อัยการซัด! ที่ดินอุ้ม ‘BA’ ยัน! อธิบดีมีอำนาจถอนโฉนด ‘สนามบินสมุย’ รุกที่

26 พ.ย. 2560 | 09:03 น.
1542


ปมปัญหาการออกโฉนดรุกที่สาธารณะของ ‘สนามบินสมุย’ บานปลาย ... ‘อัยการ’ ยัน อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจเพิกถอนโฉนดสนามบินสมุยรุกที่สาธารณะได้เลย ด้าน อธิบดีที่ดินอ้างกฎหมาย ป.ป.ช. เรื่องต้องยุติที่ศาล จนต้องให้ อสส. ชี้ขาด

ปัญหาการออกโฉนดที่ดิน 250 ไร่ ‘สนามบินสมุย’ ของ บริษัท การบินกรุงเทพฯ (BA) รุกพื้นที่สาธารณะบางส่วน ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลไปแล้ว ว่า ที่ดินส่วนหนึ่งที่ใช้ก่อสร้างสนามบินเกาะสมุยนั้น กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ และได้ลงโทษทางวินัยกับข้าราชการกรมที่ดินไปแล้ว 4 ราย ทั้งยังได้ส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว

ปัญหาดังกล่าวเกิดจากความเห็นในข้อกฎหมายของทั้ง 2 หน่วยงาน โดยอัยการเห็นว่า กรมที่ดินมีอำนาจในการเพิกถอนโฉนดได้ทันที แต่ทางกรมที่ดินกลับเห็นว่า ต้องให้อัยการฟ้องต่อศาล เพื่อเพิกถอนตามกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่ง “ฐานเศรษฐกิจ” ได้เกาะติดและนำเสนอปัญหาการรุกที่สนามบินสมุยมาโดยตลอด นำไปสู่การดำเนินให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ที่แต่ละหน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบ


003-13

| โยน อสส. ชี้ขาดสมุย |
ล่าสุด นายวันชาติ สันติกุญชร อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวยืนยันว่า เรื่องไม่ได้เงียบ และไม่ได้ล่าช้า หน่วยงานในสำนักงาน อสส. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้รับเรื่องจากกรมที่ดินเมื่อเดือน ก.พ. 2560 สำนักงาน อสส. ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง ในชั้นแรก โดยส่งให้สำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุยพิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เมื่ออัยการจังหวัดเกาะสมุยได้รับเรื่องแล้ว ได้ตั้งพนักงานอัยการ 3 ท่าน เป็นคณะทำงาน เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและได้พิจารณาโดยทันที ซึ่งคณะทำงานพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า คดีไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลจังหวัดเกาะสมุย เนื่องจากอธิบดีกรมที่ดินสามารถใช้อำนาจเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกโดยไม่ชอบได้อยู่แล้ว ตามบทบัญญัติของมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จึงได้เสนอให้อธิบดีอัยการแรงงาน ภาค 8 แจ้งฐานะคดี และขอส่งเรื่องคืนกรมที่ดิน

ต่อมา อธิบดีอัยการแรงงาน ภาค 8 จึงได้แจ้งฐานะคดีไปยังกรมที่ดิน ตามที่คณะทำงานเสนอ แต่ทางกรมที่ดินยืนยัน ให้พนักงานอัยการฟ้องเพิกถอน โดยอ้างว่า กรมที่ดินไม่ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แต่อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 99 ซึ่งอธิบดีอัยการแรงงาน ภาค 8 ไม่เห็นพ้องด้วย จึงส่งเรื่องมายังสำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเสนออัยการสูงสุดชี้ขาดในเรื่องดังกล่าว ตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีแพ่ง พ.ศ. 2547 ข้อ 25 ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างพิจารณา

แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมที่ดิน ยืนยันกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ถ้าหากอัยการมีความเห็นออกมาเช่นไร ทางกรมที่ดินสามารถรายงานผลการดำเนินการต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และหน่วยงานที่รับผิดชอบก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป


แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์

ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ระบุว่า เมื่อความปรากฏว่า การออกโฉนดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดีมอบหมายตำแหน่งรองอธิบดี หรือผู้ตรวจราชการกรมที่ดิน มีอำนาจหน้าที่สั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้ โดยอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตั้งคณะกรรมการสอบ พร้อมแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบ เพื่อให้โอกาสคัดค้าน ถ้าไม่คัดค้านภายใน 30 วัน ถือว่า ไม่มีการคัดค้าน


TP2-3317-1C

คณะกรรมการสอบสวนต้องมีเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและตัวแทนผู้บริหารท้องถิ่น เป็นกรรมการ และส่งผลสอบสวนให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้มีคำสั่งให้ทำการสอบสวน หากสอบสวนแล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ให้รายงานเพื่อขอขยายระยะเวลาได้ตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 60 วัน เมื่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายพิจารณาประการใดแล้ว ก็ให้ดำเนินการไปตามนั้น

สำหรับการดำเนินการเพิกถอน กรณีถ้ามีการคลาดเคลื่อนเนื่องจากเขียนหรือพิมพ์ข้อความผิดพลาด โดยมีหลักฐานชัดแจ้ง และมีผู้มีส่วนได้เสียยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจหน้าที่แก้ไขให้ถูกต้องได้ และกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไขให้ถูกต้องได้ และกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไข ให้เจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการตามนั้นตามวิธีการที่อธิบดีกำหนดในกฎกระทรวง

ส่วน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 99 ที่กรมที่ดินอ้างถึงนั้น ระบุไว้ว่า กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า ข้อกล่าวหาใดมีมูลความผิดตามมาตรา 91 นอกจากดำเนินการตามมาตรา 92 หรือมาตรา 93 แล้ว หากปรากฏข้อเท็จจริงในการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้อนุมัติหรืออนุญาตให้สิทธิประโยชน์หรือออกเอกสารสิทธิ์แก่บุคคลใดไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการ ให้ประธานกรรมการส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่ พร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ยกเลิกหรือเพิกถอนสิทธิหรือเอกสารสิทธิ์ที่ผู้ถูกกล่าวหาได้อนุมัติหรืออนุญาตนั้นด้วย

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ

สำหรับปัญหาเรื่องนี้ เมื่อปี 2555 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน กรณีออกโฉนดทับที่สาธารณะก่อสร้างสนามบินสมุย รวม 3 ราย ประกอบด้วย นายหยุด พัฒนสุรีย์ เมื่อครั้งเป็นนายช่างรังวัด 6, นายทวีป โอชารส เมื่อครั้งเป็นเจ้าพนักงานที่ดิน สำนักงานที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย กรมที่ดิน และนายทนงศักดิ์ สมวงศ์ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในความผิดตามมาตรา 157 พร้อมกับส่งเรื่องให้เทศบาลเมืองเกาะสมุย และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินการกับที่ดินและผู้บุกรุกที่ดินของรัฐ ตามโฉนดที่ดิน เลขที่ 15267 ตามอำนาจหน้าที่ และแจ้งให้อธิบดีกรมที่ดินเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และเพิกถอนโฉนดที่ดิน เลขที่ 15267 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ซึ่งออกไปโดยคลาดเคลื่อนทับที่สาธารณประโยชน์ พรุบางรักษ์ และคลองบางทด ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 และดำเนินการทางวินัยและอาญาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย

ซึ่งเรื่องการเพิกถอนโฉนดที่ดิน ทางกรมที่ดินเพิ่งดำเนินการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 5 ปี

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,317 วันที่ 26-29 พ.ย.  2560 หน้า 01-02

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว