กลุ่มทรู ปั้น "ทรู ดิจิทัล พาร์ค" สู่ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลของโลก

27 พ.ย. 2560 | 08:58 น.
กลุ่มทรู เดินหน้าโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค มุ่งเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของไทย ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความพร้อมสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจร (Complete Ecosystem) หวังเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลครบวงจรเทียบเท่าระดับสากล นายฐนสรณ์ ใจดี 1

นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า กลุ่มทรูต้องการที่จะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการขับเคลื่อนประเทศให้มีความแข็งแกร่ง มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ เดินหน้าโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของไทย ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เน้นสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจร ด้วยแนวคิด Open Innovation จากการรวมตัวกันของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ เหล่าสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมทั้งศูนย์ R&D ของมหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐ  Digital-Park

สำหับโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 101 ในย่านนวัตกรรมปุณณวิถี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องโครงการย่านนวัตกรรม 15 ย่านของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) มีขนาดพื้นที่ประมาณ 77,000  ตารางเมตร เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว โดย จัดแบ่งพื้นที่เป็น 4 โซน ได้แก่ Co-working Space สำหรับการทำงาน เรียนรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน, Enterprise Space สำนักงานบริษัทข้ามชาติ และเหล่าสตาร์อัพ, Innovation Space ศูนย์นวัตกรรม และเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นนำ, และ Events and Business Services Space WHIZDOM101_Wide

ทั้งนี้โครงการบ่มเพาะวิสาหกิจเริ่มต้น (Incubators and Accelerators) เพื่อเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์รอบด้านในการทำธุรกิจ และสร้างเครือข่ายชุมชนสตาร์ทอัพในระดับภูมิภาค  ซึ่งเป็นแหล่งรวมนักลงทุนจากทั่วโลก (Investors and VCs) ที่มองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ VIEW1_020717_Final2-SM

“ปัจจุบัน โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จราวปลายปี 2561 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ความร่วมมือการจัดตั้งศูนย์บริการดิจิทัลแบบเบ็ดเสร็จ (Digital One Stop Service) รวมทั้งบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ และกลุ่มสตาร์ทอัพให้ความสนใจเป็นอย่างมาก  ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นและดึงเงินลงทุน (Funding) จากทั่วโลกเข้ามาในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย สอดคล้องตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในยุคไทยแลนด์ 4.0”