ปาร์ค ทู โก ทุ่ม 400 ล้าน พัฒนาแอพฯ–เพิ่มช่องจอด
ปาร์ค ทู โก กางแผนธุรกิจ เดินหน้าเปิดตัวแอพพลิเคชัน “p2go’’ ให้บริการจองที่จอดรถผ่านมือถือครั้งแรกในไทยพร้อมจับมือพันธมิตรขยายจุดจอดรถ และลงทุนติดตั้งอีวี ชาร์จเจอร์ หวังรองรับรถยนต์ไฟฟ้า
นายอภิราม สีตกะลิน ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ปาร์ค ทู โก จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือปาร์คพลัส ให้บริการธุรกิจเช่าพื้นที่ในการจอดรถแบบสมาร์ทพาร์คกิ้ง หรือพื้นที่จอดรถอัจฉริยะ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 2560- 2561 เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 300-400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชัน “p2go”, การลงทุนติดตั้ง อีวี ชาร์เจอร์ ,การเพิ่มจุดจอดรถเป็น 1,000 ช่องจอดในปีหน้า
สำหรับแผนงานในส่วนของแอพพลิเคชัน ‘p2go’ จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 34 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2560 ณ ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศ ไทย ที่ให้บริการจองที่จอดรถผ่านมือถือ
“เราจะเปิดตัวแอพ พลิเคชันนี้อย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป โดยลูกค้าที่จองที่จอดรถภายในงาน ผ่านแอพ “p2go” จองก่อนจอด จะได้รับสิทธิจอดรถโซน วีไอพี โดยที่ลูกค้าไม่ต้องวนหาที่จอดรถให้เสียเวลา เพียงคลิกจองผ่านแอพ ง่ายๆมีค่าใช้จ่าย 400 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายผ่านบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตก็ได้ นอกจากการอำนวยความสะดวกในการหาที่จอดรถแล้ว ลูกค้ายังได้รับของที่ระลึก และบัตรผ่านประตูเข้างาน 2 ใบ พร้อมกันนี้รายได้ยังนำไปร่วมสมทบกับมูลนิธิลมหายใจไร้มลทิน ”
นางสาววานิตา ศรีเฟื่องฟุ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาร์คทูโก จำกัด เปิดเผยว่า ได้ใช้เวลากว่า 2 ปีในการพัฒนาแอพพลิเคชัน “p2go” จองก่อนจอด โดยมีแนวคิดมาจากการแก้ไขปัญหาจราจร ช่วยให้ผู้ขับขี่วางแผนการเดินทาง และสามารถจองที่จอดรถล่วงหน้าก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทาง เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชันและกดจอง ปัจจุบันลูกค้าสามารถดาวน์ โหลด แอพพลิเคชัน “p2go” ผ่าน App Store ในระบบปฏิบัติการ IOS แต่สำหรับ Play Store ระบบ ปฏิบัติการ Android จะเปิดให้ใช้งานได้ในปีหน้า
นางสาวกุลยา สุวรรณเฮือน กรรมการ บริษัท ปาร์ค ทู โก จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้าจะลงทุนขยายจุดจอดรถเป็น 1,000 ช่องจอด โดยจะจับมือกับพันธมิตร อาทิ ห้างลา วิลล่า เซ็นทรัล เดอะมอลล์ บางสาขา เมกาบางนา ซึ่งจุดจอดแต่ละแห่งจะมีบริการอีวี ชาร์เจอร์ รองรับรถยนต์ไฟฟ้า ลูกค้าสามารถเข้ามาชาร์จไฟฟรี โดยบริษัทเป็นผู้ลงทุนติดตั้งเอง เฉลี่ยชุดละ 2 แสนบาท และจะทำการติดตั้งขั้นตํ่า 2-10 หัวในจุดจอดแต่ละแห่ง
โดยบริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2561 จะมาจากลานจอด 70% และแอพพลิเคชัน 30%เพิ่มขึ้นจากเดิมที่รายได้จากลานจอดคิดเป็น 90% และแอพพลิเคชัน 10%
“รายได้จากปาร์คทูโก ที่มาจากแอพพลิเคชัน ในปีนี้น่าจะเริ่มบวก มีการเบรกอีเวนต์ แต่ในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตเท่าตัว คิดเป็นเงินน่าจะทำได้กว่า 20 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากปาร์คพลัส ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับที่จอดรถอัตโนมัติ คาดว่าปีนี้รายได้เกือบ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 50 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้ารายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีลูกค้าในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ คอนโดมิเนียม, หมู่บ้านจัดสรร, โรงพยาบาล, โรงเรียน ที่ให้ความ สนใจ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,317 วันที่ 26 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
นายอภิราม สีตกะลิน ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ปาร์ค ทู โก จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือปาร์คพลัส ให้บริการธุรกิจเช่าพื้นที่ในการจอดรถแบบสมาร์ทพาร์คกิ้ง หรือพื้นที่จอดรถอัจฉริยะ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 2560- 2561 เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 300-400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชัน “p2go”, การลงทุนติดตั้ง อีวี ชาร์เจอร์ ,การเพิ่มจุดจอดรถเป็น 1,000 ช่องจอดในปีหน้า
สำหรับแผนงานในส่วนของแอพพลิเคชัน ‘p2go’ จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 34 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2560 ณ ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศ ไทย ที่ให้บริการจองที่จอดรถผ่านมือถือ
นางสาววานิตา ศรีเฟื่องฟุ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาร์คทูโก จำกัด เปิดเผยว่า ได้ใช้เวลากว่า 2 ปีในการพัฒนาแอพพลิเคชัน “p2go” จองก่อนจอด โดยมีแนวคิดมาจากการแก้ไขปัญหาจราจร ช่วยให้ผู้ขับขี่วางแผนการเดินทาง และสามารถจองที่จอดรถล่วงหน้าก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทาง เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชันและกดจอง ปัจจุบันลูกค้าสามารถดาวน์ โหลด แอพพลิเคชัน “p2go” ผ่าน App Store ในระบบปฏิบัติการ IOS แต่สำหรับ Play Store ระบบ ปฏิบัติการ Android จะเปิดให้ใช้งานได้ในปีหน้า
โดยบริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2561 จะมาจากลานจอด 70% และแอพพลิเคชัน 30%เพิ่มขึ้นจากเดิมที่รายได้จากลานจอดคิดเป็น 90% และแอพพลิเคชัน 10%
“รายได้จากปาร์คทูโก ที่มาจากแอพพลิเคชัน ในปีนี้น่าจะเริ่มบวก มีการเบรกอีเวนต์ แต่ในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตเท่าตัว คิดเป็นเงินน่าจะทำได้กว่า 20 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากปาร์คพลัส ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับที่จอดรถอัตโนมัติ คาดว่าปีนี้รายได้เกือบ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 50 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้ารายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีลูกค้าในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ คอนโดมิเนียม, หมู่บ้านจัดสรร, โรงพยาบาล, โรงเรียน ที่ให้ความ สนใจ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,317 วันที่ 26 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
