ด่านศุลกากรแม่สอดจับใหญ่สินค้าเกษตรหนีภาษี ค่ากว่า 2 ล้าน
ด่านศุลกากรแม่สอด-ตากจับครั้งใหญ่ สินค้าเกษตรหนีภาษี หัวหอมใหญ่ กระเทียม ส่งท้ายปี 2560 มูลค่าของกลางกว่า 2 ล้านบาทมากสุดในรอบหลายปี
นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จังหวัดตาก พร้อมเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สอด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 14 แม่สอด นำโดยพันเอกอาสาฬหะ พูลสุวรรณ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 14 ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ร่วมกันจับกุมสินค้าเกษตรประเภทหอมหัวใหญ่พันธุ์พื้นเมืองพม่า และกระเทียม กำเนิดต่างประเทศ ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นสินค้ากระเทียมจำนวน 150 กระสอบ น้ำหนัก 7,500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 900,000 บาท หอมหัวใหญ่พันธุ์พื้นเมืองพม่าจำนวน 205 กระสอบ น้ำหนัก 7,995 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 400,000 บาท พร้อมรถยนต์บรรทุกหกล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70=3158 ตาก ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 950,000 บาท รวมมูลค่าของกลางและยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด 2,250,000 บาท ซึ่งเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากจังหวัดเมียวดี สหภาพเมียนมา
โดยครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบนำสินค้าเกษตรดังกล่าวเข้ามา นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด จึงได้สั่งการให้ นายกฤดิพรรธน์ สิงห์อุบลปิติกุล ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และนางจริณยา ศรีประทุม หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม นำกำลังจากหน่วยเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากรของด่านศุลกากรแม่สอด นำโดยนายอรรถวิทย์ นุกูล และประสานขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานทหาร ฉก.ร.14 และทหารพราน 35ไปตรวจสอบยังริมถนนสาธารณะ ใกล้ท่าข้ามที่ 12 บ้านท่าอาจ หมู่ -3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ตามที่สายแจ้ง
พบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด บรรทุกสินค้าหอมหัวใหญ่และกระเทียม กำเนิดต่างประเทศมาเต็มคัน สอบถามคนขับแล้วไม่สามารถชี้แจงถึงการได้มาของสินค้าได้ จึงได้แจ้งให้คนขับทราบว่า ของดังกล่าวเป็นของอันพึงต้องริบตามกฎหมาย หรือพิสูจน์ความผิด ตามมาตรา 242 มาตรา 246 ประกอบกับมาตรา 166 / 167 และมาตรา 252 ของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และได้ยึดของกลางทั้งหมดมายังด่านศุลกากรแม่สอด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวว่า การจับกุมสินค้าเกษตรหนีภาษีครั้งนี้ เป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี และเป็นการจับกุมส่งท้ายปีเก่า 2560 ที่มีมูลค่าสินค้ามากที่สุด และมีการจับปรับภาษีที่สูงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งด่านศลกากรแม่สอด และ ทหาร ในพื้นที่จะมีการเข้มงวดกวดขันกวาดล้างจับกุมสินค้าหนีภาษี ผ่านแดนอย่างต่อเนื่อง
นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จังหวัดตาก พร้อมเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สอด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 14 แม่สอด นำโดยพันเอกอาสาฬหะ พูลสุวรรณ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 14 ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ร่วมกันจับกุมสินค้าเกษตรประเภทหอมหัวใหญ่พันธุ์พื้นเมืองพม่า และกระเทียม กำเนิดต่างประเทศ ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นสินค้ากระเทียมจำนวน 150 กระสอบ น้ำหนัก 7,500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 900,000 บาท หอมหัวใหญ่พันธุ์พื้นเมืองพม่าจำนวน 205 กระสอบ น้ำหนัก 7,995 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 400,000 บาท พร้อมรถยนต์บรรทุกหกล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70=3158 ตาก ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 950,000 บาท รวมมูลค่าของกลางและยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด 2,250,000 บาท ซึ่งเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากจังหวัดเมียวดี สหภาพเมียนมา
โดยครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบนำสินค้าเกษตรดังกล่าวเข้ามา นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด จึงได้สั่งการให้ นายกฤดิพรรธน์ สิงห์อุบลปิติกุล ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และนางจริณยา ศรีประทุม หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม นำกำลังจากหน่วยเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากรของด่านศุลกากรแม่สอด นำโดยนายอรรถวิทย์ นุกูล และประสานขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานทหาร ฉก.ร.14 และทหารพราน 35ไปตรวจสอบยังริมถนนสาธารณะ ใกล้ท่าข้ามที่ 12 บ้านท่าอาจ หมู่ -3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ตามที่สายแจ้ง
พบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด บรรทุกสินค้าหอมหัวใหญ่และกระเทียม กำเนิดต่างประเทศมาเต็มคัน สอบถามคนขับแล้วไม่สามารถชี้แจงถึงการได้มาของสินค้าได้ จึงได้แจ้งให้คนขับทราบว่า ของดังกล่าวเป็นของอันพึงต้องริบตามกฎหมาย หรือพิสูจน์ความผิด ตามมาตรา 242 มาตรา 246 ประกอบกับมาตรา 166 / 167 และมาตรา 252 ของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และได้ยึดของกลางทั้งหมดมายังด่านศุลกากรแม่สอด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวว่า การจับกุมสินค้าเกษตรหนีภาษีครั้งนี้ เป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี และเป็นการจับกุมส่งท้ายปีเก่า 2560 ที่มีมูลค่าสินค้ามากที่สุด และมีการจับปรับภาษีที่สูงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งด่านศลกากรแม่สอด และ ทหาร ในพื้นที่จะมีการเข้มงวดกวดขันกวาดล้างจับกุมสินค้าหนีภาษี ผ่านแดนอย่างต่อเนื่อง
