โคคา-โคลา สร้างแรงบันดาลใจ ‘รักนํ้า’สู่ทริป...‘ตามนํ้า’

ปี นี้ โคคา-โคลา ได้ต่อยอด โครงการ “รักนํ้า” ขึ้นมา อีกขั้นหนึ่ง หลังจากที่โคคา-โคลาได้เข้าไปทำงานร่วมกับชุมชนต่างๆ รวม 6 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกับองค์กรไม่แสวงผลกำไร ในการเข้าไปช่วยเหลือชุมชนบริหารจัดการทรัพยากรนํ้า ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของ โคคา-โคลา กับการคืนนํ้าให้กับชุมชนและธรรมชาติ ให้ได้เท่ากันหรือมากกว่าปริมาณนํ้าที่โคคา-โคลา นำไปใช้ในการผลิต การต่อยอดครั้งนี้ ออกมาในรูปแบบของ กิจกรรม “ตามนํ้า -ทริปเดินทางไปรู้จักและรักนํ้าถึงต้นกำเนิด”

“นันทิวัต ธรรมหทัย” ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า เราต้องการทำให้เรื่องของการรักนํ้า เป็นเรื่องใกล้ตัวของคนเรามากขึ้น จึงไปคุยกับ เดอะ คลาวด์ แล้วก็เกิดเป็นกิจกรรม “ตามนํ้า - ทริปเดินทางไปรู้จักและรักนํ้าถึงต้นกำเนิด” ขึ้นมา โดยการคัดเลือกเพื่อร่วมอุดมการณ์ ผ่านการเขียนเรียงความ บอกเล่าว่า เขารักนํ้าอย่างไร ดูแลรักษานํ้าอย่างไร และจะสื่อสารถึงคนในวงกว้างได้อย่างไร กิจกรรมนี้มีคนสนใจส่งเรียงความเข้ามากว่า 300 คน คัดเหลือ 12 คน มาร่วมทริปที่ เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน

“เราอยากได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ และหวังว่าเพื่อนๆ จะอินไปกับเรา ที่ผ่านมา เราร่วมกันไปทำงาน คืนนํ้าสู่ชุมชน และธรรมชาติเป็นหลัก ตอนนี้เราคิดว่าจะทำอะไรให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ไหม และสิ่งที่เราเข้าใจมาตลอด คือ การสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อให้ทุกคนหันมารักนํ้า เพราะนํ้าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของเรา โดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง พวกเขาไม่รู้การที่จะได้มาซึ่งนํ้า หรือกว่าจะได้นํ้ามาตามท่อประปา มันยากลำบากแค่ไหน เราอยากทำให้เรื่องของนํ้าใกล้ตัวคนมากขึ้น ทำให้คนเมืองมีแรงบันดาลใจในการรักนํ้า”

ทริปตามนํ้าปีแรกของโคคา-โคลา มี “พี่อ้วน-นิคมพุทธา” ผู้ก่อตั้งค่ายเยาวชนอนุรักษ์ดอยหลวง มาเป็นผู้นำทริป ให้เห็นว่า ต้นนํ้าแม่ปิง อยู่ไหน มีเส้นทางอย่างไร และสำคัญอย่างไรกับคนไทย พี่อ้วน คือ ผู้พลิกป่าเขาแผงม้าจากเขาหัวโล้น จนกลับมามีชีวิตเขียวชอุ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อ 5 ปีก่อน นอกจากนี้ ยังมี “เชฟแบล็ค-ภานุภน บุลสุวรรณ” จาก Blackitch Artisan Kitchen มาสร้างสรรค์เมนูอาหารจากแนวคิดป่าต้นนํ้า ให้ทุกคนได้รับประทาน รวมทั้งยังมีน้องอาย-กมลเนตร เรืองศรี และคู่รักหัวใจอีโค่ ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร และ นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา มาร่วมรับทั้งความรู้และแรงบันดาลใจ พร้อมๆ กับผู้ร่วมทริปอีก 12 คน

การวัดผล “นันทิวัต” บอกว่า จากการเรียนรู้และมีแนวคิดร่วมอุดมการณ์เดียวกันเกี่ยวกับนํ้า เพื่อนๆ ร่วมทริปทั้งหมดจะสื่อสารสิ่งที่เขารับรู้และเข้าใจไปในวงกว้าง กลุ่มคนเหล่านี้จะไปเล่าให้คนรอบข้างของพวกเขาได้รับรู้ถึงความสำคัญของนํ้าที่มีต่อมนุษย์โลก ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นจากสิ่งที่เขารับรู้ เชื่อ และตระหนักรู้จากจิตใจของพวกเขาจริงๆ นั่นคือความต้องการเชิงลึก ที่โคคา-โคลา ต้องการสื่อสารออกไป

ส่วนเส้นทางต่อไปของ “รักนํ้า” ผู้บริหารโคคา-โคลา บอกว่า ยังสามารถต่อยอดได้อีกมาก โดยสิ่งที่โคคา-โคลา จะโฟกัสมากขึ้นนับจากนี้คือ นํ้าและความยั่งยืน สิ่งหนึ่งที่โคคา-โคลา กำลังมองอยู่คือ เรื่องของขยะ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มคุยกับองค์กรอื่นๆ ที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกันแล้ว