ชูยุทธศาสตร์สินค้าเกษตร หวังสู้เวียดนาม-มาเลเซีย
เอกชนจี้ทุกฝ่ายดันยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรแห่งชาติในสินค้าทุกรายการ หลังที่ผ่านมายังวนในอ่าง แก้ปัญหาเดิมๆ ยกจีน เวียดนาม เกาหลี มาเลย์ไปไกลแล้ว
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” โดยระบุว่าประเทศไทยควรมียุทธศาสตร์แห่งชาติด้านสินค้าเกษตรได้แล้ว หลังไม่มีโครงการรับจำนำข้าว เพราะที่ผ่านมาไทยยังไม่เคยมียุทธศาสตร์จริงๆ เลย ไม่ใช่เฉพาะข้าวเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงพืชไร่ไม่ว่าจะเป็นมันสำปะหลัง ข้าวโพด และอื่นๆ ซึ่งจะเน้นยุทธศาสตร์สินค้าตัวใด แบ่งพื้นที่ปลูกอย่างไร เช่นเราไม่จำเป็นต้องปลูกข้าวให้พอส่งออกปีละ 11 ล้านตัน แต่ถ้าสามารถทำอย่างอื่นที่มีตลาดรองรับก็จะส่งผลดีต่อเกษตรกร และภาคส่วนที่เกี่ยวเนื่อง
[caption id="attachment_113520" align="aligncenter" width="492"]
เจริญ เหล่าธรรมทัศน์[/caption]
ทั้งนี้ในความเป็นจริงพื้นที่ปลูกข้าวในภาคกลางก็เพียงพอต่อการส่งออกแล้วเพราะเป็นพื้นที่เขตชลประทาน ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ-อีสานแม้จะให้ผลผลิตปริมาณมากแต่เป็นข้าวนานํ้าฝนและอยู่นอกเขตชลประทาน ซึ่งปัญหาดังกล่าวควรได้รับการแก้ไขและวางแผนในระยะยาว ขณะที่หลายประเทศ เช่น จีน เวียดนาม เกาหลี มาเลเซีย ก็มีการวางแผนระยะยาวจากมีรัฐบาลที่มั่นคงทำให้นโยบายเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
“เรามีการพูดเรื่องยุทธศาสตร์มาทุกรัฐบาล แต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนเอาไปใช้อย่างจริงจัง เคยมีการทำยุทธศาสตร์ข้าวมาหลายฉบับแล้วแต่ทุกรัฐบาลที่ขึ้นมาก็อยู่ไม่เกิน 2 ปี เพราะฉะนั้นจึงไม่มีแผนระยะยาวว่าจะต้องทำอะไร ก็เลยไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นจึงต้องมีรัฐบาลที่มั่นคงที่จะอยู่ไปได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาและวางรากฐานสำหรับระยะยาวว่าประเทศจะเดินไปทางไหน อย่างยุทธศาสตร์ข้าวล่าสุดเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย 3 ปีที่ผ่านมายังแก้ไขปัญหาเดิม”
อย่างไรก็ตามนโยบายต่างๆ ควรให้คนในวงการเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยจึงจะรับรู้ถึงปัญหาจริงๆ ว่าควรทำอะไรบ้าง ที่ผ่านมาเอกชนมีความพยายามตั้งสภาข้าว โดยผู้ส่งออก โรงสี ผู้ค้าข้าว รวมไปถึงชาวนา เพื่อมานั่งคุยถึงปัญหาต่างๆ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขร่วมกันให้เกิดความยั่งยืน โดยมีหน่วยงานของภาครัฐเป็นตัวกลาง ได้มีการหารือกับรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน เพราะต้องการทำเหมือนกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและนํ้าตาล แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมากลายมาเป็นสถาบันการพาณิชย์ข้าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” โดยระบุว่าประเทศไทยควรมียุทธศาสตร์แห่งชาติด้านสินค้าเกษตรได้แล้ว หลังไม่มีโครงการรับจำนำข้าว เพราะที่ผ่านมาไทยยังไม่เคยมียุทธศาสตร์จริงๆ เลย ไม่ใช่เฉพาะข้าวเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงพืชไร่ไม่ว่าจะเป็นมันสำปะหลัง ข้าวโพด และอื่นๆ ซึ่งจะเน้นยุทธศาสตร์สินค้าตัวใด แบ่งพื้นที่ปลูกอย่างไร เช่นเราไม่จำเป็นต้องปลูกข้าวให้พอส่งออกปีละ 11 ล้านตัน แต่ถ้าสามารถทำอย่างอื่นที่มีตลาดรองรับก็จะส่งผลดีต่อเกษตรกร และภาคส่วนที่เกี่ยวเนื่อง
[caption id="attachment_113520" align="aligncenter" width="492"]
ทั้งนี้ในความเป็นจริงพื้นที่ปลูกข้าวในภาคกลางก็เพียงพอต่อการส่งออกแล้วเพราะเป็นพื้นที่เขตชลประทาน ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ-อีสานแม้จะให้ผลผลิตปริมาณมากแต่เป็นข้าวนานํ้าฝนและอยู่นอกเขตชลประทาน ซึ่งปัญหาดังกล่าวควรได้รับการแก้ไขและวางแผนในระยะยาว ขณะที่หลายประเทศ เช่น จีน เวียดนาม เกาหลี มาเลเซีย ก็มีการวางแผนระยะยาวจากมีรัฐบาลที่มั่นคงทำให้นโยบายเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามนโยบายต่างๆ ควรให้คนในวงการเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยจึงจะรับรู้ถึงปัญหาจริงๆ ว่าควรทำอะไรบ้าง ที่ผ่านมาเอกชนมีความพยายามตั้งสภาข้าว โดยผู้ส่งออก โรงสี ผู้ค้าข้าว รวมไปถึงชาวนา เพื่อมานั่งคุยถึงปัญหาต่างๆ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขร่วมกันให้เกิดความยั่งยืน โดยมีหน่วยงานของภาครัฐเป็นตัวกลาง ได้มีการหารือกับรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน เพราะต้องการทำเหมือนกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและนํ้าตาล แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมากลายมาเป็นสถาบันการพาณิชย์ข้าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
