รีแบรนด์รถหรูมือ2 เบนซ์-วอลโว่ ปรับใหญ่ BMW หวังราคาไม่ตก
ค่ายยุโรป ปรับธุรกิจรถยนต์มือ 2 ครั้งใหญ่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” เปลี่ยนชื่อจาก พรูเวนท์เอ็กซ์คลูซิวิตี้ เป็นเซอร์ทิฟายด์ พรี-โอน วีฮิเคิลส์ เน้นสภาพดี เช็กประวัติได้ “วอลโว่” เปิด “ซีเล็คส์” รับลูกค้าเทรดอิน ชูบริการหลังการขาย ฝั่ง “บีเอ็ม ดับเบิลยู” เชื่อแคมเปญรถใหม่ “ฟรีดอม ชอยส์” ช่วยพยุงราคาขายรถเก่า
การรักษาราคารถยนต์มือ2ไม่ให้ตกตํ่า ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยผลักดันยอดรถใหม่ในทางอ้อม ซึ่งค่ายรถยนต์ระดับหรูเข้าใจในหลักการนี้เป็นอย่างดี และพยายามสร้างธุรกิจรถใหม่และรถเก่าให้เดินคู่ขนานกันไปอย่างเข้มแข็ง
อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมรีแบรนดิ้งธุรกิจรถยนต์มือ 2 และมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
เดิม เมอร์เซเดส-เบนซ์ เคยใช้ชื่อแผนกรถใช้แล้วว่า “ไอดีวัน”(iD1) หลังจากนั้นในปี 2555 ได้รีแบรนด์เป็น “พรูเวนท์เอ็กซ์คลูซิวิตี้” (Proven Exclusivity) ล่าสุดเปลี่ยนเป็น “เซอร์ทิฟายด์ พรี-โอน วีฮิเคิลส์”(Certified Pre-owned vehicles) คาดว่าจะทยอยให้ผู้แทนจำหน่ายปรับเปลี่ยนและเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ วันที่1 มกราคม 2561
โดยหวังบริการลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งรับซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน รถใช้แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวรถ เมื่อเจ้าของรถนำรถมาขายต่อ ก็จะมีราคากลางที่ได้มาตรฐาน ไม่กดราคา อีกทั้งสิทธิการรับประกันต่างๆยังโอนไปยังเจ้าของรถคนใหม่ได้
สำหรับเงื่อนไขของรถที่นำมาจำหน่ายคือต้องเป็นรถที่ซื้อมาจากผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเมอร์เซเดส-เบนซ์เท่านั้น เป็นรถที่ใช้งานไม่เกิน 8 ปี ระยะทางไม่ถึง 150,000 กิโลเมตรและไม่เกิดความเสียหายบนโครงสร้าง รถทุกคันจะต้องตรวจสอบตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้กว่า 200 จุด และสามารถที่จะตรวจเช็กประวัติของรถได้ลูกค้าที่สนใจ ยังสามารถทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อ และมีบริการทางการเงินพิเศษจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่งหากลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของรถก็จะได้รับประกัน สูงสุด 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ,บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน “วอลโว่” ค่ายรถหรูจากสวีเดน โดย “คริส เวลส์” กรรมการผู้จัดการคนใหม่ของ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า พยายามเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถมือ 2 ด้วยการเปิดแผนก “วอลโว่ ซีเล็คส์” (Volvo Selekt) ที่มีจุดเด่นคือ สามารถทำราคาที่เหมาะสม และมีบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้า
“วอลโว่ ซีเล็คส์ เพิ่งเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยมีรถใช้แล้วทั้งรถเดโม และรถมือ 2 ทั่วไปที่ลูกค้านำมาเทรดอิน ซึ่งวอลโว่จะมีการตรวจสอบคุณภาพรวมไปถึงการอัพเกรดซอฟต์แวร์ก่อนนำมาขาย รวมไปถึงการขยายช่วงเวลารับประกันผลิตภัณฑ์และการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนเพื่อความพึงพอใจลูกค้าเป็นหลัก”
โดยบริษัทตั้งเป้าเปิด วอลโว่ ซีเล็คส์ ทุกโชว์รูมและศูนย์บริการครบทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ หรือลูกค้าสามารถเข้าชมที่ www.selekt.volvocars.co.th
“ส่วนภาพรวมตลาดรถหรูเติบโตประมาณ 20- 23% และวอลโว่ มีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดที่ 30-40 % คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะทำยอดขายได้ประมาณ 1,100 คัน ขณะที่การแข่งขันในตลาดรถหรูนั้นถือว่ารุนแรง เพราะแต่ละบริษัทมีเป้าหมายที่เติบโต ดังนั้นจึงมีการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดในทุกมิติออกมาสู้กัน ไม่ว่าจะเป็น ราคา, แคมเปญ, รถรุ่นใหม่, การบริการหลังการขาย” นายคริส เวลส์ กล่าว
ส่วน “บีเอ็มดับเบิลยู” ที่มีแผนก “พรีเมียม ซีเลคชัน” เน้นรับรถสภาพดี เลขไมล์น้อย(ไม่เกิน 1 แสนกม.) ไม่เคยโดนอุบัติเหตุรุนแรงและก่อนขายต่อต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดตามมาตร ฐานของบริษัทแม่ โดยลูกค้าที่ซื้อต่อยังได้รับประกัน 2 ปี หรือ 40,000 กม. รวมถึงสามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษของ บีเอ็มดับเบิลยูไฟแนนเชียล เซอร์วิส ในการผ่อนชำระได้อีกด้วย
ล่าสุดเปิดโปรแกรมสนับสนุนการขายรถใหม่ “ฟรีดอม ชอยส์” ให้ลูกค้า ดาวน์ตํ่า ผ่อนน้อยในช่วงระยะเวลา 4 ปี พร้อมโปรแกรม BMW Services Inclusive (BSI) ที่ดูแลเรื่องค่าซ่อมบำรุงรถยนต์ตลอดระยะ
เวลาสัญญา และหลังจากผ่อนไป 4 ปี ครบตามสัญญาจะเหลือเงินก้อน(บัลลูน)ที่ต้องชำระ ซึ่งลูกค้าจะมี 4 ทางเลือกคือ 1.คืนรถให้กับบริษัท 2.เริ่มสัญญาใหม่สำหรับรถบีเอ็มดับเบิลยูคันใหม่ 3.ชำระเงินก้อนสุดท้าย และ4.ขยายเวลาผ่อนชำระเงินก้อนสุดท้ายออกไปสูงสุดไม่เกิน 4 ปี
โดยโปรแกรมนี้ นอก จากจะช่วยผลักดันยอดขายรถใหม่แล้ว ยังมีผลโดยตรงต่อราคาขายต่อในอนาคต หรือรักษาราคารถยนต์มือ2 ของบีเอ็มดับเบิลยูไม่ให้ตกมากเกินไปอีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,313 วันที่ 12 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
การรักษาราคารถยนต์มือ2ไม่ให้ตกตํ่า ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยผลักดันยอดรถใหม่ในทางอ้อม ซึ่งค่ายรถยนต์ระดับหรูเข้าใจในหลักการนี้เป็นอย่างดี และพยายามสร้างธุรกิจรถใหม่และรถเก่าให้เดินคู่ขนานกันไปอย่างเข้มแข็ง
อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมรีแบรนดิ้งธุรกิจรถยนต์มือ 2 และมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
เดิม เมอร์เซเดส-เบนซ์ เคยใช้ชื่อแผนกรถใช้แล้วว่า “ไอดีวัน”(iD1) หลังจากนั้นในปี 2555 ได้รีแบรนด์เป็น “พรูเวนท์เอ็กซ์คลูซิวิตี้” (Proven Exclusivity) ล่าสุดเปลี่ยนเป็น “เซอร์ทิฟายด์ พรี-โอน วีฮิเคิลส์”(Certified Pre-owned vehicles) คาดว่าจะทยอยให้ผู้แทนจำหน่ายปรับเปลี่ยนและเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ วันที่1 มกราคม 2561
โดยหวังบริการลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งรับซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน รถใช้แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวรถ เมื่อเจ้าของรถนำรถมาขายต่อ ก็จะมีราคากลางที่ได้มาตรฐาน ไม่กดราคา อีกทั้งสิทธิการรับประกันต่างๆยังโอนไปยังเจ้าของรถคนใหม่ได้
สำหรับเงื่อนไขของรถที่นำมาจำหน่ายคือต้องเป็นรถที่ซื้อมาจากผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเมอร์เซเดส-เบนซ์เท่านั้น เป็นรถที่ใช้งานไม่เกิน 8 ปี ระยะทางไม่ถึง 150,000 กิโลเมตรและไม่เกิดความเสียหายบนโครงสร้าง รถทุกคันจะต้องตรวจสอบตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้กว่า 200 จุด และสามารถที่จะตรวจเช็กประวัติของรถได้ลูกค้าที่สนใจ ยังสามารถทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อ และมีบริการทางการเงินพิเศษจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่งหากลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของรถก็จะได้รับประกัน สูงสุด 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ,บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน “วอลโว่” ค่ายรถหรูจากสวีเดน โดย “คริส เวลส์” กรรมการผู้จัดการคนใหม่ของ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า พยายามเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถมือ 2 ด้วยการเปิดแผนก “วอลโว่ ซีเล็คส์” (Volvo Selekt) ที่มีจุดเด่นคือ สามารถทำราคาที่เหมาะสม และมีบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้า
โดยบริษัทตั้งเป้าเปิด วอลโว่ ซีเล็คส์ ทุกโชว์รูมและศูนย์บริการครบทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ หรือลูกค้าสามารถเข้าชมที่ www.selekt.volvocars.co.th
“ส่วนภาพรวมตลาดรถหรูเติบโตประมาณ 20- 23% และวอลโว่ มีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดที่ 30-40 % คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะทำยอดขายได้ประมาณ 1,100 คัน ขณะที่การแข่งขันในตลาดรถหรูนั้นถือว่ารุนแรง เพราะแต่ละบริษัทมีเป้าหมายที่เติบโต ดังนั้นจึงมีการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดในทุกมิติออกมาสู้กัน ไม่ว่าจะเป็น ราคา, แคมเปญ, รถรุ่นใหม่, การบริการหลังการขาย” นายคริส เวลส์ กล่าว
ส่วน “บีเอ็มดับเบิลยู” ที่มีแผนก “พรีเมียม ซีเลคชัน” เน้นรับรถสภาพดี เลขไมล์น้อย(ไม่เกิน 1 แสนกม.) ไม่เคยโดนอุบัติเหตุรุนแรงและก่อนขายต่อต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดตามมาตร ฐานของบริษัทแม่ โดยลูกค้าที่ซื้อต่อยังได้รับประกัน 2 ปี หรือ 40,000 กม. รวมถึงสามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษของ บีเอ็มดับเบิลยูไฟแนนเชียล เซอร์วิส ในการผ่อนชำระได้อีกด้วย
โดยโปรแกรมนี้ นอก จากจะช่วยผลักดันยอดขายรถใหม่แล้ว ยังมีผลโดยตรงต่อราคาขายต่อในอนาคต หรือรักษาราคารถยนต์มือ2 ของบีเอ็มดับเบิลยูไม่ให้ตกมากเกินไปอีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,313 วันที่ 12 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
