เชียงใหม่เจ้าภาพ‘เอทีเอฟ’ จีนร่วมเวทีถกบูมเที่ยว10ประเทศ

05 ม.ค. 2561 | 11:42 น.
ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมอาเซียนทัวริซึม ฟอรัม ที่เชียงใหม่ ชู 5 ประเด็นหลักหารือส่งเสริมท่องเที่ยว 10 ประเทศ ชี้ไฮไลต์การท่องเที่ยวเชิงอาหารของอาเซียน ทั้งยังเป็นปีแรกในการประชุมด้านท่องเที่ยวอาเซียน-จีน ขณะที่การจัดงานส่งเสริมการขายภายในงาน มีผู้ซื้อจากต่างประเทศกว่า 241 ราย เข้าร่วมเจรจาธุรกิจ ช่วงระหว่างวันที่ 22-26 มกราคม 2561 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 37 “อาเซียน ทัวริซึม ฟอรัม” หรือ “เอทีเอฟ 2018” ที่จังหวัดเชียงใหม่

++ชู 5 ประเด็นประชุม NTOs
การจัดงานดังกล่าว นอกจากจะมีการพบปะของระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวในการประชุมอาเซียน+3 รวมถึงการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการท่องเที่ยว (NTOs) ของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Travex) และยังเป็นปีแรกที่จะมีการประชุมร่วมระหว่างอาเซียน-จีน ในความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันด้วย โดยจะมีการจัดพิธีเปิดงานในวันที่ 24 มกราคม 2561 ณ หอคำหลวง อุทยานราชพฤกษ์ เชียงใหม่ ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศกว่า 1,200 คน

ทั้งนี้การประชุมจะจัดขึ้นที่โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ หัวข้อการประชุมประกอบไปด้วย 5 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.Tourism For All (การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล) เพื่อกระตุ้นและสร้างการรับรู้ให้เกิดการลงทุนด้านการท่องเที่ยว เพื่อรองรับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็ก ที่จะมีการหารือถึงระบบประกันภัย, เวลเนส สำหรับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล 2. Gastronomy Tourism (การท่องเที่ยวเชิงอาหาร) หารือเรื่องของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาหารในอาเซียน เพื่อใช้เป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของอาเซียน 3. ครูซ ทัวริซึม โดยสิงคโปร์ จะเป็นผู้นำหลักในการประชุม เพื่อหารือเรื่องกฎระเบียบ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือสำราญในอาเซียน 4. เรื่องของอินเวสต์เมนต์ในด้านการลงทุนด้านท่องเที่ยว ซึ่งทางฟิลิปปินส์, เมียนมา จะร่างขึ้นมา 5. การประชุมอาเซียน-จีน ทัวริซึม

++อาเซียน-จีนร่วมถกครั้งแรก
การประชุมด้านการท่องเที่ยวอาเซียน+จีน ที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก สืบเนื่องจากการเปิดปีแห่งการเฉลิมฉลองความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว อาเซียน-จีน ครบรอบ 25 ปี ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนมีนาคม 2560 อาเซียน-จีน ได้มีความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น อาทิ การแบ่งปันข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ข้อมูลด้านสถิติการท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ โดยมีการกำหนดมาตรฐานการให้บริการภาคการท่องเที่ยว การมีส่วนร่วมในการสนับสนุน การประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวในงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวต่างๆ การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างสถาบันการศึกษาด้านการท่องเที่ยว อาเซียน-จีน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงเสรีภาพทางอากาศ การร่วมมือด้านการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ

ประเทศจีนนับเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวที่สำคัญและมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศสมาชิกอาเซียน จะเห็นได้ว่า ปี 2559 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศสมาชิกอาเซียนกว่า 19.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.4% ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจาก ประเทศสมาชิกอาเซียนเดินทางไปยังประเทศจีนจำนวน 10.34 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 57.8% จึงนับได้ว่า ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอาเซียน-จีน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากซึ่งจะทำให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป

MP16-3328-1B ++ททท.ดึงผู้ซื้อตปท.214ราย
ขณะที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Travex) จะจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่ ที่จะเริ่มในวันที่ 24-26 มกราคม 2561 ซึ่งดำเนินการโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่าจะมีผู้ซื้อจากต่างประเทศกว่า 241 รายเดินทางมาหารือธุรกิจกับผู้ประกอบการในอาเซียน ซึ่งเป็นผู้ซื้อจากยุโรปกว่า 46% สหรัฐอเมริกา 16% เอเชีย 9% และอื่นๆ และมีผู้ขายจากอาเซียนราว 323 บูธ จากผู้ประกอบการ 276 ราย และหลังการเจรจาธุรกิจก็จะมีการจัดงานเลี้ยงอำลาที่ เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี เพื่อโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวนี้ เพราะเชื่อว่าขายได้สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวอาเซียน

ต่อเรื่องนี้นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า การที่ไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานเอทีเอฟในปีนี้ เราต้องเตรียมการให้พร้อมในการรองรับผู้เข้าร่วมงาน เพราะเป็นเวลา 10 ปี กว่าจะวนกลับมาจัดที่ไทยอีกครั้ง ซึ่งผมได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับจัดงาน ต้องคำนึงถึงความอ่อนไหว ทางวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ เป็นสำคัญ เพื่อจัดงานให้มีความเหมาะสม ไม่ใช่จัดงานโดยมองแต่มุมที่เจ้าภาพเป็นคนกำหนด

รวมทั้งการจัดงานในครั้งนี้ ควรใช้อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าต่างๆจากท้องถิ่นในภาคเหนือ ไม่ต้องนำมาจากกรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในชุมชน ลดค่าขนส่ง ค่านายหน้า นอกจากนี้ยังให้ไปดูเรื่องกรอบหารือความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับเกาหลีใต้ และอาเซียนกับญี่ปุ่นไว้ด้วย เผื่อมีการสอบถามขึ้นมา เพิ่มเติมจากอาเซียน-จีน ที่เป็นการจัดประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก

++ไฮไลต์ท่องเที่ยวเชิงอาหาร
ด้านนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า เอทีเอฟ 2018 จะจัดขึ้นภายใต้ธีม “ASEAN Sustainable Connectivity, Boundless Prosperity Tourism” เพื่อผลักดันให้อาเซียน เป็นซิงเกิ้ลเดสติเนชัน หรือจุดหมายปลายทางเดียวกันด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นเวทีแสดงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทยและสมาชิกอาเซียนต่อกลุ่มประเทศพันธมิตรคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย และอินเดีย ที่จะมีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐทั้งในระดับรัฐมนตรีและระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยว (NTOs) ของประเทศอาเซียนและประเทศพันธมิตรคู่เจรจารวมกว่า 120 คน

ทั้งยังมีในส่วนของสัมมนาทางวิชาการ ASEAN Gastronomy Conference จะเป็นหัวข้อ “The Future of Food: Turning ASEAN Tradition and Craftsmanship into Sustainable Gastronomic Tourism” นำโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากต่างประเทศ ได้แก่ Dr.Diane Dodd ประธานผู้ก่อตั้ง Inter national Institute of Gastronomy, Culture, Arts and Tourism (IGCAT), Dr.Tracy Berno รองศาสตราจารย์สาขา Culinary Arts จาก Auckland University of Technology, เชฟชุมพล แจ้งไพร ตัวแทนเชฟจากไทย

ทั้งนี้ยังมีการจัดทำ Technical Tours เป็นการลงพื้นที่เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ใน 2 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ “Sustainability Route” ตามรอยพระราชดำริไปยังพื้นที่ศูนย์พฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ รวมถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย และ “Community Route” ลงพื้นที่เยี่ยมชม กิจกรรมชุมชนบ้านไร่กองขิง ชุมชนตัวอย่างเจ้าของหลายรางวัลระดับชาติและนานาชาติที่สะท้อนมุมมองการท่องเที่ยวเชียงใหม่อันเปี่ยมอัตลักษณ์ไทย และเป็นแนวทางการกระจายรายได้สู่ชุมชน และสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,328 วันที่ 4 - 6 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9