บิตคอยน์จะทะลุ 40,000 ดอลลาร์?

ในขณะที่ผมเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ในช่วงเช้า ราคาบิตคอยน์ สกุลเงินดิจิตอลเบอร์ 1 ของโลก วิ่งทะลุ 14,000 ดอลลาร์ ไปหมาดๆ ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาเล็กน้อยอยู่ราวๆ 13,000 ดอลลาร์กว่าๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเพียง 2 วัน บิตคอยน์เพิ่งจะทะลุ 12,000 ดอลลาร์ไปหยกๆ

และขณะที่ท่านผู้อ่านกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ผมก็เชื่อว่า ราคาบิตคอยน์ น่าจะวิ่งเกิน 14,000 ดอลลาร์ไปแล้ว เรียกได้ว่า ในปีนี้ บิตคอยน์ น่า จะเป็นการลงทุนที่มีความร้อนแรงมากที่สุดในโลก นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบิตคอยน์พุ่งขึ้นไปแล้วกว่า 800% เฉพาะในเดือนธันวาคมก็ขึ้นมาแล้ว 40% คงหาสินทรัพย์ใดๆ ที่ราคาจะร้อนแรงเทียบเท่าได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็มีข่าวเกรียวกราวขึ้นมาว่าบิตคอยน์ เมื่อถึงสิ้นปี 2018 หรือปีหน้านั้น ราคาจะพุ่งขึ้นไปแตะ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯด้วยซํ้า โดยการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นของนาย ไมเคิล โนโวกราตซ์ อดีตผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ “ฟอร์เทรส”

นั่นเท่ากับว่า บิตคอยน์ จะพุ่งขึ้นอีกถึง 400% ในปีหน้า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ลองไปพิจารณากันดูครับ
ผมได้คุยกับ ดร. จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักเศรษศาสตร์จากธนาคารกรุงไทย ผ่านรายการ Global Insight ทางสถานีวิทยุ สปริง เรดิโอ ท่านพูดไว้น่าสนใจทีเดียวว่า บิตคอยน์ กำลังเป็นแฟชั่นในตะวันตก ที่ใครๆ ก็ต้องมี และนั่นเป็นเหตุผลที่เพราะเหตุใด ในช่วงที่ผ่านมาราคาบิตคอยน์ถึงพุ่งเอาๆ เพราะใครๆก็ไม่อยากตกขบวนครับ

ถ้ามองในเมืองไทย ดร.จิติพล บอกว่าก็เหมือนกับปรากฎ การณ์ จตุคามรามเทพ ที่ราคาพุ่งพรวดไปถึงหลักล้านบาทภายในไม่กี่เดือนนั่นล่ะครับ บิตคอยน์ ก็มีลักษณะที่นักลงทุนกำลัง “เห่อ” ไม่ต่างจากจตุคามรามเทพบ้านเรา
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัท Cboe Global Markets Inc. ในสหรัฐฯบอกว่าจะเปิดให้มีการเทรดดิ้งบิตคอยน์ล่วงหน้าในวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ก็จะเริ่มเปิดให้เทรดดิ้งบิตคอยน์ล่วงหน้าด้วยเหมือนกันในวันที่ 18 ธันวาคม ส่วนตลาดแนสแดค ก็เตรียมจะเปิดการซื้อขายล่วงหน้า ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้านี้ด้วย

และนี่ก็คือ ภาวะเห่อบิตคอยน์ ของฝรั่งครับ ในปีหน้าจะมีผู้เข้ามาเล่นในตลาดบิตคอยน์มากขึ้น และน่าจะเป็นรายใหญ่ๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นกองทุนบริหารความเสี่ยง หรือเฮดจ์ฟันด์ ตลอดไปจนถึงธนาคารเพื่อการลงทุนทั้งหลาย ซึ่งล้วนแต่จะทำให้ราคาบิตคอยน์ปีหน้าน่าจะผันผวนหนักมากกว่าปีนี้ด้วยซํ้า

และก็ต้องไม่ลืมครับว่า เมื่อนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเล่น ก็ย่อมมีการเน้นการทำผลกำไร ราคาอาจจะไม่ได้อยู่ในทิศทางขึ้นเพียงขาเดียวเท่านั้น ส่วนจะแตะ 40,000 ดอลลาร์ ได้หรือไม่ ก็ต้องได้แต่รอดูครับ

และสำหรับคนไทย ที่ลงทุนในบิตคอยน์ ผมก็ต้องยํ้า เตือนกันอีกครั้งนะครับ ว่า ……

1.บิตคอยน์ เป็นสิน ทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ 2. บิตคอยน์ ที่เปิดให้ขุด ให้หา ให้ซื้อมาเล่นกันนั้นมีอยู่ 21 ล้านบิตคอย โดยขณะนี้บิตคอยน์ถูกขุดออกมาซื้อขายกันแล้ว 16 ล้าน เหลืออีกประมาณ 5 ล้านบิตคอยน์เท่านั้น เท่ากับว่าจะมีดีมานด์เพิ่มขึ้นอีกมาก 3. บิตคอยน์ ไม่มีดอกเบี้ย หรือปันผลให้แบบหุ้นหรือทองคำ

และสุดท้าย 4. ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่รับรองบิตคอยน์ตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นบิตคอยน์ คือการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ และเป็นฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติการลงทุนสินทรัพย์ของโลกในยุคใหม่ครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,322 วันที่ 14 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560