เอ็มจี แซดเอส หรูเกินราคา คบหาด้วยความฉลาด

11 ธ.ค. 2560 | 10:32 น.
เมื่อเอสยูวีระดับบี-เซ็กเมนต์“เอ็มจี แซดเอส” (MG ZS) เปิดราคาเริ่มต้น 6.79 แสนบาท ผมว่าน่าดึงดูดใจมากแล้ว แต่ถ้ามองไปที่ตัวท็อป 7.89 แสนบาท คุณยังได้ออพชันจัดเต็มอย่างหลังคาซันรูฟ ภายในตกแต่งหรูหรา หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมและเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต i-SMART พวงมาลัยปรับนํ้าหนักของการตอบสนองได้ 3โหมด กล้องมองหลัง ดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยเทียบเท่าเอสยูวีระดับคอมแพ็กต์ราคาเกินล้าน

เอ็มจี พยายามหาพื้นที่ยืนให้ตัวเองในตลาดเมืองไทย ด้วยการสร้างความแตกต่างจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น ดังนั้นเราจึงเห็นการจัดออพชันยิ่งใหญ่แต่รถราคาย่อมเยา หรือเทียบปอนด์ต่อปอนด์กับคู่แข่งระดับเดียวกัน ณวันที่ซื้อ เอ็มจี มีความคุ้มค่ากว่า

mp33-3321-7a อย่าง “แซดเอส” ในเกรด D และ X ภายในเป็นสีทูโทนสีนํ้าตาล-ดำ หนังเทียมถูกใช้หุ้มเบาะนั่งและแต่งบนแผงแดชบอร์ดขณะที่ช่องแอร์ ชุดควบคุมต่างๆดูหรูหรา หลังคาซันรูฟยาวเกือบเต็มหลังคา และมีผ้าบางๆบังแดดไว้อีกชั้น(ถ้าไม่ติดฟิล์มกรองแสงบนซันรูฟ คงมีผลเรื่องความร้อนภายในห้องโดยสารพอสมควร)

ขณะที่ระบบ i-SMARTใช้เสียงภาษาไทยสั่งงาน เช่นการโทรศัพท์ แอร์ เพลงเปิด-ปิดหน้าต่างและซันรูฟเป็นต้น จากการทดสอบในระยะเวลาสั้นๆ รถกับตัวผมอาจจะยังไม่คุ้นเคยกัน ก็มีเชื่อฟังบ้าง ไม่เชื่อฟังบ้างครับ

mp33-3321-3a ทั้งนี้ เอ็มจีที่ใช้โอเปอเรชันของ “ทรู” ซึ่งอยู่ในเครือซีพีเหมือนกัน แจ้งว่า i-SMART ยิ่งนานไปถ้าสะสม “บิ๊กดาต้า” ซึ่งหมายถึงมีผู้ใช้รถเอ็มจีและระบบนี้มากขึ้น เมื่อบวกกับการวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) i-SMART จะฉลาดขึ้นเรื่อยๆ

เหนืออื่นใด หากเจ้าของตัวจริงใช้รถไปนานๆระบบคุ้นชินกับเสียงและลักษณะการสั่งงานต่างๆ(รวมถึงสำเนียงของคนไทยในแต่ละภาค) ก็จะตอบสนองคำสั่งได้ดีขึ้นเช่นกัน

mp33-3321-4a แม้การสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยจากการทดสอบ“แซดเอส” ในระยะเวลา 2วัน อาจจะขลุกขลักบ้าง (ผมจึงเลือกควบคุมผ่านหน้าจอและบนพวงมาลัยโดยตรง)แต่ i-SMART ที่ควบคุมผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือนั้นแม่นยำและมีประโยชน์มากๆเช่น การตรวจสอบสภาพรถลมยาง การสั่งให้เครื่องยนต์ติดขึ้นมาและเปิดแอร์ก่อนจะเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสารรวมถึงการหาตำแหน่งว่า รถของเราจอดอยู่ตรงไหนเป็นต้น

ด้านเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เป็นบล็อกเดียวกับที่ใช้ใน “เอ็มจี3”และ “เอ็มจี5” แต่ปรับกล่องควบคุมอีซีใหม่ รวมถึงพยายามลดแรงเสียดทานในห้องเผาไหม้ และเปลี่ยนวัสดุบางชิ้นเพื่อให้นํ้าหนักเบาลง ส่งผลให้กำลังเพิ่มจาก 106 แรงม้าเป็น 114แรงม้า

mp33-3321-6a เมื่อประกบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด (อัตราทดเดียวกับ เอ็มจี5 รุ่นไม่มีเทอร์โบ)อาจจะดูโบราณ แต่ขับจริงๆไม่ได้อืดอาดจนน่าเกลียดตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ประมาณ 14 วินาทีโดยแซดเอส เซตอัตราทดเฟืองท้ายไว้ค่อนข้างจัดครับที่ 4.375 ดังนั้นการออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปที่ความเร็ว30-40 กม./ชม. ไม่อ้อยอิ่งทิ้งเวลานาน แต่ถ้าเลยความเร็วนี้ไปการตอบสนองรวมๆก็ช้าไปนิด (ด้วยราคาขนาดนี้คงต้องเลือกได้อย่างเสียอย่างบ้าง)

mp33-3321-5a ส่วนนํ้าหนักพวงมาลัยที่บอกว่าปรับได้ 3 โหมดใช้งานดีครับ เพราะปกติพวงมาลัยของรถเอ็มจีค่อนข้างมีนํ้าหนัก แต่คราวนี้ใน“แซดเอส” มีโหมดแบบคอมฟอร์ต หากเลือกไว้พวงมาลัยก็เบาลงควบคุมสบายมือและถ้าใช้ความเร็วสูงขึ้นระบบจะปรับให้หนืดและมีนํ้าหนักขึ้นโดยอัตโนมัติ

mp33-3321-1a ขณะที่ช่วงล่างด้านหน้าแมกเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นคานทอร์ชันบีม เซตมาเน้นความนุ่ม ดังนั้นช่วงทางตรงๆ ขึ้นลงเนิน หรือเข้าโค้ง ตัวรถยวบยาบ โยกโยนไปนิด

ด้านอัตราบริโภคนํ้ามันเฉลี่ย เอ็มจีเคลมไว้ 16.1 กม./ลิตร ส่วนการลองขับเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยองใช้ความเร็วสูงมีจังหวะเร่งแซงบ่อยครั้งตัวเลขที่เห็นบ่อยคือ 12-13กม./ลิตร

mp33-3321-2a รวบรัดตัดความ...สมรรถนะการขับขี่อยู่ในระดับพอใช้ ขณะที่การเก็บเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารเป็นจุดเด่นพอๆกับการตกแต่งภายในและออพชันที่จัดมาให้เพียบซึ่งใครกำลังเล็ง “บี-เอสยูวี” เน้นความอเนกประสงค์ “เอ็มจี แซดเอส”ถือว่าคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปเมื่อเทียบของที่ได้รับครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว