‘บ๊อช’แนะผู้ใช้รถเปลี่ยนนํ้ามันหล่อลื่น

24 ธ.ค. 2560 | 11:44 น.
ปัจจุบันนํ้ามันเครื่อง หรือนํ้ามันหล่อลื่นถือเป็นส่วนสำคัญในการปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์หลายชิ้น ที่ต้องคอยรับแรงดันและความร้อนสูงในขณะที่ทำงาน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนเหล่านี้เกิดการสึกหรอและเสียหาย นอกจากนั้นแล้วคุณสมบัติของนํ้ามันหล่อลื่นยังช่วยปกป้องชิ้นส่วนจากความร้อนที่ไม่จำเป็นต่อการทำงานซึ่งเกิดจากการเสียดทานภายในเครื่องยนต์

“นํ้ามันหล่อลื่นทำหน้าที่หลายด้านเพื่อปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ช่วยลดความร้อนที่เกิดจากการเสียดทานด้วยการสร้างชั้นเลเยอร์ของเหลวระหว่างชิ้นส่วนโลหะเคลื่อนที่ และลดสิ่งปนเปื้อนอันเป็นผลมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงซึ่งทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้สึกหรอ นํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์ยังช่วยเคลือบชิ้นส่วนและปกป้องชิ้นส่วนโลหะไม่ให้เกิดสนิมและการกัดกร่อน ปัจจัยเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” นายกุลธัช บุญบงการ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายอะไหล่รถยนต์ บ๊อช ประเทศไทย กล่าวและว่า

โดยการเปลี่ยนนํ้ามันหล่อลื่นแต่ละครั้งนั้น ผู้ขับขี่รถยนต์ควรเปลี่ยนนํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์ทุกๆ 5,000 กิโลเมตรสำหรับนํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์กึ่งสังเคราะห์ และ 1 หมื่นกิโลเมตร สำหรับนํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์สังเคราะห์แท้ หรือทุกๆ 6 เดือน (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

mp33-3325-b นอกจากการเปลี่ยนนํ้ามันหล่อลื่นเป็นประจำแล้ว การเลือกคุณภาพของนํ้ามันก็มีผลต่อเครื่องยนต์ โดยเกรดของนํ้ามันตั้งต้นและสารเติมแต่งในสูตรของนํ้ามัน จะส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ตลอดทั้งช่วงอุณหภูมิเครื่องยนต์ โดยนํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์ทุกประเภทจะมีคุณภาพลดตํ่าลงตามเวลาและการใช้งานเนื่องจากเกิดปฏิกิริยา ออกซิเดชันและการปนเปื้อน

สำหรับออกซิเดชันเป็นปฏิกิริยาที่เกิดกับนํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์ตามปกติ ซึ่งทำให้นํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์มีความหนืดข้นขึ้นตามระยะเวลาใช้งาน ถ้านํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์มีความหนืดข้นมากเกินไปก็จะไม่สามารถไหลเวียนภายในเครื่องยนต์เพื่อปกป้องชิ้นส่วนได้ดี ในทางกลับกัน นํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์จะเจือจางลงเมื่อเครื่องยนต์มีความร้อนสูงขึ้นและอาจเจือจางจนซึมเข้าสู่ห้องเผาไหม้เชื้อเพลิง ซึ่งมักเกิดขึ้นในสภาพอากาศร้อนอย่างในประเทศไทยที่เครื่องยนต์จะมีความร้อนสูงขึ้นเร็วกว่าสภาพอากาศรูปแบบอื่น

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2-2-503x69 “นํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีคุณภาพตํ่าจะมีอายุใช้งานสั้นกว่า ทำให้ผู้ขับขี่ประสบความไม่สะดวกเพราะต้องเปลี่ยนนํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์บ่อยขึ้น ถ้ายังฝืนใช้นํ้ามันหล่อลื่นเครื่อง ยนต์คุณภาพตํ่าต่อไป สมรรถนะของเครื่องยนต์จะแย่ลงหรืออาจทำให้ชิ้นส่วนเสียหายนำไปสู่การซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นการเลือกใช้นํ้ามันหล่อลื่นเครื่อง ยนต์ที่มีคุณภาพสูงจะสามารถทนต่อปฏิกิริยาออกซิเดชันได้มากกว่าและยังสามารถรักษาระดับความข้นหนืดได้ตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้นจึงสามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นาย
กุลธัชกล่าวเพิ่มเติม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,325 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9