี่ยนไปแล้ว เป็นสิ่งที่ธนาคารเสียเปรียบเทลโก้
“คลื่นดิจิตอลปีนี้ไม่ใช่เรื่องของฟินเทคกลืนแบงก์แล้ว แต่จะเป็นการอยู่ร่วมกันไม่ได้กินกันเองของแบงก์และฟินเทค โดยฟินเทคจะมาช่วยเติมเต็ม แต่สิ่งที่จะทำให้แบงก์หายหรือโดนกิน และเป็นความเสี่ยงที่ทำให้แบงก์ตายเร็วมากขึ้น จะเป็นเทลโก้ที่มีข้อได้เปรียบในยุคของข้อมูล และมีข้อจำกัดน้อยกว่าแบงก์ จะเดินเร็วมากขึ้น”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,329 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2561
