ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความกังวลต่อความตึงเครียดในตอ.กลาง

14 พ.ย. 2560 | 03:22 น.
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้มีความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง โดยการกวาดล้างคอรัปชั่นภายใต้การนำของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎหราชกุมารของซาอุดิอาระเบียในเดือนนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อความกังวลของนักลงทุนต่อเสถียรภาพทางการเมืองในซาอุฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง รวมถึงความกังวลต่อสงครามในเยเมนที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างซาอุฯ และ อิหร่านเพิ่มมากขึ้น

+ โอเปกคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบปี 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 360,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 33.42 ล้านบาร์เรลต่อวัน และกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในเดือน ต.ค. 60 ปรับตัวลดลงจากเดือน ก.ย. 60 150,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 32.59 ล้านบาร์เรล ซึ่งคาดการณ์ว่าถ้ากลุ่มโอเปกคงกำลังการผลิตไว้เท่ากับเดือน ต.ค. 60 ต่อไปจะส่งผลให้อุปทานไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบในปีหน้า และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะปรับตัวลดลงแตะระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีในปี 2561

วิทยุพลังงาน - Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 9 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 738 แท่น ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปทานน้ำมันเบนซินลดลงจากการที่โรงกลั่นน้ำมันในอินเดียได้ลดกำลังการผลิตลงในระหว่างช่วงปิดซ่อมบำรุง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นหลังจากจบช่วงฤดูมรสุมลง อย่างไรก็ตามยังคงไม่มีคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ที่ส่งออกน้ำมันดีเซลไปภูมิภาคต่างๆ

14-11-2560-10-15-02.-02 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 60-65  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

10359794_s-9 ปัจจัยที่น่าจับตามอง

การขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีความเป็นไปได้มากขึ้น หลังยังไม่มีประเทศใดคัดค้านข้อตกลงนี้ นอกจากนี้เลขาธิการกลุ่มโอเปก เผยว่า โอเปกกำลังหาทางบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตให้ได้ก่อนการประชุมในวันที่ 30 พ.ย. เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว

ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านซึ่งเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังรัฐบาลซาอุดิอาระเบียกล่าวหาอิหร่านว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์การโจมตีด้วยขีปนาวุธไปยังสนามบินนานาชาติคิงคาลิดทางเหนือของกรุงริยาด ซึ่งกระทำโดยกลุ่มกบฏฮูธีในเยเมน รวมถึงเหตุการณ์ในเลบานอนที่มีการเพิกเฉยในการกวาดล้างกลุ่มฮิสบอลลาห์ (Hezbollah) ซึ่งหนุนโดยอิหร่าน ประกอบกับ นายกรัฐมนตรีเลบานอนของนายซาอัด ฮาริรี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับซาอุดิอาระเบียประกาศลาออกจากตำแหน่ง

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับขึ้นหลักๆ มาจากการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นราว 67,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 9.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ e-book